จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,272



ลันเทียร์หาใช่นามของบุคคลใด


หากแต่เป็นฉายาที่มอบให้กับหัวหน้ากลุ่ม <อุปราคา> องค์กรลอบสังหารที่ชั่วร้ายและอันตรายที่สุดนับตั้งแต่โลกถือกำเนิด


แต่เมื่อลันเทียร์รุ่นที่ 25 กลายเป็นนักลอบสักหารในตำนาน ความเข้าใจผิดก็เริ่มกระจายออกไปเป็นวงกว้าง


“นามที่ควรถูกเก็บซ่อนอยู่ในเงามืดกลับเปิดเผยสู้ที่แจ้ง ผู้คนเริ่มแซ่ซ้องยกย่องลันเทียร์อย่างเอิกเกริก ส่งผลให้ ‘เงา’ สูญเสียธรรมชาติที่เงาควรจะเป็น นับแต่นั้นเป็นต้นมา สถานภาพของอุปราคาก็เริ่มสั่นคลอนอย่างหนัก”


คาซิม ราชาเงา


หลังจากถ่ายทอดเคล็ดวิชาลันเทียร์ให้เฟคเกอร์มาตลอดหลายปี นี่คือครั้งแรกที่มันยอมเล่าเกี่ยวกับประวัติของกลุ่มอุปราคา


คล้ายกับมันเปิดใจยอมรับเฟคเกอร์มากขึ้น หลังจากอีกฝ่ายสามารถบรรลุเคล็ดวิชาลับทั้งหมดของลันเทียร์ในวันนี้


การเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลันเทียร์ย่อมหมายถึง บุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสืบทอดนาม ‘ลันเทียร์’ คนต่อไป


ดังนั้น หน้าที่ใหม่ของเฟคเกอร์คือการศึกษาประวัติศาสตร์ของอุปราคาให้ลึกซึ้ง


“นามที่เคยเป็นความลับของอุปราคาถูกเปิดเผยสู่โลกกว้างพร้อมกับความโด่งดังของลันเทียร์ ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วมากเสียจนองค์กรสูญเสียมนต์ขลังในชั่วข้ามคืน และเมื่อนามของอุปราคาถูกสาธารณชนเอ่ยถึงบ่อยครั้งจนติดปาก กลุ่มลูกค้าเก่าแก่ก็เริ่มยกเลิกการจ้างงาน”


กลุ่มนักลอบสังหาร


ไม่ใช่เรื่องดีนักที่องค์กรนักลอบสังหารจะถูกคนทั่วทั้งทวีปจับตามองทุกฝีก้าว ธรรมชาติของพวกมันคือการทำตัวลึกลับ ซ่อนเร้นในเงามืดเพื่อมิให้ศัตรูคาดเดาพฤติกรรมได้ถูก


ยิ่งเวลาผ่านไป การจ้างงานก็ยิ่งหดหาย


กลุ่มนักลอบสักหารคู่กายลันเทียร์เริ่มปริปากตัดพ้อ ทั้งที่พวกมันเคยปฏิบัติตามทุกคำสั่งโดยไม่คิดโต้แย้งมาตลอด


ลำดับและอำนาจการปกครองภายในองค์กรเกิดการสั่นคลอนสถานหนัก


“ลันเทียร์รุ่นที่ 25 แสดงความรับผิดชอบโดยการถอนตัวลาออก แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น องค์กรยังคงเสื่อมพลังอำนาจลงทีละนิด เครือข่ายเงาที่เคยปกคลุมทั่วทวีปตะวันตกก็เริ่มพังทลาย จนในที่สุด กลุ่มนักลอบสังหารอันดับหนึ่งได้กลายสภาพเป็นเพียงกลุ่มโจรดาดดื่น”


และนั่นคือปัญหา


เมื่อกลุ่มอุปราคาที่คอยลักพาตัวเด็กชายเปี่ยมพรสวรรค์จากทั่วทวีปมาปลุกปั้นให้เป็นนักลอบสังหาร ถึงคราวใกล้ล่มสลาย ตำแหน่งลันเทียร์รุ่นต่อไปจึงเริ่มขาดผู้สืบทอดที่เหมาะสม


เคล็ดวิชาลับลันเทียร์ค่อย ๆ เสื่อมถอย


เมื่อมาถึงลันเทียร์รุ่น 32 ผู้เป็นอาจารย์ของคาซิมและโดรัน วิชาลับลันเทียร์ได้ลดทอนประสิทธิภาพลงไปหลายส่วน


“หากต้องการฟื้นฟูวิชาลับลันเทียร์ให้กลับไปสมบูรณ์อีกครั้ง นายต้องไล่อ่านบันทึกของลันเทียร์รุ่นก่อนหน้าทั้งหมด แต่เนื่องจากฉันออกจากกลุ่มอุปราคามานาน จึงขาดการติดต่อกับพวกเขาโดยสมบูรณ์”


“…ทำไมถึงเลิกติดต่อกัน?”


