จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,278
ดาบยาวที่ทรงพลังต่อหนึ่งเป้าหมาย
กริดกำลังขาดแคลนอุปกรณ์โจมตีทางกายภาพประเภทนี้
มันปรารถนาจะให้กำเนิดอาวุธเล่มใหม่ที่มีคุณสมบัติไม่ซ้อนทับกับ ‘ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมฯ’
หมายความว่า สำหรับกริด ลักษณะเด่นของดาบมังกรเพลิงค่อนข้างน่าผิดหวัง
ออปชั่นและคุณสมบัติพื้นฐานมีความคล้ายคลึงกับดาบอัสนีฯ อยู่หลายส่วน หนึ่งในนั้นคือการโจมตีหลายเป้าหมายได้พร้อมกัน
‘ใจจริง เราอยากสร้างดาบใหญ่มากกว่า’
แต่ศิลาอัคคีลมหายใจมังกรเพลิงมีน้อยเกินไป
จริงอยู่ กริดสามารถแก้ไขได้ด้วยการผสานละโมบเข้าไปให้มากกว่าเดิม แต่หากอัตราส่วนของศิลาอัคคีมีน้อยเกินไป ทักษะสำคัญอย่าง ‘พ่นลมหายใจ’ จะสูญเสียเอกลักษณ์และพลังทำลาย
‘ช่วยไม่ได้แฮะ…’
ในเมื่อเป็นดาบพ่นไฟ
ก็คงไม่แปลกสักเท่าไรที่จะโจมตีเป็นกลุ่ม
ถึงจะมีออปชั่น ‘สร้างความเสียหาย 80,000 หน่วยแบบคงที่แก่ 1 เป้าหมาย’ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะนิยามดาบเล่มนี้ว่า ‘อาวุธที่เน้นโจมตีเป้าหมายเดียว’
‘แต่ในความเป็นจริง ประสิทธิภาพของมันสูงมากพอจะเป็นได้ทั้งดาบที่เน้นโจมตีเป้าหมายเดียวและหลายเป้าหมาย’
ดาบมังกรเพลิงถือกำเนิดมาพร้อมค่าพลังโจมตีมหาศาล
มากกว่าดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมที่มีระดับค่าเสริมแกร่งสูงถึง +4
ยิ่งไปกว่านั้น การสังหารเผ่ามังกรจะช่วยเพิ่มค่าพลังโจมตี 1 หน่วยเป็นการถาวร หรือก็คือ มันจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ได้กำลังจะบอกว่าดาบอัสนีฯ คืออาวุธด้อยคุณภาพ
ดาบอัสนีฯ แฝงด้วยทักษะสำคัญหลายชนิด อีกทั้งยังมีการโจมตีหลากหลายธาตุ สามารถใช้ในสถานการณ์เฉพาะตัว
กริดที่กำลังผิดหวังเล็กน้อย หยิบม้วนคาถาเสริมแกร่งดึกดำบรรพ์ออกมาถือ
สุดยอดไอเท็มที่ช่วยให้เสริมแกร่งอุปกรณ์สำเร็จอย่าง ‘แน่นอน’ โดยจะสุ่มค่าเสริมแกร่งตั้งแต่ +1 ถึง +3
‘เดี๋ยว… เราควรเก็บไว้ตีบวกหลังจากล่าเผ่ามังกรไปสักระยะดีไหม…’
หรือควรตีบวกก่อนออกไปล่าเผ่ามังกร?
‘ลำดับก่อนหลังมีผลรึเปล่า?’
ในเกมซาทิสฟาย การตีบวกจะช่วยยกระดับอุปกรณ์อย่างมหาศาล
ทุกค่าการ +1 จะเพิ่มพลังโจมตี 5% และหลังจาก +6 จะเพิ่มขั้นละ 7%
ดังนั้น มันต้องไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนตีบวก
‘ในทางสามัญสำนึก ลำดับก่อนหลังไม่ควรมีผล’
แต่อีกฝ่ายเป็นถึง SA กรุปที่ชอบหักหลังผู้เล่นอย่างสนุกสนานและแอบหัวเราะคิกคักอยู่ที่สำนักงานใหญ่ กริดจึงไม่คิดประมาท
‘…ถ้าเราไม่สบายใจ ก็ไม่ควรใจร้อนรีบตีบวกตอนนี้ ค่อยทำหลังจากล่าเผ่ามังกรก็ได้...’
