จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,578
ลอเอลไม่ชอบให้สถานการณ์อยู่เหนือความควบคุม
นั่นเพราะมันยึดถือหลักการ ‘ทุกสิ่งต้องเคลื่อนไหวอยู่บนฝ่ามือ’
“ไม่ควรมีกองกำลังใดแข็งแกร่งเกินไป”
ลอเอลเริ่มจับตามองสมาคมการค้ามุโต้
สมาคมการค้ามุโต้
กองกำลังของพวกมันมีอำนาจเพิ่มขึ้นมากหลังจากเป็นผู้ผูกขาดเศรษฐกิจภายในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ถึงขั้นถูกเรียกว่า อาณาจักรของมหาราชามุโต้
และในความเป็นจริง หากพิจารณาจากดินแดนที่ถือครอง ไม่เกินจริงไปนักหากจะจำแนกให้พวกมันเป็นแคว้น
เหนือกว่า ‘เคียร์’ ซึ่งเป็นผู้เล่นคนแรกที่ถูกขนานนามว่าราชาพ่อค้า ที่ในตอนนั้นยังเป็นเจ้าของได้แค่ ‘เมือง’
“สมาคมการค้ามุโต้เป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรา พวกเขายึดถือนโยบายหนึ่งส่วนสิบอย่างเคร่งครัด มีความจำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษด้วยหรือ…?”
หนึ่งส่วนสิบ
สื่อถึงผลกำไรที่มุโต้จะได้รับหลังจากจับมือเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
พิจารณาจากสภาพแวดล้อมในตอนนั้น เรียกได้ว่ามุโต้แทบไม่หวังผลกำไร
สามารถกล่าวได้ว่าเป็นสัญญาทาส หรือแม้กระทั่งงานการกุศล
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวมุโต้เองก็ยังเป็นสมาชิกของกิลด์โอเวอร์เกียร์สอง
ในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง มุโต้ได้มอบทั้งข้อมูลและกำลังคนให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์หยิบยืมโดยไม่คิดเงิน
และแม้สมาคมการค้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยสถานะผู้ผูกขาดเศรษฐกิจ แต่กำไรที่ได้รับก็ถือว่าน้อยนิดหากเทียบกับความเหน็ดเหนื่อยที่ทุ่มเทลงไป
ฮิวรอยยังไม่เข้าใจว่า เหตุใดลอเอลถึงต้องการจ้างสมาคมการค้าอื่นเพื่อเข้ามาคานอำนาจกับมุโต้
ลอเอลอธิบาย
“ฉันไม่เคยสงสัยหรือเกลียดชังมุโต้ แต่กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในสมาคมการค้า มุโต้มีโอกาสที่จะถูกปั่นหัวจนสูญเสียอำนาจในมือหรือไม่ก็ถูกโน้มน้าวจนไขว้เขว นายคงไม่รู้สินะว่าสมาคมการค้ามุโต้มีผู้บริหารระดับสูงเกินกว่าสามสิบคน”
“ฉันได้ยินว่ามุโต้เลือกสมาชิกจากคนของกริด…”
“การเมืองเป็นเรื่องของตัวบุคคล โดยเฉพาะพ่อค้า พวกเขามีแนวโน้มที่จะสูญเสียตัวตนและถูกความโลภครอบงำ ต้องไม่ลืมว่าจุดสูงสุดของคนกลุ่มนี้คือการแสวงหากำไร ลองคิดดูให้ดี หากพวกเขามีอิทธิพลในจักรวรรดิของกริดมากเพียงพอ อาจแอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ หลังกริดก็ได้”
“…”
ฮิวรอยทำหน้าครุ่นคิด
ดวงตาที่อ่อนโยนราวกับลูกสุนัข ค่อยๆ ทวีความน่าสะพรึงทีละน้อย
สำหรับฮิวรอยผู้เป็นลูกน้องคนแรกของกริด กริดคือผู้ปกครองและเทพเพียงหนึ่งเดียวของมัน
มันย่อมเดือดดาลเพียงแค่คิดว่าจะมีใครแอบคิดร้ายกับกริด
“สมาคมการค้าไลออนที่นายเพ่งเล็งด้วยพรสวรรค์ของปีศาจ ความแข็งแกร่งของพวกเขา… มั่นคงมากหากเทียบกับขนาดธุรกิจ เงินทุนจากภายนอกหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายราวกับน้ำพุที่ไม่มีวันเหือดแห้ง ยากที่จะให้เชื่อว่าเป็นการสนับสนุนจากกองกำลังเบื้องหลังเพียงอย่างเดียว บางที อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังยุ่งอยู่กับการดึงดูดนักลงทุนจากภายนอกเข้ามาสมทบ จึงมิอาจตรวจพบสายลับที่อยู่ในองค์กร?”