เฟคเกอร์พลันประหลาดใจเมื่อได้ยินคาซิมเล่าว่าตนขาดการติดต่อกับองค์กร


ในเมื่อเป็นศิษย์โดยตรงของลันเทียร์รุ่นที่ 32 และในเมื่อลันเทียร์คือนามและตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มอุปราคา ย่อมหมายความว่า คาซิมมีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่งและกลายเป็นหัวหน้ารุ่นถัดไป


การที่อีกฝ่ายเล่าว่าขาดการติดต่อ จึงฟังดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร


เมื่อได้ยินคำถาม คาซิมอธิบาย


“นับตั้งแต่อาจารย์เผยให้เห็นถึงสัญญาณความโรยรา กลุ่มอุปราคาก็เริ่มเกิดความขัดแย้งภายในขึ้นโดยมีฉันและโดรันเป็นสาเหตุ”


“…”


“อย่างที่นายทราบ ทั้งฉันและโดรันขาดพรสวรรค์ในการสืบทอดวิชาลับลันเทียร์ฉบับสมบูรณ์ จึงเรียนได้เพียงคนละครึ่งซีก ทำให้มีสมาชิกจำนวนไม่น้อยเกิดความคลางแคลงในฝีมือพวกเขา แต่อาจารย์ก็พยายามโน้มน้าวทุกคนว่า เราสองคนสามารถผนึกกำลังเป็นลันเทียร์ที่สมบูรณ์แบบได้ เฮ่อ… สำหรับเรื่องนี้ แม่แต้ฉันกับโดรันยังสงสัยในฝีมือตัวเอง นับประสาอะไรกับสมาชิกระดับสูง”


“จึงเกิดการปฏิวัติภายในองค์กร?”


“ถูกต้อง เบอร์สองขององค์กรที่เหล่าอาวุโสส่วนมากให้การสนับสนุน ทำการขับไล่อาจารย์ที่เริ่มโรยราและไม่แข็งแกร่งเมื่ออดีต ส่งผลให้ท่านได้รับบาดเจ็บหนักขณะช่วยพาฉันกับโดรันหนีออกจากองค์กร ไม่กี่ปีถัดมา หลังจากถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้ฉันและโดรันบนภูเขาลูกหนึ่ง ท่านอาจารย์ก็เสียชีวิตลง”


“…”


“เมื่ออาจารย์จากไป โดรันเลือกเดินบนเส้นทางคนธรรมดา แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้เพราะยังมีหนี้แค้นกับจักรวรรดิ เพื่อจะเพิ่มพูนฝีมือให้มากขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี ฉันตัดสินใจออกตามหาบันทึกของลันเทียร์ของรุ่นก่อนซึ่งมีเพียงทายาทเท่านั้นที่อ่านออก แต่น่าเสียดาย เบาะแสของอุปราคาช่างริบหรี่”


“…”


“อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ฉันได้พบร่องรอยของอุปราคาเข้าโดยบังเอิญภายใน ‘คุกนรก’ ของจักรวรรดิ”


บาซาร่าเคยเชิญไอรีนและลอร์ดไปยังวังหลวง


ในเวลานั้น คาซิมซึ่งเคยมีเป้าหมายเป็นการแก้แค้นจักรวรรดิ ตัดสินใจออกสำรวจโครงสร้างรอบเมืองหลวงพลางจินตนาการว่าตนจะมีชะตากรรมเป็นเช่นไรหากคิดแก้แค้นด้วยตัวคนเดียว


ลงเอยด้วย มันเชื่อว่าตนจะล้มเหลวและถูกจับขังไว้ในคุกนรก จึงเข้าไปสำรวจในคุกนรกเพื่อตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่


แต่กลับพบร่องรอยของอุปราคาโดยบังเอิญ


“หรือว่า… มีนักโทษบางคนภายในนั้นเป็นสมาชิกอุปราคา?”


