จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,289



“ในเมื่อพืชทุกชนิดสามารถเพาะปลูกได้ในจุดที่มีสภาพดินเหมาะสมและแสงแดดเพียงพอ จึงน่าสนใจมากที่บอกว่า ต้นวอลนัทไม่สามารถเพาะปลูกได้เองโดยฝีมือมนุษย์…”


ขณะบุคคลระดับผู้นำของสองอาณาจักรกำลังสนทนา องครักษ์ของราชินีโอเวอร์เกียร์กลับโพล่งขึ้นอย่างไร้มารยาท 


พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลให้เหล่าขุนนางเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าโอเวอร์เกียร์ขาดความเคารพต่ออาณาจักรชิง จึงพากันถอนหายใจออกมาอย่างเงียบงัน


กริดที่อ่านสีหน้าและบรรยากาศของงานเลี้ยงได้อย่างทะลุปรุโปร่ง รีบกล่าวแนะนำตัวปิอาโร่เพื่อขจัดความเข้าใจผิดทันที


“บุคคลผู้นี้คือดยุคปิอาโร่แห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เขาดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่และชาวนา ถือเป็นสหายรักที่ฝ่าบาทกริดทรงให้ความไว้ใจมากที่สุด”


“…!”


ปิอาโร่พลันตื้นตัน


สหายรักที่ฝ่าบาทกริดไว้ใจมากที่สุด…


เมื่อตระหนักว่ากริดให้ความสำคัญกับตนมากเพียงใด มันทั้งดีใจและตื่นเต้น


จ้อกแจ้กจอแจ


ปิอาโร่กำลังขบกรามแน่นพลางเกร็งหน้าเพื่อมิให้บ่อน้ำตาแตก แต่ขุนนางของอาณาจักรชิงกลับเข้าใจผิดไปว่า นี่คือสีหน้าอันขึงขังและดุดันในฐานะแม่ทัพใหญ่


กษัตริย์ชิงที่ทราบตัวตนปิอาโร่อยู่ก่อนแล้ว กล่าวเพื่อระงับความสับสนของทุกฝ่าย


“ตามกำหนดการเดิมก็คือ หลังจากดื่มฉลองแก้วแรก เรามีแผนจะแนะนำตัวราชินีไอรีน และหลังจากดื่มแก้วที่สอง เราจะแนะนำตัวท่านแม่ทัพใหญ่ปิอาโร่ให้ทุกคนได้รู้จัก แต่ดูเหมือนเจ้าเมืองของเราจะขาดความอดทนไปสักนิด ทำให้เรื่องดังกล่าวถูกเลื่อนมาเร็วกว่ากำหนด”


“ฝ่าบาท กระหม่อมผิดไปแล้วขอรับ!”


“ได้โปรดประทานอภัยด้วย!”


หลังจากถูกตำหนิ ขุนนางอาณาจักรชิงต่างรีบโค้งศีรษะคำนับกษัตริย์เพื่อเป็นการขอขมา


สีหน้าเจ็บปวดของทุกคนล้วนมาจากใจจริง ปราศจากการเสแสร้ง ประหนึ่งพวกมันคือคนบาปเสียเต็มประดา สิ่งนี้ช่วยพิสูจน์ให้เห็นถึงอำนาจและบารมีในการปกครองของกษัตริย์ชิง


“เป็นความผิดของกระหม่อม… ในฐานะผู้ติดตาม กระหม่อมไม่ควรพูดแทรกกลางระหว่างบทสนทนาของสองผู้นำ”


ทางปิอาโร่ก็ให้เกียรติกษัตริย์ชิงไม่น้อย


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะอีกฝ่ายได้สานสัมพันธ์เลือดกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างเป็นทางการแล้ว


กษัตริย์ชิงอมยิ้มพลางช่วยแนะนำตัวปิอาโร่ให้เหล่าขุนนางได้รู้จักอีกครั้ง


“ดังที่ราชินีไอรีนกล่าวไว้ ท่านปิอาโร่คือแม่ทัพใหญ่ผู้กุมอำนาจทางทหารของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เหล่าขุนนางและข้าราชการเอ๋ย  พวกเจ้าทุกคนต้องให้เกียรติเขา”


