จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,292



หมื่น  แสน  ล้าน


สามล้าน  สิบล้าน


นับตั้งแต่แพทช์อัปเดตใหญ่ของซาทิสฟาย แม้จะมีเสียงต่อต้านจากผู้เล่นเก่ามากพอสมควร แต่อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้เล่นใหม่กลับทวีคูณโดยไม่แปรเปลี่ยน


เมืองและหมู่บ้านร้างในหลายอาณาจักรถูกเติมเต็มด้วยผู้คน และไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ณ อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ หมู่บ้านเซเลน่า


‘โซลเยอร์’ ส่ายหัวขณะเห็นกลุ่มผู้เล่นใหม่กำลังเดินขวักไขว่ด้านนอกหน้าต่าง


“เกือบทั้งหมดเป็นสาวกของวิหารยาธาน…”


แม้นว่าซาทิสฟายจะเปิดตัวมานานหลายปี แต่จำนวนของผู้เล่นใหม่กลับเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจในช่วงหลัง เหตุผลสำคัญก็คือ โพชั่น EXP ที่ช่วยเพิ่มอัตราค่าประสบการณ์มากถึง 700% และนั่นจะเป็นผลดีกับวิหารยาธานในระยะยาว


‘หากวิหารยาธานถูกสร้างใกล้หมู่บ้าน ระดับความปลอดภัยจะลดต่ำลงมาก…’


ลำดับ 4,986 จากทั่วโลก


อันดับของโซลเยอร์อาจเพิ่มขึ้นไม่มากนักหลังจากเข้าร่วมกับกิลด์โอเวอร์เกียร์ แต่นั่นเป็นเพราะมันมีเวลาเก็บเลเวลเพียงน้อยนิด สืบเนื่องจากปัจจุบันกำลังดำรงตำแหน่งผู้ปกครองหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอาณาจักร


โซลเยอร์เกรงว่า ตนคงจะมีเวลาเก็บเลเวลลดลงยิ่งกว่าเดิมมาก หากวิหารยาธานกลับสู่ยุคเฟื่องฟูเหมือนกับสมัยอดีต


‘และถ้าประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัย รายได้ของพวกเขาก็จะลดลง’


หมู่บ้านเมืองเกิด


ตรงตามชื่อของมัน ที่นี่ถูกเรียกว่า ‘หมู่บ้าน’ เพราะยังมีจำนวนประชากรไม่ถึงเกณฑ์จะให้เรียกว่าเมือง


แต่ในความเป็นจริง หมู่บ้านเซเลน่ามีอาณาเขตค่อนข้างกว้าง เนื่องจากถูกกำหนดให้เป็นเมืองเริ่มต้นของผู้เล่นใหม่


รางวัลภารกิจสมน้ำสมเนื้อ อีกทั้งยังมีสินค้าหมุนเวียนภายในตลาดเป็นจำนวนมาก ภาษีที่เก็บได้จากหมู่บ้านเซเลน่าจึงค่อนข้างสูง


นั่นคือสาเหตุที่โซลเยอร์ ผู้เคยสร้างวีรกรรมอย่างยิ่งใหญ่บนเกาะคอร์กและช่วยอัสโมเฟลฝึกทหารอยู่พักหนึ่ง เลือกย้ายมาประจำการยังหมู่บ้านเมืองเกิดในฐานะเจ้าเมือง แทนการย้ายไปปกครองหมู่บ้านขนาดเล็กหรือกลางที่มีงานให้ทำน้อยกว่า แต่นั่นก็ทำให้เวลาของมันลดลง


หลังจากอ่านรายงานเกี่ยวกับอัตราการเพิ่มจำนวนสาวกยาธาน โซลเยอร์ทำได้เพียงนั่งถอนหายใจเหนื่อยหน่ายภายในห้อง


‘ถอนรากถอนโคนให้สิ้นซากเลยดีไหม…?’


ขณะมันกำลังจ้องผู้เล่นใหม่ด้านนอกด้วยสายตาแฝงความอาฆาต


“ท่านเจ้าเมือง!”


อัศวินคนหนึ่งพรวดเข้ามารายงานข่าว


“ท่านนายกรัฐมนตรี… มาเยือนขอรับ!”


“…?!”