เฟคเกอร์ซักถาม


การที่ชายผู้มีธรรมชาติเงียบขรึมตัดสินใจออกปากซักไซ้เช่นนี้ สามารถยืนยันได้อย่างดีว่า เฟคเกอร์ปรารถนาจะสืบทอดนาม ‘ลันเทียร์’ มากเพียงใด


คาซิมตอบกลับด้วยสีหน้าพึงพอใจ


“ถูกต้อง ฉันคิดว่าเป็นแบบนั้น”


“เข้าใจแล้ว… ในขณะที่ผมไม่อยู่ คงต้องฝากให้คุณดูแลองค์ชายกับราชินีแทนสักระยะ”


เมื่อพบเบาะแสสำคัญ ทางเลือกเดียวคือการเข้าไปสำรวจให้แน่ชัด


จักรวรรดิซาฮารันและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเป็นอย่างมาก การขอเข้าไปตรวจสอบคุกนรกจึงไม่น่าจะยากเย็นสักเท่าไร


เมื่อตัดสินใจได้เด็ดเดี่ยว เฟคเกอร์โค้งศีรษะให้คาซิมและหมุนตัวหายไปกับความมืด


ฉากการหลอมรวมเป็นหนึ่งกับเงาใต้ฝ่าเท้าจนมิอาจสัมผัสถึงตัวตนได้โดยสิ้นเชิง ทำให้คาซิมเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง


“ลันเทียร์… กำลังจะคืนชีพจริงหรือ…”


***


โลกถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่


นรก โลกกึ่งกลาง และสวรรค์


แม้ทวีปตะวันตกและออกจะแยกออกจากกันโดยสมบูรณ์ แต่ทั้งสองแผ่นดินก็ยังถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่โลกกึ่งกลาง


แต่ ‘รังมังกร’ ถือเป็นข้อยกเว้น


ในเชิงกายภาพ รังมังกรอาจตั้งอยู่บนโลกกึ่งกลาง แต่ก็ยังถูกจัดให้เป็นห้วงมิติภายนอกที่ไม่ใช่โลกกึ่งกลางอยู่ดี


สำหรับลัทธิบูชามังกร รังมังกรเปรียบดังดินแดนสรวงสวรรค์ แต่สำหรับฝ่ายที่ระแวงและเกลียดชังมังกร รังมังกรนั้นไม่ต่างอะไรกับนรก


จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีไอ้โง่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พยายามรุกล้ำรังมังกรโดยไม่เกรงกลัวความตาย


และหนึ่งในไอ้โง่ที่ว่ากำลังยืนข้างกริด


[ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่มาเยือน <รังมังกรเพลิงทราวก้า>]


[ความสุดยอดของท่านที่สามารถทะลวงผ่านห้วงมิติเวทมนตร์ รวมถึงฝ่าด่านกับดักเวทมนตร์ทรงพลังและมอนสเตอร์อารักขาที่แข็งแกร่งมาได้สำเร็จ ควรค่าแก่การยกย่องเชิดชูและจารึกให้เป็นตำนาน]


[ท่านได้รับรางวัลตอบแทน : เลื่อนระดับตัวตนกลายเป็น ‘เหนือมนุษย์’]


[ท่านเป็นเหนือมนุษย์อยู่แล้ว ระบบทำการเปลี่ยนแปลงรางวัลตอบแทน]


[ระดับเหนือมนุษย์ของท่านถูกพัฒนาขึ้น 1 ขัั้น]


[โอกาสโจมตีจุดอ่อนศัตรูเพิ่มขึ้น]


[โอกาสป้องกันจุดอ่อนเพิ่มขึ้น]


“ข่ายเวทมนตร์ก่อกวนของมังกร? ฉันคนนี้ทะลวงผ่านมาได้ตั้งนานแล้ว!”


