จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,271



“พระบิดา!”


เด็กชายผู้มีรอยยิ้มสดใสกำลังวิ่งปรี่เข้าหา


ดวงตาทั้งสองส่องประกายงดงามราวกับอัญมณีเลอค่า


เส้นผมที่ดำขลับส่งเสริมทำให้ผิวพรรณอันขาวเนียนโดดเด่นสะดุดตายิ่งกว่าเดิม


ไม่ใช่ใครนอกจากองค์ชายรัชทายาทผู้โด่งดังแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เด็กหนุ่มผู้สามารถกุมหัวใจสตรีน้อยใหญ่ได้ทุกครั้งในยามย่างกรายไปตามท้องถนน


“ลอร์ด!”


กริดสวมกอดบุตรชายที่กำลังวิ่งเข้าหา พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งยีผมของเด็กหนุ่มจนกระเซิง


แม้จะย่าง 14 ขวบแล้ว แต่ลอร์ดก็ยังเป็นเด็กน้อยน่ารักในสายตากริดเสมอ


“ฮะฮะฮะ!”


“องค์ชาย ช่วยสำรวมกิริยาด้วยเพคะ”


เมื่อเห็นลอร์ดกำลังใช้ใบหน้าซุกไซ้อกกริดประหนึ่งลูกแมวนอนอาบแดด ครูสอนมารยาทตัดสินใจเดินเข้ามาตักเตือน


กริดผลักลอร์ดออกเล็กน้อยด้วยสีหน้าอึมครึม มือข้างหนึ่งจับอยู่บนบ่าเด็กชาย


“แสดงความรักระหว่างพ่อลูกก็ไม่ได้หรือ”


“ฝ่าบาท ดิฉันมิได้มีเจตนาล่วงเกินพระองค์ เพียงแต่ท่านไอรีนได้กำชับให้ดิฉันเข้มงวดเรื่องมารยาทกับองค์ชายเป็นพิเศษ”


“…เข้าใจแล้ว แต่พวกเรามิได้แสดงออกเช่นนี้บ่อยครั้งนัก ไอรีนจะต้องเข้าใจแน่”


หลังจากกริดต่อรองให้อาจารย์สอนมารยาทผ่อนปรน ชายหนุ่มเริ่มตรวจสอบข้อมูลตัวละครของบุตรชาย


เนื่องจากยังไม่ผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะ ค่าสถานะและเลเวลจึงยังถูกจำกัดเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีทักษะเกรด S ขึ้นไปมากถึง 13 ชนิด และยังมีค่าสถานะที่แตกต่างกันเกินกว่า 10 ชนิด


สมกับเป็นอัจฉริยะระดับทวีป


ไม่ผิดไปจากความคาดหมายของลอเอล เด็กคนนี้จะกลายเป็นอาวุธลับสำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในอนาคต


แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่า เขาต้องการชีวิตแบบนี้จริงหรือ…


เงาดำเริ่มพาดลงบนใบหน้ากริดจนมืดมน


‘ชีวิตในแต่ละวันจะเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย’


บราฮัม ปิอาโร่ เมอร์เซเดส เหล่าอัจฉริยะของโอเวอร์เกียร์ รวมไปถึงครอเกล


หลังจากเฝ้ามองแผ่นหลังของบรรดาอัจฉริยะอย่างใกล้ชิดมานานหลายปี กริดย่อมทราบดี


ทุกคนพากเพียรและลำบากไม่ต่างจากตน


สาเหตุที่ทำให้ทุกคนก้าวไปยังจุดสูงสุดของเส้นทางตัวเองสำเร็จ ลำพังพรสวรรค์เพียงอย่างเดียวยังไม่พอ แต่ต้องมีความมุมานะอันกล้าแกร่งด้วย


ทุกคนเข้านอนเร็วกว่าใคร ตื่นเช้ากว่าใคร เพื่อทุ่มเทเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดไปกับการฝึกฝนเทคนิคให้ช่ำชอง


ลอร์ดเองก็เช่นกัน


เด็กหนุ่มซึ่งเกิดมาเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของคนรอบข้าง จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมีความสุขได้จริงหรือ?