***


อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีเขตแดนกว้างใหญ่ไพศาล ถึงจะยังเล็กกว่าซาฮารันหลายสิบเท่า แต่ก็มหึมากว่าอาณาจักรอื่นบนทวีปตะวันตกราวสองถึงสามเท่า ไม่ว่าจะในแง่พื้นที่หรือประชากร


โซลเยอร์พลันตึงเครียดเมื่อทราบว่าลอเอลเดินทางมาเยือน เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นถึงผู้กุมอำนาจสูงสุดในด้านบริหาร เป็นรองเพียงราชาโอเวอร์เกียร์เท่านั้น


‘เราทำอะไรผิดรึเปล่า…’


มันเชื่อมาตลอดว่า ตนบริหารหมู่บ้านผู้เล่นใหม่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่นั่นอาจเป็นการคิดไปเองฝ่ายเดียว


ถึงจะคลั่งระบบทหารเข้าไส้ แต่โซลเยอร์ไม่ถนัดการบริหารบ้านเมืองเลยสักนิด


ลอเอลยิ้มให้กับโซลเยอร์ที่กำลังยืนต้อนรับด้วยท่าวันทยหัตถ์


“ทำตัวตามสบายเถอะ… ไม่เห็นต้องทำท่าน่าอายแบบนี้เลย”


“ไม่ว่าจะในยุคสมัยใด แต่ผู้น้อยควรให้ความเคารพต่อผู้บังคับบัญชาขอรับ! แล้วผมก็สะดวกใจจะทำตัวแบบนี้มากกว่า”


“ฮะฮะ เข้าใจแล้ว… ถ้าอย่างนั้น ขอเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน”


ใบหน้าลอเอลค่อนข้างอิดโรยเนื่องจากนอนหลับไม่เต็มตื่นตลอดสองสามวันที่ผ่านมา


ผู้เล่นใหม่หลั่งไหลเข้ามาในอาณาจักรเป็นจำนวนมาก ถึงจะมีข้อดีในหลายด้าน แต่ข้อเสียก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน เนื่องจากผู้เล่นใหม่เหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นสาวกยาธาน


ทั้งที่วิหารยาธานในปัจจุบันมีสภาพอ่อนแออย่างมากเมื่อเทียบกับยุครุ่งเรือง แต่พวกมันกลับสามารถอัญเชิญจอมอสูรได้หนแล้วหนเล่า 


ลอเอลจึงไม่อยากจินตนาการว่า จะเกิดหายนะมากมายเพียงใดตามมา หากวิหารยาธานกลับไปอยู่ในจุดสูงสุดได้อีกครั้ง


‘ปัญหาก็คือ พวกมันไม่ใช่องค์กรที่จะล่มสลายเพียงเพราะถูกถล่มฐานใหญ่…’



ในทางกลับกัน พลังอำนาจของโบสถ์รีเบคก้าจะอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัดหากวาติกันถูกบุกโจมตีจนได้รับความเสียหาย


โบสถ์รีเบคก้าทุกแห่งบนทวีปล้วนขึ้นตรงกับวาติกันโดยไม่มีข้อยกเว้น การขาดหายไปของวาติกันจึงสร้างความสับสนและปั่นป่วน


แต่สำหรับวิหารยาธาน พวกมันมิได้ปักหลักทำงานอยู่ในอาคารหรือสิ่งก่อสร้างเป็นทุนเดิม เพียงเร้นกายประกอบพิธีกรรมในที่ลับ ส่งผลให้สามารถพัฒนาองค์กรได้ตลอดเวลาด้วยแหล่งกบดานจำนวนมากทั่วทวีป


พวกมันไม่ต้องคอยบริหารกิจการของวิหาร และในความเป็นจริง วิหารเป็นเพียงสถานที่ประกอบพิธีกรรม ไม่จำเป็นต้องมีบิชอปคอยควบคุมดูแล และไม่ต้องรับคำสั่งตรงจากส่วนกลางเหมือนกับวาติกัน


“โซลเยอร์”


“ขอรับ”


“พวกเราต้องไม่ปล่อยให้วิหารยาธานกลับไปมีอำนาจเหมือนที่มอร์เฟียสหวัง… ในอดีตเคยมีบทเรียนความเสียหายที่เกิดจากฝีมือวิหารยาธานนับครั้งไม่ถ้วน หากสาวกจำนวนมากของพวกมันเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อใด ขอบเขตภัยคุกคามของวิหารยาธานจะขยายวงกว้างจนทางเราควบคุมไม่ไหว”