“…”


สมกับเป็นอาณาเขตแสนสำคัญ


เพียงได้มาเยือนเป็นคนแรก ก็จะถูกยกระดับให้กลายเป็นเหนือมนุษย์ทันที…


สำหรับเรา แค่การมาเยือนก็ช่วยพัฒนาตัวละครได้เท่ากับการเขียนกวีมหากาพย์หนึ่งบท…


หรือก็คือ ในมุมมองของซาทิสฟาย การบุกรังมังกรถือเป็นความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง


อย่างไรก็ตาม แม้กริดจะได้รับรางวัลใหญ่โดยบังเอิญ แต่สีหน้าของมันกลับไม่ปรากฏความสุขหรือความยินดีให้เห็นแม้แต่เศษเสี้ยว


“ก่อนอื่น… วางเจ้าพวกนั้นลง”


ชายหนุ่มห้ามปรามบราฮัมผู้กำลังใช้มือคว้าคอราชาภูตเทียมทั้งสี่ตน


เนื่องจากมีประวัติเคยถูกบราฮัม ‘โทรลล์’ จนเกิดความฉิบหายมาแล้วหลายหน กริดจึงตื่นตัวและรอบคอบมากเป็นพิเศษ


มันเชื่อว่า มังกรเพลิงทราวก้าที่เคยถูกบราฮัมบุกรุกรุกรังมาแล้วหนหนึ่ง ย่อมต้องวางกลไกป้องกันหัวขโมยเอาไว้สักอย่างสองอย่างล่วงหน้า


“นายแน่ใจได้ยังไงว่าบนตัวพวกมันไม่มีเวทมนตร์แกะรอย? หากถูกทราวก้าหมายหัว ไม่ใช่แค่นายที่เดือดร้อน แต่เป็นอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ทั้งหมด!”


ชายหนุ่มอธิบายอย่างสมเหตุสมผล


แต่บราฮัมทำเพียงพ่นลมจากจมูก


“นายยังเข้าใจมังกรไม่ดีพอ”


“…?”


“การวางกลไกป้องกันหัวขโมยไว้ในรัง ย่อมหมายถึงการยอมรับว่ารังของตนเคยถูกหัวขโมยบุกรุกมาแล้วหนหนึ่ง แต่มังกรเย่อหยิ่งเกินกว่าจะยอมรับเรื่องนั้น ในสายตาพวกมัน สิ่งมีชีวิตทั้งหมด ไม่เว้นกระทั่งเทพ ล้วนด้อยกว่าตัวเองทั้งสิ้น”


‘ยอมรับแล้วสินะว่าเป็นหัวขโมย…’


กริดส่ายหน้าพร้อมกับถามย้ำให้แน่ใจ


“นายกำลังจะบอกว่า ถ้าพวกเราขโมยทุกสิ่งไปจากที่นี่จนเกลี้ยง จะไม่เหลือร่องรอยใดให้มังกรเพลิงตามสืบได้?”


“ถูกต้อง”


“…เข้าใจแล้ว”


เมื่อได้เห็นสีหน้าและแววตาสุดแสนมั่นใจของบราฮัม กริดเริ่มผ่อนคลายความกังวล


มันรีบมองไปยังมุมห้องฝั่งหนึ่ง


นึกแล้วเชียว… พวกมังกรชอบวัตถุแวววาว


เหรียญทองและอัญมณีล้ำค่าจำนวนมากถูกวางสุมเป็นกองสูงประหนึ่งภูเขาเลากา


‘ทั้งหมดนี่จะขายได้เท่าไร…’


ดวงตากริดเริ่มเผยความโลภ


กริดเตรียมส่งข้อความเสียงไปหาเหล่าสิบวีรชนให้เตรียมกระเป๋าใบใหญ่จำนวนมาก พลางขยับตัวเข้าใกล้ภูเขาส่องแสงระยิบระยับตรงหน้า


ทันใดนั้น


> ถึงผู้บุกรุกทั้งหมด ข้าขอเตือนด้วยความหวังดี


> กรุณากลับออกไป หากฝ่าฝืน ทุกการกระทำหลังจากนี้จะถูกจัดการด้วยความรุนแรง


ราชาภูตเทียมทั้งสี่ตนที่กำลังถูกบราฮัมบีบคอ เริ่มเปล่งเสียงกล่าวออกมาคนละประโยค


คล้ายกับที่นี่มีกลไกสำหรับตรวจจับการขโมย


‘นี่คือสาเหตุที่มังกรเพลิงนำราชาภูตมาจากคนแคระ…?’