แน่นอน สายลับที่ว่าก็คือฮิวรอย
ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน
หลังจากปลอมตัวเป็นบุคคลนิรนามและแทรกซึมเข้าไปในสมาคมการค้าไลออน ฮิวรอยยังคงดำเนินแผนงานต่อไป
มันล้วงข้อมูลสำคัญได้เป็นจำนวนมากโดยที่ไม่ถูกเปิดโปงสถานะสายลับ กระทั่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับกลาง
ลอเอลมองว่าเป็นความดวงดีที่หาได้ยาก
เนื่องจากสมาคมการค้าไลออนเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการหาเงินลงทุนจากภายนอก ทีมบริหารจึงไม่ค่อยมีเวลาว่าง และจำเป็นต้องพึ่งพาบุคลากรใหม่ในการทำงานหลายด้าน
แน่นอนว่าความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากฝีมือการปลอมตัวและการแสดงของฮิวรอยเอง
สมแล้วที่เป็นนักพูด
อาชีพที่หากินด้วยปาก
“สมาคมการค้าไลออนชอบลงทุนเงินก้อนโตไปกับธุรกิจหน้าใหม่ หากพวกเขามีโอกาสได้ทำการค้ากับเรา ก็มีแนวโน้มว่าจะทุ่มเงินเป็นสัดส่วนเกินกว่าครึ่งขององค์กรเช่นกัน ซึ่งนั่นจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการสร้างลิฟต์นรก… แต่แน่นอน ฮิวรอย นายต้องโน้มน้าวพวกเขาให้ดี”
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล เจ้าของสมาคมการค้าเชื่อคำพูดของฉันมาก”
“สมแล้วที่เป็นฮิวรอย… กริดคิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกนายเป็นลูกน้องคนแรก”
“เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย…”
หากงานแรกของสมาคมการค้าไลออนคือการสร้างลิฟต์นรก พวกมันก็ดีพอที่จะเติบโตขึ้นเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อของสมาคมการค้ามุโต้
เมื่อมีคู่แข่งเพิ่มเข้ามาในสังเวียน สมาคมการค้ามุโต้ก็จะเกิดความตระหนักและไม่กล้า ‘ล้ำเส้น’
นอกจากนั้น เมื่อสมาคมการค้าทั้งสองแข่งขันกันอย่างดุเดือด จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์จะมีแต่ได้กับได้
และไม่มีทางที่ทั้งสองสมาคมจะร่วมมือกันเพื่อโค่นโอเวอร์เกียร์
เฉกเช่นที่ฮิวรอยแฝงตัวอยู่ในสมาคมการค้าไลออน ลอเอลได้วางสายลับไว้ในสมาคมการค้ามุโต้มาสักพักแล้ว ทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มที่จะถูกกระตุ้นให้แข่งขันกันไปตลอดกาล
แผนการนี้เปี่ยมไปด้วยความชอบธรรม
นั่นเพราะในทางปฏิบัติ เป็นไปไม่ได้ที่จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์ซึ่งพัฒนามาจากอาณาจักร จะถูกผูกขาดด้วยสมาคมการค้าเพียงเจ้าเดียว
สมาคมการค้ามุโต้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำใจยอมรับ พวกมันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะผิดหวัง
‘ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสดีที่จะเข้าถึงเบื้องหลังของสมาคมการค้าไลออน เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว’
***
สองวันถัดมา สมาคมการค้าไลออน
“ดูเหมือนว่าหนทางในการค้าขายกับจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์จะเปิดกว้างแล้ว”
“จริงหรือ…? เขตการค้าของจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์มิได้ถูกผูกขาดโดยสมาคมการค้ามุโต้หรอกหรือ? จะเป็นไปได้ยังไง?”