วิหารยาธานมักลงมือกับชาวบ้านอ่อนแอเสมอ และนั่นคือกลุ่มเป้าหมายที่ยากจะปกป้องเนื่องจากมีจำนวนมากที่สุด


ยิ่งเหยื่อของวิหารยาธานมีจำนวนมากขึ้น จำนวนประชากรในอาณาจักรก็จะยิ่งลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว


“เห็นด้วยขอรับ หากพวกมันมีจำนวนหลายหมื่นหรือหลายแสน ถึงเราจะทุ่มกำลังพลและทรัพยากรเป็นจำนวนมาก แต่ก็คงป้องกันเหตุร้ายไม่ได้ทั้งหมด… แค่จินตนาการก็ขนลุกแล้ว”


ย้อนกลับไปในอดีต กริดเคยสังหารข้ารับใช้ยาธานไปหลายคน อีกทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยูร่าเลือกทางเดินใหม่ เมื่อผนวกกับการที่ทุกอาณาจักรบนทวีปไม่ต้องการให้วิหารยาธานเติบโต พลังอำนาจของฝ่าย ‘ความชั่ว’ จึงลดทอนลงตามกาลเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ถูกขจัดไปทั้งหมด


จึงมีคำกล่าวที่ว่า วิหารยาธานตายยากยิ่งกว่าแมลงสาบเสียอีก 


หากพวกมันมีสาวกหลักสิบล้านหรือร้อยล้านคอยหนุนหลังในอนาคต การจำกัดทิ้งให้สิ้นซากก็คงใกล้เคียงกับคำว่าเป็นไปไม่ได้


“ดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจทุบกระปุก”


“…ขอรับ?”


ประโยคล่าสุดของลอเอล ขาดความเชื่อมโยงกับบทสนทนาก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง


โซลเยอร์เอียงคอทำหน้าฉงน


“ลองดูนี่”


ลอเอลเปิดคลังสัมภาระของตนพร้อมกับนำไอเท็มหลายชิ้นออกมาวางบนโต๊ะ ประกอบไปด้วยดาบ หอก ไม้เท้า คทา ธนู ลูกแก้ว และอีกหลายชนิด คล้ายกับนิทรรศการจัดแสดงอาวุธเลเวลต่ำ


“ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ฉันสั่งให้ช่างตีเหล็กหลวงสร้างอาวุธชุดใหม่ขึ้น พวกเราเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่แทบไม่เคยนำมาใช้กับอาวุธเลเวลต่ำ ส่งผลให้คุณภาพของพวกมันสูงกว่าไอเท็มในระดับเดียวกันมาก”


“…?”


“โซลเยอร์ นายต้องมอบไอเท็มเหล่านี้เป็นของขวัญให้ผู้เล่นใหม่”


“…ขอรับ?”


“เงื่อนไขก็คือ ต้องมอบให้กับสาวกของศาสนจักรรีเบคก้าเท่านั้น”


“หรือว่า…!”


โซลเยอร์ที่เริ่มกระจ่าง เกิดความรู้สึกยกย่องชื่นชมภายในใจ


ลอเอลเห็นดังนั้นจึงฉีกยิ้มกว้าง


“นับแต่นี้ไป พวกเราจะมอบไอเท็มคุณภาพสูงให้แก่สาวกรีเบคก้าที่เป็นพลเมืองของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เลเวลของไอเท็มคือ 10, 50, 100, 150 และ 200”


ภายในเกมก็เหมือนกับโลกความจริง การจะเปลี่ยนศาสนาในซาทิสฟายไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกครั้งที่ออกจากศาสนาเก่า ต้องติดระยะหน่วงนานหนึ่งปีเต็มก่อนจะย้ายไปสังกัดศาสนาใหม่


หรือก็คือ ผู้เล่นเก่าจะยังไม่สามารถย้ายไปสังกัดวิหารยาธานได้อย่างน้อยหนึ่งปี


หนึ่งปีในซาทิสฟายถือเป็นช่วงเวลาอันมีค่า


อ้างอิงจากกระทู้ไกด์การเก็บเลเวล หากเริ่มเล่นใหม่ทั้งหมด หนึ่งปีสามารถอัปเลเวลไปได้ไกลถึงช่วง 250 เลยทีเดียว