ตรงข้ามกับความมั่นใจของบราฮัม ทราวก้าได้ติดตั้งกลไกต่อต้านการจารกรรมไว้ในรัง


อย่างไรก็ตาม คล้ายกับมันกลัวเสียหน้าในเรื่องที่ตนติดตั้งกลไก จึงใช้สิ่งที่ได้รับจากคนแคระ ‘โดยบังเอิญ’ มาเป็นเกราะกำบัง


บราฮัมเห็นดังนั้นจึงระเบิดเสียงหัวเราะ


“คึฮะฮ่าฮ่า! ไอ้จิ้งจกปอดแหก! คึคึก!”


“ใช่เวลามัวหัวเราะหรือไง”


กริดส่ายหน้าพร้อมกับหยิบเหล่าราชาภูตออกจากมือบราฮัมและปล่อยพวกมันเป็นอิสระ


หากล้ำเส้นไปมากกว่านี้ สถานการณ์อาจเลวร้ายจนย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว


แน่นอน บราฮัมไม่สบอารมณ์


แต่มันก็เข้าใจ


“…ฉันยังไม่อยากให้อาณาจักรถูกทำลาย”


“ชิ… ก็ได้ ก็ได้”


มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมทำตาม


หากยั่วยุมังกรเพลิงไปมากกว่านี้ ผลลัพธ์อาจเลวร้ายถึงขั้นทำให้ทวีปตะวันตกทั้งหมดหายไป


“เอาล่ะ รีบกลับกันเถ—… เห?”


กริดที่เตรียมรบเร้าให้บราฮัมรีบกลับ เกิดชะงักคำพูดกลางคัน


สายตาของมันกำลังจ้องไปยังกำแพงหินฝั่งตรงข้ามภูเขาสมบัติกองใหญ่


“นั่นมัน…”


ร่องรอยอันเกิดจากลมหายใจมังกร


ต้องขอบคุณอันทริโน่ กริดจึงมีคลังข้อมูลเกี่ยวกับแร่เพิ่มขึ้นจนเกือบครบถ้วนสมบูรณ์


รายละเอียดในหน้าหนึ่งเขียนไว้ว่า หากผนังหินสัมผัสกับลมหายใจมังกรติดต่อกันเป็นเวลานานกว่าสองร้อยปี มีโอกาสเล็กน้อยที่แร่หายากจะถือกำเนิดขึ้น


คุณสมบัติของแร่จะขึ้นอยู่กับชนิดของมังกร


“…?”


บราฮัมผู้กำลังหัวเสียและเตรียมใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติกลับ พลันเอียงคอด้วยความฉงน


ภาพของกริดที่แววตาเปลี่ยนไปพลางหายใจกระเส่า ทำให้บราฮัมเกิดความไม่สบายใจ


จากนั้น กริดส่งเสียงถาม


“นายสามารถ… เชือดพวกมันทิ้งโดยไม่ให้มังกรเพลิงรู้ตัวได้ไหม”


ปลายนิ้วชายหนุ่มชี้ไปทางราชาภูตเทียมทั้งสี่


เหล่าภูตพลันดวงตาเบิกโพลง ส่วนบราฮัมขมวดคิ้วชนกันพลางถอนหายใจ


“แล้วอาณาจักรของนายล่ะ ความวิตกก่อนหน้านี้มันคืออะไร? เฮ่อ… ช่างเถอะ แต่แทนที่จะทำลายพวกมันและกระตุ้นให้ทราวก้ารู้ตัว ฉันคิดว่าเราควรทำให้พวกมันพิการชั่วขณะแทน”


ฉึบ.


บราฮัมสำแดงโลกจินตภาพ


หลังจากกักขังราชาภูตเทียมไว้ด้านใน มันหันมากล่าวเตือนกริด


“ห้านาที… หากนายไม่รีบจัดการให้เสร็จภายในห้านาที มังกรเพลิงจะตระหนักถึงความผิดปรกติและรีบกลับมา”


โลกจินตภาพมิใช่พลังธรรมดา แรงกระเพื่อมของเวทมนตร์ย่อมมีสูง ส่งผลให้ตัวตนที่ไวต่อพลังเวทมนตร์สามารถสัมผัสถึงได้ง่าย


และในไม่ช้า มังกรเพลิงจะตรวจพบว่ามีใครบางคนกำลังบุกรุกรังของตน


หลังจากฟังคำเตือน กริดพยักหน้าหนักแน่นพร้อมกับควักจอบสองหัว


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,680
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00