ทันใดนั้น สุ้มเสียงอันใสกังวานดุจดังลูกปัดหยกกระทบกัน เริ่มกระซิบกระซาบข้างหูกริดด้วยถ้อยคำแฝงความกังวล
> พลังงานที่แข็งแกร่งกำลังตรงมาทางท่าน
เป็นเสียงของดาบมังกรเพลิง
ตรงข้ามกับเสียงอันแหบพร่าและแข็งกร้าวของหัตถ์เทวะ น้ำเสียงแสนไพเราะของดาบมังกรเพลิงทำให้กริดจินตนาการถึงสตรีเลอโฉม
ขณะปล่อยให้หัตถ์เทวะออกจากช่องสัมภาระด้วยความตั้งใจของตัวเอง กริดชำเลืองหางตาไปยังทิศทางที่ดาบมังกรเพลิงแจ้งเตือน
สันตะปาปาดาเมี่ยนกำลังวิ่งมาแต่ไกล
“กริดซามา…! กริดซาม๊าาาา!!”
“…อา”
ในวินาทีนี้ กริดเริ่มตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของ ‘อีโก้ระดับสูง’
หัตถ์เทวะและดาบมังกรเพลิงสามารถตรวจจับการปรากฏตัวของบุคคลที่มีพลังเหนือกว่ามาตรฐานได้ทันที
เป็นเหตุผลว่าทำไม บรรดาราชาภูตเทียมในรังมังกรเพลิงถึงไม่กล้าขัดคำสั่งบราฮัม ทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างสั่นเทาราวกับลูกนกป่วยไข้
‘จำแนกความแข็งแกร่งได้แม่นยำเช่นนี้ เราคงเสียชีวิตน้อยลงมากในอนาคต’
ตามปรกติแล้ว พลังการตรวจจับของอีโก้ไม่เฉียบแหลมเท่าประสาทสัมผัสของเหนือมนุษย์ โดยเฉพาะเหนือมนุษย์ที่ถูกยกระดับมาหลายครั้งอย่างกริด
ดังนั้น หากดาเมี่ยนใช้วิชาอำพรางลอบเข้ามาใกล้ ฝ่ายที่สามารถตรวจจับได้ก่อนก็จะเป็นกริดแน่นอน
แต่กริดก็มิได้แผ่ประสาทสัมผัสออกมารอบตัวตลอดเวลา บางครั้งต้องเพ่งสมาธิกับจุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษ การมีอยู่ของดาบมังกรเพลิงและหัตถ์เทวะจึงช่วยเติมเต็มข้อบกพร่องดังกล่าว
“ไอเท็ม! นายสัญญาว่าจะสร้างไอเท็ม—”
‘จริงด้วย…’
เสียงตะโกนของดาเมี่ยนช่วยกริดให้หวนนึกถึงความทรงจำเก่า
มันเคยสัญญาว่าจะสร้างไอเท็มให้ดาเมี่ยน โดยใช้วัสดุจากงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติและรางวัล MVP จอมอสูร
‘ลืมไปสนิท เพราะหลังจากนั้นก็ถูกพาตัวไปทาลิม่าทันที… สร้างให้ตอนนี้เลยก็แล้วกัน’
แต่ก่อนอื่น
“มาได้จังหวะพอดี ฉันขอทดสอบพลังของดาบเล่มนี้หน่อย”
“…”
ดาเมี่ยนโด่งดังในด้านความถึกทนเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นได้รับฉายา ‘ราชาอสูรซอมบี้’ หลังจบงานแข่งนานาชาติ
ทรหดอดทนเสียจนทำเอานึกถึงแมลงสาบ
แม้แต่กริดก็ยังให้การยอมรับหลังจากดูวิดีโอการแข่งย้อนหลังจบ
“มีเพียงไม่ที่คนที่แข็งแกร่งพอได้รับเกียรตินี้”
ถูกต้อง กวาดตามองไปทั่วโลก หากจะหาผู้เล่นมาช่วยกริดทดสอบพลังทำลายของดาบมังกรเพลิง ดาเมี่ยนจะมีชื่อติดอยู่ในท็อปสามอย่างแน่นอน
สันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้ายืนจ้องกริดด้วยสายตาเคร่งขรึม ก่อนจะทำการบัฟตัวเองชุุดใหญ่ราวกับตนไม่มีทางเลือกอื่น
“กริด ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว หากนายต้องการเอาชนะ ต้องแสดงฝีมือที่แท้จริงเท่านั้น”
คลาสของดาเมี่ยนคืออัครทูตแห่งเทพธิดา
ด้วยความสามารถในการสื่อสารกับเทพธิดาแห่งแสง รีเบคก้า ได้เป็นบางครั้งบางคราว จึงมีบางแง่มุมที่คลาสของดาเมี่ยนเหนือกว่าคลาสเกรดเลเจนดารีและตัวตนเหนือมนุษย์
“เนตรมารของนายลบบัฟฉันไม่ได้อีกแล้ว”
ดาเมี่ยนสวดภาวนาถึงเทพธิดาทุกวัน
และรางวัลตอบแทนความศรัทธาคือการได้รับวิวรณ์จากพระองค์โดยตรง
จำนวนของวิวรณ์อาจไม่มากมายอะไรนัก เพียงปีละไม่เกินหนึ่งถึงสองหน แต่ประสิทธิภาพของวิวรณ์ก็มากพอจะทำให้ดาเมี่ยนนึกเสียดายในความน้อยครั้ง
“พระองค์บอกกับฉันว่า…”
ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!