“ต้องขอบคุณเบื้องบนกับเจ้านายที่ไว้ใจและมอบหมายงานให้ผมทำมาตลอด หลังจากพยายามตอบแทนความไว้ใจนั้น ในที่สุดผมก็ได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่”
“ฮะฮะ…! ยอดเยี่ยมมาก! คุณเป็นเหมือนกับเครื่องรางนำโชคของพวกเรา! นับเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สมาคมการค้าของเราได้จ้างคุณ!”
“ฮะฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ฮะฮะฮะ!”
ผู้มอบความสุข และผู้ได้รับความสุข
เจ้าของสมาคมอย่างซอมเยซึ่งอยู่ฝ่ายผู้ได้รับความสุข กลับกำลังปวดหัวอย่างหนัก
ตรงข้ามกับใบหน้ายิ้มแย้ม หัวใจของมันกำลังหดหู่
‘เราไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกโอเวอร์เกียร์’
ซอมเยเข้าใจแจ่มแจ้งถึงเหตุผลที่โอเวอร์เกียร์ส่งฮิวรอยมาเป็นสายลับ
หนึ่งในหลายสิบองค์กรสาขาของอินเฟอร์โน
กิลด์โอเวอร์เกียร์ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของสมาคมการค้าไลออนและพยายามตีสนิท
เป้าหมายสูงสุดคงหนีไม่พ้นการเปิดโปงการดำรงอยู่ของอินเฟอร์โน
จริงอยู่ที่ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอินเฟอร์โนถูกทำลายไปแล้ว และผู้เดียวในสมาคมที่สามารถติดต่อกับอินเฟอร์โนได้ก็คือ ‘ไลออน’ ทว่า
การซ่อนหางย่อมมีขีดจำกัด
หากที่ซ่อนไว้จะโผล่ออกมาทันทีที่มีการค้าขายกับกิลด์โอเวอร์เกียร์
จริงอยู่ ต่อให้อินเฟอร์โนถูกเปิดโปง ก็ใช่ว่าจะเกิดความเสียหายใดกับพวกมัน
การพยายามขุดคุ้ยสมาคมการค้าไลออน ยังไม่เพียงพอที่จะสืบลึกไปถึงภายในอินเฟอร์โนได้
และในความเป็นจริง แม้แต่ตัวซอมเยเองก็ยังไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของอินเฟอร์โน
อย่างไรก็ดี มันกังวลถึงการล่มสลายของสมาคมการค้าไลออน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าการขุดคุ้ยของกิลด์โอเวอร์เกียร์ สร้างความเสียหายแก่สมาคมการค้าไลออนจนถูกทอดทิ้งจากทั้งสองฝ่าย?
‘ไลออนบอกว่าอย่าไปยึดติดกับสมาคมการค้า แต่สำหรับเรา สมาคมการค้าคือทุกสิ่ง…’
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซอมเยกำลังประหม่าและวิตกสุดขีด
แต่มันมิอาจแสดงออกมา จึงทำได้เพียงหัวเราะตามน้ำไปพร้อมกับฮิวรอย
***
หลังจากวงแหวนเทพถูกซ่อมเสร็จ
“ทางนี้ติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่”
คณะเดินทางของกริดกล่าวคำอำลากับต้นไม้โลกอย่างสุภาพ
ไม่เพียงแต่เหล่าเอลฟ์ กระทั่งเหล่าราชาภูตก็ยังมาส่งกริดกลับ
> เฮ้! ภูตแห่งความว่างเปล่า ว่างๆ ก็กลับมาเที่ยวเล่นที่โลกแห่งธาตุบ้าง ที่นี่คือบ้านเกิดของเจ้า
> ตกลง เจ้าก้อนไฟ
> ยังไม่เลิกเรียกแบบนี้อีก!