“ปัจจัยเพียงข้อเดียวที่ทำให้ผู้เล่นใหม่เลือกสังกัดฝ่ายวิหารยาธานก็คือ ‘ความเร็วในการเก็บเลเวล’ หากผู้เล่นใหม่พึ่งพาโพชั่น EXP ที่พวกมันวางขาย การจะเอื้อมไปแตะเลเวลหลัก 400 ก็จะไม่ใช่เรื่องยากเหมือนในอดีต… แต่ทางลัดที่จะเก็บเลเวลให้รวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโพชั่น EXP เสมอไป”


เมื่อเทียบกับโพชั่นบัฟแล้ว บรรดาศาสตราวุธชั้นยอดจะช่วยเร่งความเร็วในการเก็บเลเวลได้มากกว่าหลายเท่า


“หากมอร์เฟียสดึงดูดผู้เล่นใหม่ด้วยโพชั่น EXP ทางเราก็จะสู้ด้วยไอเท็มคุณภาพสูง… แถมยังไม่คิดราคา”


นี่คือวิธีรับมือที่มีประสิทธิภาพ ถึงจะต้องแลกมากับการทรุดหนักทางเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาวจะมอบผลตอบแทนที่คุ้มค่าแน่นอน


หากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ได้รับประชากรผู้เล่นใหม่เพิ่มขึ้น ปริมาณภาษีต่อปีก็ยิ่งจะเพิ่มขึ้น และถ้าผู้เล่นใหม่ตัดสินใจหันไปนับถือศาสนารีเบคก้า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่เป็นพันธมิตรอันแน่นแฟ้นก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากกว่าใคร


ลอเอลเชื่อเช่นนั้น และมั่นใจอย่างมากว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงในอนาคต


….




“เจ๋งฉิบ!”


“ของฟรีแบบนี้ ใครจะไม่อยากได้บ้าง…”


สองวันถัดมา 


ณ จัตุรัสหมู่บ้านเซเลน่า


โซลเยอร์กำลังตื่นเต้นเมื่อได้เห็นปริมาณผู้คนอันคับคั่งที่เบียดเสียดรอบจัตุรัสหมู่บ้าน


เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป ผู้เล่นใหม่จำนวนมากในซาทิสฟายต่างเลือกเมืองเกิดเป็นหมู่บ้านเซเลน่าทันที หรือแม้กระทั่งคนที่เคยเลือกเมืองเกิดเป็นอาณาจักรอื่น ปัจจุบันก็ทยอยย้ายเข้ามายังหมู่บ้านเซเลน่า


นี่อาจเป็นเพียงไม่กี่เหตุการณ์ที่ผู้เล่นสามารถเอาชนะการแทรกแซงของบริษัทผู้ให้บริการเกม


จำนวนสาวกยาธานลดต่ำกว่าลงกว่ายอดการเติบโตที่ SA กรุปคาดหวัง ส่งผลสืบเนื่องไปถึงยอดขายอันตกต่ำของโพชั่น EXP ในทุกราคา


“อาณาจักรก็อดเกียร์! อาณาจักรก็อดเกียร์!”


ผู้เล่นใหม่ต่างกู่ร้องเรียกขานชื่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างเยินยอ


ทุกคนกำลังอิ่มเอมไปกับความสุขอันเกิดจากอาวุธฟรีจำนวนมาก ที่ถูกแจกจ่ายให้ผู้เล่นในเกือบทุกช่วงเลเวลโดยแทบไม่มีเงื่อนไข


มีหลายกระทู้บนโลกออนไลน์ เขียนเกี่ยวกับความสำเร็จที่กริดสามารถลงโทษ SA กรุป ผู้พยายามกลบเกลื่อนการแสวงหากำไรของตัวเองโดยอ้างระบบปัญญาประดิษฐ์บังหน้า


เหตุการณ์นี้ถือเป็นแบบอย่างของการนำ ‘พลังอำนาจ’ ไปใช้ในทางที่ดี


แต่ย่อมไม่มีใครทราบว่า กริดกำลังเจ็บปวดหัวใจมากเพียงใด


‘ถ้ากลับไปถึง เราคงต้องทำงานหนักชดเชยไปอีกสักระยะ…’