หนึ่งบัฟ สองบัฟ สามบัฟ…
ดาเมี่ยนกล่าวด้วยใบหน้าและน้ำเสียงเปี่ยมศรัทธา
“จะไม่มีพลังอำนาจใดสามารถลบล้างเกราะคุ้มกายของฉันได้อีก!”
ต้านทานการล้างบัฟทุกชนิดโดยไม่มีเงื่อนไข
พลังใหม่สุดโกงของดาเมี่ยน
มันไม่เกรงกลัวเนตรมารของกริดอีกต่อไป
เพิ่มพลังป้องกัน เพิ่มค่าต้านทานเวทมนตร์และค่าต้านทานทุกธาตุ เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด เพิ่มอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติ ลดความเสียหายเป็นเปอร์เซ็นต์ เพิ่มโอกาสมองข้ามความเสียหายโดยสมบูรณ์ และอีกมาก
ดาเมี่ยนในสภาพบัฟเต็มพิกัด ยืนจ้องกริดด้วยดวงตาที่ไม่สั่นคลอน
ประหนึ่งกำลังยั่วยุให้ตาดำของอีกฝ่าย แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกับที่เคยทำในอดีต
อย่างไรก็ตาม กริดมิได้ใช้เนตรทำหมัน
มันเพียงเปิดศึกด้วยหนึ่งทักษะ
> พลิ้วไหว
หัตถ์เทวะที่กำลังถือมีดสั้นในอุดมคติ ประกาศใช้งานบัฟเพิ่มความเร็วทุกชนิด 20% พร้อมกับแบ่งเอฟเฟคมายังเจ้านาย
ฟุ่บ!
นี่มิใช่ชุนโป
หากแต่เป็นความเร็วอันเหนือธรรมชาติของกริด สิ่งนี้ช่วยส่งให้ชายหนุ่มเข้าสู่ระยะพร้อมโจมตีภายในพริบตา
‘โอกาสพ่นลมหายใจมี 5%’
นับว่าต่ำมาก
แต่ด้วยความเร็วโจมตีอันผิดเพี้ยนของกริด ยิ่งได้รับความช่วยเหลือจากถุงมือว่องไวของอเล็กซ์และบัฟพลิ้วไหวจากหัตถ์เทวะ ชายหนุ่มสามารถโจมตีได้มากถึง 10 ครั้งภายในหนึ่งวินาที
เพียงพอที่จะสร้างความน่าจะเป็น
กิ๊ง! กิ๊ง! กิ๊ง! กิ๊ง! กิ๊ง! กิ๊ง! กิ๊ง!
“ประเมินฉันต่ำเกินไปแล้ว…!”
ท่ามกลางการโจมตีที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา
ดาเมี่ยนที่ส่งเสียงตะโกนพลางใช้โล่รับดาบอย่างง่ายดาย พลันเปลี่ยนสีหน้ากะทันหัน
มันมิได้หวาดกลัวประกายไฟที่ลุกโชนทุกครั้งเมื่อดาบกระทบกับโล่
ถึงไฟจะแผดเผารุนแรง แต่สำหรับดาเมี่ยนที่มีค่าต้านทานธาตุเกิน 100% ประกายไฟเพียงเท่านี้ย่อมไม่สร้างบาดแผล
แต่ปัญหาก็คือ
[ค่าต้านทานธาตุไฟลดลง 20%]
[ค่าต้านทานธาตุไฟลดลง 20%]
[ค่าต้านทานธาตุไฟลดลง 20%]
ค่าต้านทานธาตุไฟของดาเมี่ยนจะลดลงทุกครั้งที่ประกายไฟสัมผัสกับร่างกาย
พร้อมกันนั้น
ชิ้ง—!
ดาบสีใสคล้ายแก้วในมือกริดที่ส่งเสียงใสกังวานยามกระทบโล่ เริ่มถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน
‘นั่นมัน…?’