> การมีชื่อเล่นก็ไม่ได้แย่นักหรอก ข้าชอบชื่อก้อนน้ำ
> ข้าชอบ ก้อนดิน
> ข้าไม่ชอบก้อนลมเท่าไร… แต่ก็ดีใจที่ภูตแห่งความว่างเปล่าตั้งชื่อให้
> เป็นบ้ากันไปหมด…
นอกเหนือจากการราชาภูตไฟที่ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
เหล่าราชาภูตรู้สึกมีความสุขที่ได้เป็นอิสระจากการกดขี่ของราชาภูตแสง ส่วนบรรดาเอลฟ์ต่างก็ชื่นชอบฝีมือการทำอาหารของกริด
การอัญเชิญเหล่าราชาภูตอาจทำให้ระดับตัวตนของต้นไม้โลกลดลง แต่นั่นเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้
กริดวางแผนปลุกระดมให้ชาวจักรวรรดิหันมาเคารพบูชาต้นไม้โลก
ตราบใดที่เอลฟ์อนุญาต มนุษย์ก็สามารถเข้ามาในป่าและกราบไหว้บูชาต้นไม้โลกได้ ซึ่งนั่นจะช่วยฟื้นฟูระดับตัวตนได้อย่างรวดเร็ว
‘ต้นไม้โลกเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ในทุกกรณี’
ลำพังการดำรงอยู่ก็สามารถฟอกอากาศและมานาให้บริสุทธิ์
มนุษยชาติจะมีอนาคตที่ดีก็ต่อเมื่อต้นไม้โลกสุขภาพดี
> มาหาข้าได้ทุกเมื่อที่ต้องการความช่วยเหลือ
> ฉันจะไม่มาหาแค่ตอนที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่จะแวะมาพูดคุยทุกครั้งที่มีโอกาส
> ยินดีต้อนรับ หวังว่าจะได้พบกับเจ้าบ่อยขึ้น
การเดินทางอันยาวนานถึงคราวสิ้นสุดลง
***
“บ้าน่า…”
“นายทำได้!”
ก่อนจะกลับไปยังไรน์ฮาร์ท
กริดแวะหอแห่งปัญญาพร้อมกับไฟโวล์ฟ
สองพี่น้องฟรอนซาลล์เกิดความซาบซึ้งเมื่อได้เห็นวงแหวนเทพถูกซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์
‘เทพ’ ของเหล่าคนยักษ์โบราณถูกฟื้นฟูกลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต
พวกมันประทับใจอย่างมากจนน้ำตาเอ่อล้นโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าคือผู้มีพระคุณของเผ่าพันธุ์เรา”
“ไม่ถึงขนาดนั้น”
กริดรีบส่ายหน้า
“ฉันดีใจที่ได้เป็นแรงสนับสนุนเล็กๆ ให้กับเหล่าผู้ที่ต่อสู้เพื่อนสันติภาพของโลกมาอย่างยาวนาน ฉันซาบซึ้งบุญคุณของพวกนายเสมอ นอกจากนั้น คนที่ซ่อมแซมวงแหวนเทพก็ยังไม่ใช่ฉัน แต่เป็นไฟโวล์ฟ”
“ความช่วยเหลือจากต้นไม้โลกมีส่วนสำคัญอย่างมาก บางทีอาจมีความสำคัญสูงสุด”
แม้จะตระหนักได้นานแล้ว แต่ก็เป็นอีกครั้งที่กริดรู้สึกว่าไฟโวล์ฟเฉลียวฉลาดมาก
ความดีความชอบทั้งหมดถูกยกให้ต้นไม้โลก
เพื่อกระตุ้นให้ต้นไม้โลกฟื้นตัวกลับมาเร็วขึ้น
เพราะมันทราบว่าสิ่งนี้คือความปรารถนาของกริด
‘แล้วจะไม่ให้ชอบได้ยังไง’
ไฟโวล์ฟอาจเป็นพวกวิตถาร