กริดตั้งคำถามด้วยสีหน้าขึงขัง


“ลอร์ด ความฝันของลูกคืออะไร”


“แน่นอนอยู่แล้ว… ผมอยากเป็นเหมือนกับพระบิดา! ยอดนักรบและช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของโลก! …อยากเป็นราชาที่ราษฎรต่างมอบความรักและเคารพให้”


“…”


นี่คือผลพวงจากการปลูกฝังแบบผิด ๆ หรือ?


ลอร์ดอาจเข้าใจสับสนระหว่างความฝันของตัวเองกับสิ่งที่คนรอบข้างคาดหวัง


ขณะกริดกำลังหัวใจแตกสลาย และเตรียมพูดคุยเพื่อปรับทัศนคติของบุตรชายเสียใหม่


“…นอกจากนั้น ผมยังต้องการให้คนรักทุกคนมีความสุขอย่างถ้วนหน้า!”


“…”


กริดพลันกลืนคำที่จะกล่าวลงคอ


เมื่อได้สติและกวาดตามองไปด้านหลัง ชายหนุ่มมองเห็นเด็กสาวนับร้อยกำลังโค้งศีรษะทำความเคารพพร้อมเพรียง


ว่าที่บุตรีแห่งรีเบคก้า


เหล่าสตรีผู้คอยดูแลลอร์ดตั้งแต่พวกเธอยังเป็นเพียงเด็กหญิง บัดนี้ได้เติบใหญ่กลายเป็นช่อบุปผางามบานสะพรั่ง


กริดถามต่อหลังจากขบคิดในหัวสักพัก


“ลูกจะรับมือพวกเธอไหวจริงหรือ…”


“แน่นอนครับ!”


แน่ใจนะว่าเข้าใจคำถาม?


หลังจากได้เห็นสีหน้าสดใสร่าเริงของบุตรชาย กริดสลัดความกังวลทิ้ง


‘ด้วยความเป็นอัจฉริยะระดับทวีป การมีเมียสักสองสามร้อยคนก็คงไม่ใช่ปัญหากระมัง…’


แต่ก่อนหน้านั้น ลูกต้องเก็บเงินให้ได้มาก ๆ เสียก่อน


ถ้าไม่อยากต้องอับอายเพราะถังแตกกับค่าเลี้ยงดูภรรยานับร้อย จนไม่เหลือเงินค่าขนมเพียงพอให้เหล่าทายาท


กริดส่ายหน้าพลางหยิบตุ๊กตา 4 ตัวออกจากคลังสัมภาระ


ทั้งหมดคือภูตเทียมจากทาลิม่า


“น่ารัก!”


สตรีคนรักของลอร์ดโพล่งขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น


ไฟ น้ำ ดิน ลม


กลุ่มเด็กสาวต่างเผยสีหน้าตกตะลึงเจือความชื่นชม เนื่องจากภูตทุกตนล้วนมีรูปร่างและสีสันงดงามฉูดฉาดไปตามแต่ละธาตุ


“นี่มัน…”


ลอร์ดเคยเรียนวิชาภูตธาตุจากสติกส์ และเชี่ยวชาญศาสตร์ดังกล่าวได้ภายในเวลาอันสั้น


ใครหลายคนอาจมองว่าคลาสของกริดเต็มไปด้วยความขี้โกง แต่สำหรับกริด ไม่มีคลาสใดโกงไปกว่าคลาสของลอร์ดอีกแล้ว


“ผมสัมผัสถึงพลังของภูตธาตุได้จากตุ๊กตา!”


“ถูกต้อง สิ่งนี้คือภูตเทียม ผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีอันก้าวหน้าของคนแคระ แต่ไม่เหมือนกับภูตธาตุตัวจริง ภูตเทียมเป็นเพียงวัตถุสำหรับใช้งาน จึงเชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์มากกว่าภูตธาตุ ดังนั้น จงเก็บรักษาให้ดี สิ่งเหล่านี้อาจมีประโยชน์ในสักวัน”


“ตกลงครับ! ผมจะดูแลพวกเขาอย่างดี!”