“กระหม่อมจะจำใส่ใจเอาไว้”


กษัตริย์ชิงกล่าวด้วยสีหน้าและบรรยากาศเป็นกันเอง ส่งผลให้การตอบรับจากฝั่งขุนนางค่อนข้างกระตือรือร้น


แต่มีหนึ่งเรื่องที่พวกมันแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน


เมื่อสักครู่ ราชินีโอเวอร์เกียร์ได้กล่าวแนะนำตัวปิอาโร่ด้วยตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่และชาวนา 


เราคงหูฝาดไป… 


กริดที่สัมผัสถึงบรรยากาศดังกล่าวได้ชัดเจน ทำเพียงส่ายหน้าและหันไปหาปิอาโร่


‘หรือเราควรแนะนำเขาในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร? จะได้เลิกสงสัยกันเสียที’


อย่างไรก็ตาม เนื้อแท้ของปิอาโร่คือชาวนา และมันยินดีที่จะถูกแนะนำตัวว่าชาวนามากกว่าแม่ทัพใหญ่หรือดยุค


ขณะกริดคิดอย่างเป็นจริงเป็นจังว่าตนควรมอบตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรให้ปิอาโร่เพื่อใช้ติดต่อราชการภายนอก ใบหน้าแร็บบิทพลันผุดขึ้นในสมอง


‘…หมอนั่นต้องคัดค้านแน่ ไม่อย่างนั้นปิอาโร่จะได้ขึ้นเงินเดือน’


ช่างเถอะ ไว้ค่อยหาข้อสรุปในโอกาสถัดไป


กริดสลัดความคิดฟุ้งซ่านและหันไปกล่าวกับกษัตริย์ชิง


“หลังจากงานเลี้ยงจบลง ข้าต้องการเที่ยวชมป่าวอลนัทสีทองทันที”


“อีกเดี๋ยวพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว องค์ราชินีไม่อยากพักผ่อนก่อนหรือ”


แน่นอนว่ากริดกำลังเหนื่อยล้า


ร่างกายอยู่ในสภาพอ่อนเพลียเนื่องจากต้องดวลกับปิอาโร่มาตลอดการเดินทาง อีกทั้งยังต้องดวลกับซูซานทันทีที่มาถึงวังหลวง


อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่าแกรนมาสเตอร์อาจแวะมาเยือนได้ทุกเมื่อ ตนจึงควรรีบสะสางวัตถุประสงค์หลักให้เสร็จโดยเร็ว


“ราชวงศ์โอเวอร์เกียร์ถือคติว่า งานของวันนี้ก็ต้องทำให้เสร็จในวันนี้เท่านั้น”


“นั่นสินะ สมกับเป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่… เข้าใจแล้ว เราจะนำทางท่านไปชมเอง”


***


บรรยากาศของป่าวอลนัทผิดไปจากความคาดหมายของกริดมาก


ชายหนุ่มคาดหวังผืนป่าสีทองระยิบระยับที่มีผลวอลนัทห้อยลงจากกิ่งก้าน


แต่ในความเป็นจริง มันเป็นเพียงผืนป่าสีเขียวที่พบเห็นได้ทั่วไป


‘นึกว่าจะมีแต่วอลนัทสีทองเสียอีก…’


หลังจากเดินเข้าไปสำรวจต้นวอลนัทสีทองที่สูงราว 5 เมตร กริดต้องขมวดคิ้วเนื่องจากผลทั้งหมดบนต้นล้วนหุ้มด้วยผิวสีเขียว มิใช่ทองคำ


เฉกเช่นระบบ ‘สุ่มกาชา’ ที่คนทั่วโลกรวมถึงตัวกริดค่อนข้างรังเกียจ ผลของวอลนัทสีทองก็ใช้ระบบ ‘สุ่ม’ ไม่ต่างกัน


แถมยังมีอัตราต่ำจนน่าตกใจ


ผู้ดูแลป่าใช้ไม้ก้านยาวที่มีบ่วงติดปลาย เขย่ากึ่งหนึ่งจนผลวอลนัทร่วงกราวไม่ขาดสาย


กษัตริย์ชิงก้มหยิบหนึ่งผลพร้อมกับลอกผิวด้านนอกออก เผยให้เห็นเม็ดวอลนัทที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกแข็งสีน้ำตาล ไม่ต่างอะไรกับวอลนัททั่วไปเลยสักนิด


“ทำไมถึงไม่เห็นผลสีทองเลย…?”