เมื่อยืนยันราคาที่ตนต้องจ่าย กริดทำได้เพียงถอนหายใจด้วยสีหน้าหดหู่


ไม่ว่าจะร่ำรวยมากเพียงใด แต่ชายหนุ่มก็ต้องผลิตไอเท็มคุณภาพสูงหลายสิบชิ้นเพื่อชดเชยเงินคงคลังที่หายไปของอาณาจักร


‘ช่างมัน… อย่างน้อยก็สามารถฟื้นฟูความเสียหายได้ด้วยมือตัวเอง ตอนนี้ต้องตั้งสติกับทวีปตะวันออกก่อน’


ณ ปัจจุบัน ทั้งลอเอลและแร็บบิตต่างตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างกัน พวกมันต้องพยายามอย่างหนักเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น


ไม่สิ จะเรียกว่า ‘ความเสียหาย’ คงไม่ถูกนัก ต้องพูดว่าเป็น ‘การลงทุน’ มากกว่า


“หืม…”


กริดชำเลืองสายตาไปยังผืนป่าวอลนัทสีทอง


ปิอาโร่เอาแต่หมกตัวอยู่ในป่ามานานกว่าสี่วันเต็มโดยไม่มีข่าวคราว ชายหนุ่มได้แต่ภาวนาว่า อีกฝ่ายจะกลับมาพร้อมกับเรื่องน่ายินดี


หากปิอาโร่ทำสำเร็จ หัวใจกริดที่กำลังบอบช้ำคงถูกเติมเต็มจนบาดแผลสมานหายเป็นปรกติ


“องค์ราชินีขอรับ…!”


เนื่องจากเวลาเป็นเงินเป็นทอง กริดจึงฆ่าเวลาระหว่างรอปิอาโร่ ด้วยการเลเวลใกล้กับกรุงหยางโจว 


ขุนนางชิงรายหนึ่งเดินเข้ามารายงานข่าวกับกริดด้วยสีหน้าตกตะลึง เหตุเพราะมันได้เห็นซากศพและคราบเลือดอันน่าสยดสยองจำนวนมากนอนเรียงรายเกลื่อนกลาด


ขุนนางหนุ่มคำนับอย่างนอบน้อม


“มีชายที่ชื่อซิกเฟรคเตอร์ขอเข้าพบขอรับ”


“อา… เข้าใจแล้ว”


ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา เมื่อคำนึงว่าตนต้องอยู่ในร่างไอรีนไปอีกสักระยะ กริดตัดสินใจปรับเปลี่ยนกิริยามารยาทให้อ่อนลงยามต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางและกษัตริย์ชิง


ชายหนุ่มเก็บอาวุธเข้าช่องสัมภาระและเดินทางกลับวังหลวงหยางโจว


‘เขาคงยอมฟังคำเตือนของเรา…’


กริดเชื่อเช่นนั้น 


ทว่า


“ไปอาณาจักรฮวานกับข้า”


“???”


เมื่อกลับมาถึงวัง มันได้พบกับแกรนมาสเตอร์ที่โพล่งข้อเสนอสุดเหลวไหล


“…อุตส่าห์เตือนแล้วว่าอย่าไปพบ”


เมื่อเห็นกริดใบหน้าบูดบึ้ง แกรนมาสเตอร์พยายามสงบสติอารมณ์อีกฝ่าย


“ข้ามิได้เมินเฉยต่อคำเตือน เพียงแต่ต้องการยืนยันให้แน่ใจด้วยตาตัวเอง… หลังจากได้ฟังคำเตือนจากเจ้าแล้ว ข้าก็เริ่มวางแผนใหม่โดยไม่คิดพึ่งพาพวกเขา”


“…”


จากประสบการณ์ส่วนตัว กริดเพียงเคยเผชิญหน้ากับยังบัน แต่ไม่เคยไปเยือนอาณาจักรฮวาน


“…อันที่จริง มีหลายสิ่งที่ผมเคยอยากถามคุณให้แน่ใจ เช่น ทำไมถึงเชื่อใจผมนัก และทำไมถึงอยากได้ผมเป็นพวก” 


“…”


“แต่เรื่องพวกนั้นช่างมันก่อน… ผมจะไปอาณาจักรฮวานกับคุณ”


นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้สำรวจฐานทัพของฝ่ายศัตรู แถมยังเป็นการเดินทางที่มีแกรนมาสเตอร์คอยหนุนหลัง นับเป็นโอกาสอันหายากยิ่งจนมันไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือ


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,719
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00