ลอร์ดฉีกยิ้มกว้าง ตุ๊กตาทั้งสี่ถูกรับไปกอดไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับใช้ปลายจมูกสูดดม


กริดเอียงคอถาม


“พวกมันมีกลิ่นด้วยหรือ?”


“ไม่มีครับ แต่ผมชอบกลิ่นของพระบิดาที่ติดมาด้วย”


เป็นคำตอบที่ต้องการให้บิดารู้สึกซาบซึ้ง


แต่น่าเสียดาย กริดทึ่มเกินกว่าจะเข้าใจ


‘อัจฉริยะสามารถพัฒนาประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นด้วยสินะ… ไม่เลว ในอนาคต ความสามารถนี้ต้องมีประโยชน์แน่’


มอนสเตอร์ในซาทิสฟายมีหลากหลายประเภท แต่ละตัวก็มีกลิ่นต่างกันออกไป กริดเคยได้ยินมาว่า ผู้เล่นที่มีประสาทการดมกลิ่นดีเป็นพิเศษ จะตรวจจับตำแหน่งของมอนสเตอร์ประเภทพิษระดับต่ำ และมอนสเตอร์ที่มีกลิ่นกายเหม็นฉุนจากระยะไกลได้บ่อยครั้ง


“พ่อขอตัวก่อน หลวงพ่อดาเมี่ยนคงใกล้มาถึงแล้ว”


ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดาเมี่ยนจะแอบปลีกตัวมาสอนพลังศักดิ์สิทธิ์ให้ลอร์ดสัปดาห์ละครั้ง


“ครับ! พระบิดา”


กริดบอกลาลอร์ดและไปพบไอรีนต่อทันที


มันพยายามสร้างความสุขให้เธอ มากเท่าที่ตัวเองสามารถกระทำ อย่างไรก็ตาม สีหน้าของไอรีนกลับบึ้งตึงตั้งแต่ต้นจนจบ


เธอมีเรื่องค้างคาใจที่ต้องการพูดมานาน ก่อนที่กริดจะไปเยือนทาลิม่าเสียอีก


แม้จะเป็นถึงราชินี แต่ไอรีนเพิ่งได้ยินข่าวในภายหลังว่า สามีของตนอาสาดวลกับจอมอสูรสุดแกร่งตามลำพังโดยไม่มีอัศวินคนใดคอยช่วยเหลือ


“ครั้งหน้า… สัญญากับดิฉันได้ไหมว่าฝ่าบาทจะไม่ฝืนตัวเองอีก”


“…เข้าใจแล้ว”


เมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มลัทธินอกรีตในอเมริกาเริ่มอ้างทฤษฎี ‘NPC ของซาทิสฟายก็มีวิญญาณเหมือนกับมนุษย์’ แน่นอนคนส่วนใหญ่มองเป็นเรื่องขบขัน เพราะทุกคนทราบดีว่า NPC เกิดจากฝีมือของนักวิทยาศาสตร์ หาใช่พระเจ้า และวิญญาณของ NPC จะไม่ถูกส่งไปยังสวรรค์หรือนรกหลังความตาย


อย่างไรก็ตาม กริดกลับลังเลและยิ่งสับสน


ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดมากเท่าไร มันก็ยิ่งมอง NPC เป็นสิ่งมีชีวิตมากกว่าจิตวิญญาณเทียมทีละนิด


ยิ่งแสดงเคารพและเห็นใจในตัว NPC คำถามดังกล่าวก็ยิ่งดังสะท้อนภายในใจ


ต้องไม่ลืมว่า นับตั้งแต่อดีตกาล มีอารยธรรมจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าดวงวิญญาณสามารถถือกำเนิดภายในวัตถุ


ดังนั้น ยิ่งเป็นวัตถุที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทุกประการด้วยแล้ว ก็ยิ่งแยกแยะดวงวิญญาณยากไปกันใหญ่


“เฮ่อ…”