“เปลือกนอกทั้งหมดจะเป็นสีเขียว แต่เมื่อลอกออกมาจะพบกับเปลือกแข็งสีน้ำตาลหรือทอง นั่นคือสิ่งที่บ่งชี้มูลค่าของมัน วอลนัทสีทองจะปรากฏขึ้นราวทุก 300 ผล”


‘แย่ฉิบ…’


นอกจากโอกาสสุ่มอันน้อยนิด กริดยังไม่สามารถจำแนกวอลนัทสีทองได้จากรูปลักษณ์ภายนอก


แม้จะนำไปปลูกบนทวีปตะวันตกสำเร็จ แต่ก็ต้องใช้กำลังคนจำนวนมากในการคัดแยกผลผลิต 


นับเป็นเรื่องสิ้นเปลืองเงินทุนโดยใช่เหตุ


แต่ตรงข้ามกับสีหน้าหม่นหมองของชายหนุ่ม ปิอาโร่กำลังเผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม


“ชาวนาจะมีงานทำมากขึ้น”


“นั่นสินะ…”


กริดเพิ่งตระหนักได้ว่า วิสัยทัศน์ของตนในเชิงการบริหารยังคับแคบเกินไป มัวแต่เสียดายเงินที่ใช้จ้างคนงาน แต่ลืมไปว่า นั่นจะช่วยให้ผู้คนของอาณาจักรมีงานทำมากขึ้น เป็นการส่งเสริมภาพรวมของเศรษฐกิจ


‘เพราะมีลอเอลคอยบริหารงานแทนมาตลอด เราจึงยังด้อยประสบการณ์’


ขณะกริดได้เปิดหูเปิดตา ปิอาโร่เดินเข้าไปสำรวจป่าวอลนัทในระยะใกล้


“…ช่องว่างระหว่างแต่ละต้นกว้างมาก”


ไม่ผิดไปจากที่ปิอาโร่กล่าว ต้นวอลนัทมีระยะห่างระหว่างกันราวสิบเมตร นับว่าค่อนข้างกว้างเมื่อพิจารณาว่าพวกมันมีส่วนสูงเพียงห้าเมตร


เมื่อได้เห็นเศษซากของต้นที่ตายไป ปิอาโร่พยักหน้ากับตัวเองพลางพึมพำ


“ถ้าอุณหภูมิลดลง จะมีบางต้นเฉาตายเนื่องจากถูกร่มเงาของต้นอื่นบดบังแสงแดด… พวกมันอ่อนไหวต่อสภาพอากาศหนาวเย็น”


“หากอ่อนแอถึงขนาดเหี่ยวเฉาเพียงเพราะถูกเงาบดบังจนไม่ได้รับแสงแดด แล้วอุณหภูมิที่เหมาะสมคือเท่าไร?”


อาณาจักรชิงมีสภาพอากาศอบอุ่นคล้ายฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี มิใช่ร้อนอบอ้าว 


แต่ต้นไม้กลับเฉาตายเพียงเพราะถูกเงาบังแสงแดด…


“ตามความคิดของกระหม่อม คงเป็นอุณหภูมิใกล้เคียงกับในยามรุ่งสาง”


หลังจากตอบกริดที่กำลังฉงน ปิอาโร่ก้มหน้ามองพื้นดินและพบว่าบริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยกรวดหยาบ


“หืม…”


มันหยิบพลั่วออกมาและลงมือขุด พฤติกรรมดังกล่าวเรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบข้างได้พอสมควร เนื่องจากความเร็วในการขุดผิดไปจากมาดของแม่ทัพใหญ่ หากแต่คล้ายกับชาวนาผู้ช่ำชอง