แม้กระทั่งตอนนี้ มันยังเอาแต่ลูบไล้ร่างกายตัวเอง
ทว่า ความรู้สึกต่อต้านในใจกริดได้จางหายไปตามกาลเวลา และแทนที่ด้วยความชื่นชอบ
กริดเชื่อมตลอดว่า ยิ่งทั้งสองฝ่ายมีสติปัญญามากเพียงใด ความสัมพันธ์ก็ยิ่งแนบแน่นเท่านั้น
แต่น่าเสียดาย ความเชื่อดังกล่าวยังมิใช่สัจธรรม
ขณะชายหนุ่มส่ายหน้าพลางนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างลอเอลและบราฮัม ข้อความระบบใหม่แจ้งเตือนขึ้นตรงมุมสายตา
เป็นข้อความที่ระบุว่า ค่าความสัมพันธ์กับฟรอนซาลล์เพิ่มขึ้นขีดจำกัดแล้ว
ตามด้วยข้อความว่า เหล่าผู้เหลือรอดของคนยักษ์ทรงปัญญา กลายมาเป็นผู้ศรัทธาในต้นไม้โลก
***
“แรงขึ้นสี่เท่า”
กรุงไรน์ฮาร์ท วิหารใหญ่ของศาสนจักรโอเวอร์เกียร์
ศาสนาดาเมี่ยนได้รับเกียรติให้เป็นกระสอบทราบของเทพโอเวอร์เกียร์
มันมิอาจปิดปากสนิทหลังจากสัมผัสถึงความแตกต่างระหว่าง ท่ารำดาบผสานห้าชนิดและหกชนิด
ท่ารำดาบที่ถูกวิวัฒนาการจนมีคุณสมบัติไร้ธาตุ
สอดคล้องกับการเติบโตของกริด ท่ารำดาบของสาวกโบสถ์เองก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน
เหล่าผู้เล่นสังกัดโบสถ์โอเวอร์เกียร์มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์ ‘เก่งขึ้นทั้งที่ยืนอยู่เฉยๆ’
“นอกจากนั้น การการันตีสถานะ ‘สตัน’ ก็เป็นคุณสมบัติที่น่าทึ่งมาก”
“พูดตามตรง ทางนี้เองก็ยังไม่เชื่อสายตา”
“นายบอกว่ามันคือทักษะ ‘สุดยอดวิชาต่อสู้’ ใช่ไหม? ในอนาคตจะส่งผลกับท่ารำดาบของสมาชิกโบสถ์ด้วยรึเปล่า…?”
“หืม… คงไม่”
สุดยอดวิชาต่อสู้คือพรที่ซือโหยวมอบให้กริดด้วยตัวเอง
หากจะให้แบ่งระดับ เกรดของมันคงเป็น ‘หนึ่งเดียว’
คนอื่นนอกจากกริดคงมิอาจครอบครองได้ชั่วชีวิต
‘ถ้าพวกพ้องของเราได้ด้วยก็คงจะดี’
แต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้
กริดที่ได้แต่นึกเสียดาย ทำการย้ายสถานที่
จุดก่อสร้างลิฟต์นรก
ภาพที่ยูร่ากำลังเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง ‘มิติขุมนรก’ กับลิฟต์ และคอยให้คำแนะนำกับวิศวกร ดึงดูดความสนใจกริดในทันที
‘งดงามมาก’
ยูร่ากำลังแต่งกายในผ้าคลุมสีเงินสว่างที่เกิดจากการจำแลงกายของภูตแห่งความว่างเปล่า
ผ้าคลุมที่พัดกระพือได้เองโดยไม่ต้องใช้ลม ดูเปี่ยมไปด้วยความสง่างามเหนือพรรณนา
มันสามารถดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็นได้ทันที ประหนึ่งช่วยส่งเสริมความงามของยูร่าขึ้นไปอีกขั้น
คงไม่มีใครรู้สินะ ว่าผ้าคลุมนั่นสามารถเปลี่ยนเป็นชุดศึกรัดรูปได้ด้วย?