กริดตัดสินใจไม่ขบคิดเชิงปรัชญาให้ปวดหัว


ชายหนุ่มหายสูดลมหายใจเต็มปอด ก่อนจะเดินไปยังย่านอุตสาหกรรมโรงตีเหล็ก ระหว่างทางได้ส่งข้อความเสียงไปหายูร่า


> ต้องขอโทษด้วย ฉันยังเรียนเทคนิคการสร้างปืนวิศวกรรมเวทมนตร์มาไม่ได้


เดิมที กริดมีแผนจะเรียนเทคนิคการสร้างปืนวิศวกรรมเวทมนตร์จากแผนกวิจัย แต่มาร์กาเร็ตซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง กลับไม่ยอมปลีกตัวออกจากห้องทดลองแม้แต่วินาทีเดียว แผนการของกริดจึงต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด


คนที่แม้แต่พิธีเฉลิมฉลองการเป็นอิสระของดวงวิญญาณอดีตราชินียังไม่มาเข้าร่วม คงไม่มีประโยชน์ที่จะขอร้องให้หยุดทำงานและออกมาพบชั่วคราว


> ขอโทษทำไม? ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณในความใส่ใจ


> ขอบคุณที่เข้าใจ


เมื่อคุยกับยูร่าจบ กริดเดินมาถึงโรงตีเหล็ก หลังจากเมอร์เซเดสปลีกตัวออกไปจัดแถวอัศวินอารักขารอบอาคาร ชายหนุ่มย่างกรายเข้าไปในโรงตีเหล็กโดยมีแพนเมียร์ออกมาต้อนรับ


กริดเรียกทุกคนมารวมพร้อมกับวางก้อนเพชรอีเธอร์จำนวนมากลงบนโต๊ะ


“พวกนายถลุงมันได้ไหม”


“ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้… แต่โอกาสสำเร็จมีน้อยมาก อาจไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำ”


แร่ที่แม้แต่คนแคระยังส่ายหน้า


กริดผงกศีรษะรับเป็นเชิงขอบคุณในความเถรตรงของแพนเมียร์ จากนั้นก็แบ่งเพชรอีเธอร์ให้บรรดาช่างฝีมือคนละสิบก้อน


“พยายามถลุงให้ได้”


“แร่หายากเช่นนี้… พบได้แค่ในเขตทาลิม่าไม่ใช่หรือ หากนำของมีค่ามาเสี่ยงกับพวกเรา เกรงว่าความเสียหายอาจใหญ่หลวงเกินไป…”


“ถ้ามันช่วยให้พวกนายเติบโตได้เร็วขึ้น มูลค่าเพียงเท่านี้นับว่าไม่แพง”


สำหรับกริด มันสามารถหลอมแร่ทุกชนิดได้ง่ายดายด้วยเอฟเฟคของคลาส แต่กับคนธรรมดานั้นไม่ใช่ มีบ่อยครั้งที่พวกมันทำให้แร่คุณภาพสูงเสียหายในขั้นตอนการถลุง


ด้วยเหตุนี้ ช่างตีเหล็กหลายคนจึงมักทำกำไรด้วยการซื้อแร่ที่ตนถลุงได้ง่าย มาถลุงและขายต่ออีกทอดหนึ่งในราคาที่สูงขึ้น หรือไม่ก็นำไปสร้างเป็นไอเท็ม


ถือเป็นช่องทางการทำเงินที่ดีและไม่เบียดเบียนใคร


แต่ก็ไม่ช่วยให้ตัวละครพัฒนาเช่นกัน


เพราะในโลกของซาทิสฟาย ยิ่งถลุงแร่ระดับสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งได้รับค่าประสบการณ์ทักษะมากเท่านั้น ถึงผลลัพธ์จะล้มเหลวก็ตาม


“ขอขอบคุณ… อีกครั้ง”


“เรื่องแค่นี้เอง”


กริดยิ้มพลางโบกมือลาแพนเมียร์และช่างตีเหล็กที่เหลือ ก่อนจะเดินออกจากโรงตีเหล็ก


เป้าหมายถัดมาคือลอเอลและแร็บบิท


“จงบริหารพวกมันอย่างเหมาะสม”


“นี่มัน… เหมือนกับของเคย์!”