ความไวของปิอาโร่เทียบเท่าชาวนาฝีมือเก่งฉกาจราวสิบคน


กษัตริย์ชิงกล่าวชื่นชม


“ความคล่องแคล่วของท่านคล้ายกับไม่เคยห่างจากเหินจากการขุดดินแม้แต่วันเดียว คงเป็นเพราะท่านปิอาโร่หมั่นฝึกสอนทหารให้ขุดสนามเพลาะ*ทุกวันใช่ไหม”


(*หลุมยาวสำหรับใช้เป็นที่กำบังในสนามรบ)


“เปล่า… ผมแค่เก็บเกี่ยวผักทุกวัน… หือ?”


“…?”


ยังไม่ทันที่กษัตริย์และขุนนางชิงจะทำความเข้าใจคำพูดเมื่อครู่ ทุกคนต่างได้ยินปิอาโร่ร้องออกมาด้วยความฉงน


เมื่อมองตามลงไปยังหลุมด้านล่าง พวกมันได้เห็นรากไม้จำนวนมาก กำลังพัวพันกันจนยุ่งเหยิง


กริดก้มลงสำรวจ


“รากงอกยาวจนพันเกี่ยวกัน… นี่คือสาเหตุที่ต้องปลูกโดยรักษาระยะห่างมากขนาดนี้?”


“ไม่ใช่”


“ไม่ใช่ขอรับ”


กษัตริย์ชิงและปิอาโร่ส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะกวาดตามองไปยังต้นไม้ในละแวกใกล้เคียงราวสิบต้นและกล่าวออกมาพร้อมกัน


“รากมิได้พันกัน”


“พวกมันเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียว”


“…?”


“ให้คิดเสียว่าสิบต้นกล้ารวมเป็นหนึ่ง… หากหวังจะเพาะวอลนัทสีทองชุดใหม่ พวกเราต้องใช้ต้นกล้าสิบต้นและเชื่อมรากให้ติดกัน”


“อา…”


กริดไม่มีความรู้ด้านการเกษตรนัก แต่เชื่อว่าปิอาโร่สามารถจัดการปัญหานี้ได้


เมื่อกษัตริย์ชิงเห็นว่ากริดไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา มันอธิบายในเชิงลึก


“สาเหตุหลักที่พวกเรามิอาจเพาะต้นวอลนัทสีทองได้เองก็คือ การปลูกต้นกล้าขึ้นมาใหม่แทบไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ”


“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?”


“ต้นวอลนัทจะเติบโตได้ด้วยดินชนิดพิเศษของป่าแห่งนี้ แต่อย่างที่ท่านได้เห็น ผืนป่าที่นี่ไม่มีช่องว่างเหลืออีกแล้ว หากจะเพาะต้นกล้าใหม่ก็ต้องอาศัยช่องว่างระหว่างต้นเก่า ซึ่งถ้าห่างกันไม่ถึงสิบเมตรก็จะถูกร่มเงาของต้นไม้ใหญ่บดบัง… การเพาะต้นกล้าจำเป็นต้องปลูกพร้อมกันทั้งสิบต้นเพื่อให้รากเชื่อมติดอย่างสมบูรณ์ ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามเดือน แต่ภายใต้ร่มเงาบดบัง ไม่เกินสองเดือนก็ล้มหายตายจากไปหมด”


“…”


บรรยากาศเริ่มอึมครึม


วอลนัทสีทองสามารถทำเงินได้มหาศาล ทางอาณาจักรชิงจึงต้องการเพาะปลูกอย่างจริงจัง แต่ผลลัพธ์กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า พวกมันไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมได้เลย


กษัตริย์ชิงพลันหดหู่ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้


แต่กริดและปิอาโร่กลับมิได้รู้สึกรู้สา


“หมายความว่า… ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การสร้างสภาพแวดล้อมในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ให้เหมือนกับป่าแห่งนี้”


“ถูกต้อง แต่เรื่องนั้นคงไม่ง่ายนัก กระหม่อมอาจต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อทำให้สมบูรณ์”


“…?”