ขณะดาเมี่ยนกำลังตระหนักถึงลางร้าย
ซู่ว…!
เปลวเพลิงขนาดมหึมาพลันพุ่งทะลักออกจากปลายแหลมของดาบยาวในมือกริด
ไฟดังกล่าวแตกต่างจากประกายเพลิงที่คอยแผดเผาก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
‘หน่านี๊!?’
แผ่นหลังของดาเมี่ยนพลันเย็นวาบ
ฉากเหตุการณ์หนึ่งในการแข่งซาทิสฟายนานาชาติเมื่อหลายปีก่อน พลันย้อนกลับเข้ามาฉายในความทรงจำ
ขณะกริดและครอเกลกำลังดวลดาบกันอย่างดุเดือด มังกรขนาดมหึมาได้บินเข้ามาในฉากพร้อมกับส่งเสียงคำรามกึกก้อง
สุดยอดพลังทำลายที่ผู้เล่นในเวลานั้นต่างทำได้เพียงสิ้นหวัง แต่ปัจจุบัน กริดกลับนำมาเป็นของตัวเอง
ฟู่ว—!!
ทัศนวิสัยของดาเมี่ยนพลันสั่นสะเทือนจากแรงปะทะอันหนักหน่วง
แม้นท้องฟ้าและผืนดินจะพลิกสลับกลับด้านอย่างกะทันหัน แต่ดาเมี่ยนยังคงไม่หลงลืมวิธีใช้งานโล่ใหญ่คู่กายตน
ทว่า ผลลัพธ์กลับไม่ดีขึ้นจากเดิม
ตรงกันข้าม มันคือหายนะ
[ ได้รับความเสียหายมากเกินไป! ]
[ โล่มิอาจดูดซับความเสียหายได้หมด ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 27,500 หน่วย ]
ข้อความระบบแจ้งเตือนในสิ่งที่ดาเมี่ยนเคยคิดว่าตนคงไม่มีวันได้เห็นไปชั่วชีวิต
ภัยพิบัติเมื่อครู่ส่งผลให้โล่เกรดเลเจนดารีสุดแข็งแกร่งของมันต้องสูญเสียค่าความคงทนมากถึงหนึ่งในสามทันที
และความเลวร้ายยังไม่จบลง
ฉึก!!
ต้องไม่ลืมว่า การโจมตีที่ทำให้เกิดเปลวเพลิงขนาดมหึมาเมื่อครู่ แก่นแท้ยังเป็นท่ากระหน่ำแทงสิบครั้งต่อวินาทีของกริด
ลมหายใจมังกรเพลิงเป็นเพียงของแถมที่แสดงผลหลังจากการแทง
ดาเมี่ยนเสียสมาธิไปหนึ่งอึดใจ จึงมิอาจยกโล่ขึ้นมาปกป้องการแทงซ้ำได้ทันเวลา
[ ท่านได้รับความเสียหาย 15,300 หน่วย ]
‘…อึก!’
ถึงค่าต้านทานธาตุไฟลดลงเหลือเพียง 40% แต่นั่นก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ยังพอยอมรับได้
พลัง ‘ลมหายใจ’ ซึ่งถูกสำแดงโดยมนุษย์ ย่อมมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามังกรตัวจริงมาก
ขณะสันตะปาปารีบยกโล่ขึ้นมากำบังและดื่มโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิต
ซู่ว…!
ดาบในมือกริดที่ยังคงกระหน่ำทิ่มแทง ถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงสุกสว่างอีกครั้ง
‘ไม่มีระยะหน่วงเลยรึไง…?’
กิ๊ง!
ดาเมี่ยนที่รับมือแรงปะทะไม่ไหว ถูกผลักกระเด็นไปด้านหลังพร้อมกับโล่ใหญ่
[ ท่านสับเปลี่ยนการโจมตีทางกายภาพเป็นเวทมนตร์ ]
กริดไม่ทำพลาดเหมือนครั้งแรก
ในหนนี้ มันเล็งสลับคุณสมบัติการโจมตีขณะล่มหายใจถูกพ่นพอดิบพอดี
ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมาย
[ สร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 45,900 ]
“คุ…ก!”