ภูตเทียมทั้ง 98 ตนถูกวางเรียงรายบนโต๊ะกลมขนาดใหญ่


หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้น ดวงตาลอเอลและแร็บบิตต่างส่องประกายแวววาว


“พวกเราสามารถประหยัดค่าจ้างแรงงานได้อย่างมหาศาล!”


“ฉันดีใจได้ที่ช่วยอาณาจักรลดต้นทุน”


“ฉันได้ยินมาแล้ว พวกเราจะได้รับภูตเทียมเพิ่มอีกปีละ 50 ตนด้วยใช่ไหม?”


“ฝ่าบาท… อาณาจักรเราผลิตเองไม่ได้หรือ?”


“หมดหวัง ไม่เกี่ยวว่าพวกเขาจะยอมถ่ายทอดเทคนิคการสร้างหรือไม่ แต่วิญญาณเทียมต้องสร้างจากเผ่าคนแคระเท่านั้น”


“อา… น่าเสียดายชะมัด”


ชีวิตอันวุ่นวายยังคงดำเนินต่อ


ขณะลอเอลกำลังปรึกษากับแร็บบิตถึงวิธีใช้งานภูตเทียมให้เกิดประโยชน์สูงสุด กริดขอตัวออกมาหาบราฮัมที่หอสมุดหลวง


ภาพของมหาจอมเวทมนตร์ในตำนานกำลังนั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างโดยมีแสงอาทิตย์อบอุ่นสาดชโลม ช่างงดงามราวกับงานศิลป์มูลค่ามหาศาล


“แวมไพร์เกลียดแดดไม่ใช่รึไง?”


“…มีธุระอะไรก็รีบพูดมา”


“เรื่องนั้น… ฉันอยากถามว่า เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติสามารถทะลวงผ่านข่ายเวทมนตร์ก่อกวนของมังกรได้ไหม”


“ไม่มีทาง ต่อให้เจ้าผอ.โรงเรียนนั่นมีชีวิตอยู่อีกพันปีหรือหมื่นปี ก็ไม่น้ำยามากพอจะทะลวงผ่านข่ายเวทมนตร์ก่อกวนของมังกรได้แน่”


ตามปรกติแล้ว กริดมักใช้งาน ‘ผอ.โรงเรียน’ อย่างสติกส์ในฐานะคนขับรถส่วนตัวเสมอ เพราะไม่ว่ามันจะหน้าด้านและไร้ยางอายสักเพียงใด ก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอร้องให้บราฮัมใช้เวทมนตร์เทเลพอร์ตส่งตนไปไหนมาไหน


บราฮัมจึงตีความคำถามของกริดด้วยเงื่อนไข ‘เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติของสติกส์’ โดยปริยาย


กริดถามย้ำ


“แล้วถ้าเป็นเวทมนตร์ของนายล่ะ”


ในที่สุด บราฮัมเริ่มละสายตาจากหนังสือตรงหน้าเป็นครั้งแรก ดวงตาสีทับทิมสดจดจ้องมาทางกริดไม่กะพริบ จนชายหนุ่มรู้สึกราวกับบรรยากาศรอบตัวอบอวลด้วยสายลมเย็นยะเยือกชั่วขณะ


“เวทมนตร์ชั้นสูงจำนวนมากล้วนมีต้นกำเนิดจากมังกร หนึ่งในนั้นคือเทเลพอร์ตและคำสาปจำแลงกาย”


“หมายความว่า แม้แต่เทเลพอร์ตของนายก็ใช้การไม่ได้เหมือนกัน…”


กริดพลันหดหู่


ความกังวลของอันทริโน่เป็นจริงขึ้นมาแล้ว บุคคลภายนอกเข้าไปเยือนทาลิม่าได้ไม่ง่ายเลย


ขณะสีหน้ากริดเริ่มอึมครึม มันสัมผัสได้ว่า ภาษากายของอีกฝ่ายมีการเปลี่ยนแปลง


ดวงตาของบราฮัมแปรเปลี่ยนไปจากปรกติ คล้ายกับมีประกายไฟอันร้อนแรงลุกท่วม


“สำหรับฉัน เป้าหมายสูงสุดของเวทมนตร์คือการสังหารมังกร”