บทสนทนาระหว่างกริดและปิอาโร่ได้สร้างความฉงนแก่กษัตริย์ชิงและขุนนางเป็นอันมาก


ทำไมคนเหล่านี้ถึงไม่ยอมเข้าใจสักที ว่าการเพาะต้นกล้าขึ้นใหม่ไม่สามารถกระทำได้?


ขณะกษัตริย์ชิงเตรียมอธิบายซ้ำ


“ทำฟาร์มอิสระไร้เทียมทานรูปแบบที่ 4…  ไถหน้าดิน!”


ปิอาโร่ชักคราดมือด้วยสีหน้าขึงขัง พร้อมกับเริ่มจัดการหน้าดินในละแวกใกล้เคียง


จากนั้นก็ส่งเสียง


“ทำฟาร์มอิสระไร้เทียมทานรูปแบบที่ 1… หว่านเมล็ด!”


มันปลูกวอลนัท 10 ต้นลงดินและฝังกลบ


“ทำฟาร์มอิสระไร้เทียมทานรูปแบบที่ 2…  เร่งโต!”


เรื่องมหัศจรรย์พลันบังเกิด


ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที ต้นวอลนัทสีทองจำนวน 10 ต้นเติบโตท่ามกลางช่องว่างระหว่างวอลนัทต้นใหญ่


“…?!”


“…!!”


ใบหน้ากษัตริย์ชิงและขุนนางพลันแข็งค้าง


“ฝ่าบาท ต้นกล้าที่กระหม่อมทดลองเพาะมีระยะห่างสั้นเกินไป รากจึงพันกันเองก่อนจะเชื่อมติดอย่างสมบูรณ์ พวกมันมิอาจดูดซึมสารอาหารในดินได้อย่างพอเหมาะ… กระหม่อมต้องเว้นระยะห่างไม่ต่ำกว่าห้าเมตร”


หลังจากปิอาโร่ขุดดินเพื่อตรวจสอบสภาพรากต้นกล้าใหม่จนแน่ใจ มันหันมารายงานกับกริดพร้อมกับจดบันทึกลงสมุด


สำหรับบุคคลที่เพิ่งสร้างเหตุการณ์ระดับใกล้เคียงปาฏิหาริย์ได้เมื่อครู่ ท่วงท่าและสีหน้าในตอนนี้ของปิอาโร่นับว่าเท่ระเบิด


กษัตริย์ชิงที่ตกตะลึงจนเกือบเรียกสติกลับคืนมาไม่ได้ รีบซักถามด้วยน้ำเสียงฉงนสุดขีด


“ท…ท่านปิอาโร่ เมื่อครู่มันคืออะไร?”


“การปลูกต้นไม้ไง”


“ม…ไม่ใช่แบบนั้น เอ่อ… ต้นวอลนัทสีทองจะเติบโตในชั่วพริบตาได้อย่างไร หรือนี่คือเวทมนตร์ของทวีปตะวันตก”


“ไม่ใช่เวทมนตร์ แค่เทคนิคทางการเกษตร”


“…”


กษัตริย์ชิงมีราษฎรนับล้านอยู่ภายใต้การปกครอง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะจำแนกว่าใครกำลังพูดความจริงหรือล้อเล่น


เมื่อยืนยันว่าสีหน้าขึงขังของปิอาโร่ปราศจากความเท็จ มันหันกลับมาทบทวนคำพูดของราชินีโอเวอร์เกียร์ที่ตัวเองแสร้งไม่ได้ยินมาตลอด


‘ท่านปิอาโร่เป็นทั้งแม่ทัพใหญ่และชาวนา’


‘แม่ทัพใหญ่และชาวนา…’


‘ชาวนา…’


“…หรือว่า”


ต่อหน้ากษัตริย์ชิงและขุนนาง ปิอาโร่กล่าวแนะนำตัวอีกครั้งอย่างฉะฉาน


“ถูกต้อง ผมคือชาวนา”


“…!!”


“…!!”


ในวินาทีนี้ ชาวนาในตำนานได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังทวีปตะวันออก และหยั่งรากแก้วฝังลึกลงบนผืนดินของที่นั่นอย่างมั่นคง


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,713
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00