เมื่อตระหนักว่าตนเป็นเพียงไม่กี่คนที่ทราบความลับของยูร่า กริดเกิดความรู้สึกเหนือกว่าทันที ขณะเดียวกันก็เริ่มคาดหวังในตัวยูร่า
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ภูตแห่งความว่างเปล่าคือไอเท็มใหม่ของยูร่า
เนื่องจากเปลี่ยนรูปร่างได้มากมาย ประโยชน์การใช้งานจึงไม่ต่างจากหัตถ์เทวะ เป็นได้ทั้งอาวุธและชุดเกราะที่แข็งแกร่ง ซึ่งถือจุดแข็งที่ยากจะหาได้จากไอเท็มชิ้นใด
นั่นเพราะว่า นอกเหนือจากการมีอาวุธและชุดเกราะเพิ่มขึ้นจากปรกติ ภูตแห่งความว่างเปล่ายังสามารถเสริมพลังให้อาวุธและชุดเกราะของเดิมได้ด้วย
คล้ายกับทักษะ ‘ผสานไอเท็ม’ ที่ช่วยยกระดับไอเท็มขึ้นจากเดิมมาก
‘หมอนั่นจะต้องมีบทบาทสำคัญในสงครามกับบาเอลแน่’
การเตรียมตัวสำหรับแผนบุกนรกค่อยๆ คืบหน้าอย่างมั่นคง
“…?”
หลังจากจ้องยูร่าอย่างมีความสุขสักพัก กริดที่หันไปมองลิฟต์ทรงกระบอกซึ่งปลายทางคือนรก เผยสีหน้าประหลาดใจกะทันหัน
แผ่นหลังของมันกำลังเย็นวาบอย่างไร้เหตุผล
เมื่อหันกลับไป ชายหนุ่มเห็นเมอร์เซเดสกำลังมองไปยังทิศทางหนึ่งด้วยสายตาเย็นชา
เมื่อมองตามสายตาไป ที่นั่นมียูร่า
“…เมอร์?”
“เพคะ”
ใบหน้าของเมอร์เซเดสที่ขานตอบเปี่ยมไปด้วยความสดใสและงดงามราวกับดอกไม้บานสะพรั่ง แตกต่างจากภาพลักษณ์แสนเย็นชาเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
‘เราตาฝาดรึเปล่านะ…’
กริดส่ายหน้ากับตัวเอง ก่อนจะหันไปตรวจสอบลิฟต์อีกครั้ง
ก่อนที่ลิฟต์นรกจะเปิดให้บริการสาธารณะ กิลด์โอเวอร์เกียร์มีแผนส่งหน่วยสำรวจนำร่องลงไปก่อนสิบสองทีม
และในวันพรุ่งนี้
การแข่งขันเพื่อคัดเลือกกัปตันทั้งสิบสองคนจะถูกจัดขึ้นที่กรุงไรน์ฮาร์ท
การแข่งขันในคราวนี้ไม่เพียงนับเฉพาะเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ แต่เป็นศึกใหญ่ที่เปิดให้คนนอกอย่างดราโกเนียนลอร์ด ออร์คลอร์ด และราชาดาร์กเอลฟ์เข้าร่วม
นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้กะเกณฑ์ฝีมือของเหล่าแรงเกอร์ระดับท็อปก่อนงานแข่งนานาชาติ จึงเป็นธรรมดาที่จะได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างล้นหลาม
ใครบางคนถึงกับวิจารณ์ว่า ท่าทีการยอมเปิดเผยพลังของเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ เป็นพฤติกรรมที่หยิ่งยโส
แน่นอน กิลด์โอเวอร์เกียร์มิได้แยแส
เพราะสมาชิกทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งในคราวนี้ ไม่คิดจะลงแข่งนานาชาติอยู่แล้ว
นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่เข้าร่วมงานแข่งนานาชาติจะไม่ใช่ยอดฝีมือ หากแต่เป็นกลุ่มรองลงไปอย่างโค้ก ไอเบลลิน และโทบัน
ไอเท็มที่กริดสร้างขึ้นก่อนมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร แข็งแกร่งพอที่จะช่วยให้ผู้เล่นกลุ่มนี้กวาดเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำ
Comments
Post a Comment