ในสายตาบราฮัม แผนแก้แค้นเหล่าจอมอสูรที่ขับไล่มารดาตนออกจากขุมนรกเป็นเพียงหน้าที่ของลูก ส่วนเป้าหมายในการฆ่าแมรี่โรสก็เพื่อขจัดภัยคุกคาม


แต่ถ้ากล่าวถึงวัตถุประสงค์ส่วนตัวของมหาจอมเวทในตำนาน ‘บราฮัม’ สิ่งนั้นมีเพียงเรื่องเดียวมาตลอด นั้นคือการคร่าชีวิตมังกรด้วยมือตนเอง


จริงอยู่ มันอาจเคยมีตำนานการหลบหนีจากมังกรไฟทราวก้าอันโด่งดัง


แต่ศักดิ์ศรีของบราฮัมจองหองยิ่งกว่านั้น มันไม่เคยโอ้อวดเรื่องดังกล่าวให้ใครฟัง เนื่องจากมองเป็นความอับอายที่ตนต้องวิ่งหนีหากจุกก้นอย่างน่าสมเพช


มันต้องการขจัดอดีตอันขมขื่นออกจากจิตใจ


“เห…?”


หมับ!


บราฮัมเดินเข้ามาใกล้และคว้าข้อมือกริด


ทันใดนั้น


ชิ้ง—!


ทัศนียภาพรอบตัวกริดเปลี่ยนไปในทันที


คล้ายกับตนกำลังอยู่ในโพรงถ้ำขนาดใหญ่ที่มิอาจกะเกณฑ์ขนาดได้แม่นยำด้วยตาเปล่า


บราฮัมพากริดมายังสถานที่ลึกลับและไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต


“ที่นี่คือ…?”


ชายหนุ่มรีบกวาดตาสำรวจ และเพียงไม่นาน ความกระอักกระอ่วนพลันพลุ่งพล่านภายในใจ


ฉากที่ทำให้หัวใจของมันเต้นโครมครามมิใช่สมบัติที่กองสูงเป็นภูเขาสีทองตรงมุมห้อง


หากแต่เป็นภาพของภูตเทียมสี่ตนกำลังจับไม้กวาดทำความสะอาดตามจุด


ประเมินด้วยตาเปล่า กริดพบว่าสีของภูตเทียมเหล่านี้ เข้มข้นและส่องแสงแพรวพราวกว่าตัวที่ตนได้รับจากแผนกวิจัยทาลิม่า


“บ…บ้าน่า…”


มันทราบได้ทันที


[ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่มาเยือน <รังมังกรเพลิงทราวก้า>]


“โฮ่… เจ้าพวกนี้น่ารักชะมัด”


“…!”


แข้งขาชายหนุ่มพลันอ่อนระทวย


เหล่าผู้พิทักษ์แห่งทาลิม่า


กริดทำได้เพียงอ้าปากค้างเมื่อเห็นบราฮัมทำการขโมยสี่ราชาภูตเทียมไปเป็นของตัวเอง


บราฮัมหันมากล่าวกับชายหนุ่ม ผู้กำลังมีสีหน้าขาวซีดประหนึ่งวิญญาณหลุดออกจากร่างโดยสมบูรณ์


“ข่ายเวทมนตร์ก่อกวนของมังกร? ฉันคนนี้ทะลวงผ่านมาได้ตั้งนานแล้ว!”


…ท่าทีแบบนี้มันอะไรกัน


นี่ไม่ใช่การขโมยลูกหมาตัวสองตัวนะเฟ่ย!


กริดพลันหมดคำจะกล่าว ทำได้เพียงจ้องเข้าไปในดวงตาของ ‘หัวโขมย’ ผู้กำลังยืนเก๊กท่าโอหังอย่างภาคภูมิใจเสียเต็มประดา


______________

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,678

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. บราฮัมเอ็งเกรียนจังฟร่ะ

    ReplyDelete
  2. บราฮัมโครตเกรียน55555555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00