ลมหายใจมังกรเพลิงทรงพลังขึ้นทันตาเห็น
ดาเมี่ยนที่โด่งดังด้านความทนทายาด กลับต้องตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช ภายในใจเกิดความสั่นสะท้านจากก้นบึ้ง
อย่างไรก็ตาม กริดยังไม่พึงพอใจนัก
“…แบบนี้ก็ไม่ได้ทดสอบกันพอดี”
โล่ใหญ่เกรดเลเจนดารีถือเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่แสนน่ารำคาญในสายตากริด
หลังจากครุ่นคิดสักพัก มันตัดสินใจทำในเรื่องที่ไม่มีใครคาดฝัน
กริดหยิบหมวกเขาแพะขึ้นมาสวมพร้อมกับจ้องไปทางดาเมี่ยน ทันใดนั้น โล่ใหญ่พลันหลุดจากมือสันตะปาปาในลักษณะผิดธรรมชาติ
นี่คือพลัง <ราชาลบล้าง> มีอำนาจสั่งปลดอุปกรณ์สวมใส่ปราศจากอีโก้ทุกชนิด
หรือก็คือ ‘ขาดน้ำ’ ช่วยทำลายก้างขวางคอในสายตากริด
ซู่ว…!
หลังจากกลับคืนสีแก้วใสได้ไม่นาน ดาบมังกรเพลิงถูกฉาบด้วยสีแดงสุกสว่างเป็นครั้งที่สาม
“นี่ล่ะ การทดสอบของจริง”
น้ำเสียงชายหนุ่มเปี่ยมด้วยความน่าเกรงขาม
กระทั่งสันตะปาปาผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนจักรอันดับหนึ่งของทวีป ก็ยังเกิดความสั่นกลัวเมื่อได้ยินถ้อยคำที่เป็นราวกับโองการสวรรค์ของกริด
ในสภาพปราศจากโล่กำบัง ร่างของมันลอยกระเด็นไปไกลหลังถูกลมหายใจมังกรเพลิงกระแทกอย่างจัง ข้อความระบบแจ้งเตือนความเสียหาย 80,000 หน่วยถ้วน พร้อมกับความเสียหายระลอกที่สองอีก 60,000 หน่วย
ดาเมี่ยนพ่ายแพ้อย่างหมดท่าโดยไม่มีโอกาสตอบโต้แม้แต่หนเดียว
…ด้วยระยะเวลาไม่ถึงสองนาที
“…”
อะไรคือการที่ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถสร้างความเสียหายแบบตายตัว 80,000 หน่วย ทั้งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ของโลกยังมีพลังชีวิตไม่ถึง 80,000 หน่วย?
ถ้าไม่เรียกโกง แล้วควรใช้คำใดนิยาม?
“ท่านเทพธิดา… ค…คราวหน้า… ข้าขอพรที่ช่วยต้านทานความเสียหายแบบตายตัว…”
ขณะดาเมี่ยนนอนอธิษฐานอย่างไร้ยางอาย
[ นักธนูในตำนานถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ]
[ศรของ ‘อริยศร*’ จะไม่มีวันพลาดเป้า และจะสร้างความพินาศย่อยยับแก่ศัตรูเสมอ]
(*ขอเปลี่ยนเป็นอริยศร)
ข้อความโลกอันน่าตื่นเต้นยินดี
กริดที่กำลังรู้สึกผิดต่อดาเมี่ยน และดาเมี่ยนที่กำลังสวดวิงวอนถึงเทพธิดา พลันดวงตาเบิกโพลงอย่างพร้อมเพรียง
“จิสึกะใช่ไหม…?”
“น่าจะใช่… ไม่มีใครอีกแล้ว”
อริยศร มิใช่ผู้สืบทอดโพเวีย
จิสึกะซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางใหม่ของตัวเอง ควรค่าแก่การยกย่องในความเพียรพยายาม
“ฉันชักมีไฟขึ้นมาแล้ว!”
ดาเมี่ยนเกิดแรงกระตุ้นใหม่
“ฮะฮะ…”
ได้เห็นดาเมี่ยนเป็นเช่นนั้น กริดโล่งใจและผ่อนคลายลงหลายส่วน
มันรู้สึกภูมิใจอย่างน่าประหลาด
ขณะดาเมี่ยนดีดตัวลุกขึ้นอย่างร่าเริง
“ฉันพร้อมแล้ว! เข้ามาเลย!”
“สำหรับการทดสอบถัดไป… นายห้ามใช้โล่”
“…”
ดาบมังกรเพลิงกำลังลอยตัวกลางอากาศ
ศาสตราแฝงอีโก้ที่เคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง
กริดเริ่มอยากรู้แล้วว่า ลำพังดาบยาวเพียงหนึ่งเล่ม จะสร้างแรงกดดันต่อสันตะปาปาและอัครทูตแห่งเทพธิดาได้มากน้อยแค่ไหน
ไอกริด ไอขี้โกงง
ReplyDelete