จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,256



จุดแตกต่างระหว่าง NPC พิเศษและมอนสเตอร์พิเศษคือปริมาณพลังชีวิต


หากเป็นตัวตนที่มีระดับใกล้เคียงกัน พลังชีวิตจะต่างกันราว 100 เท่า และอาจสูงสุดถึง 1,000 เท่าเลยทีเดียว


แต่นั่นมิได้หมายความว่ามอนสเตอร์พิเศษจะแข็งแกร่งกว่า NPC พิเศษ


หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ คงต้องยกตัวอย่างของอดีตตำนานมนุษย์ขึ้นมากล่าวถึง


NPC พิเศษทุกคนล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ‘เทคนิค’ โดยจะอาศัยการเคลื่อนไหวร่างกายเพียงเล็กน้อย หลบหลีกหรือสลายการโจมตีทิ้งอย่างง่ายดาย อาจรวมไปถึงโต้กลับ เพราะพวกมันตระหนักว่าพลังชีวิตของตนค่อนข้างต่ำและมีขีดจำกัด ความระมัดระวังตัวจึงสูงกว่าหลายเท่า


ในทางกลับกัน มอนสเตอร์พิเศษนั้นเคลื่อนไหวโดยอาศัยสัญชาตญาณเป็นหลัก และเลือกจะบดขยี้เป้าหมายให้สิ้นซากอย่างรวดเร็วแทนการป้องกันหรือหลบหลีก พวกมันเชื่อโดยสัญชาตญาณว่า พวกตนมีสมรรถภาพร่างกายเหนือกว่าศัตรู (พลังชีวิต)


สรุปโดยสั้น ทั้งสองประเภทมีความแตกต่างในด้านวิธีการต่อสู้ และเป็นการยากที่จะระบุได้ชัดเจนว่าฝ่ายไหนดีกว่ากัน


โดยหากมองในมุมของผู้เล่น ศัตรูทั้งสองประเภทล้วนตึงมือไม่ต่างกัน


แต่ไม่ใช่กับกริด


ในฐานะผู้ครอบครองพลังโจมตีอันหนักหน่วง ชายหนุ่มชื่นชอบที่จะสู้กับมอนสเตอร์พิเศษมากกว่า NPC พิเศษ


ไม่เหมือนกับการโจมตีใส่ NPC พิเศษที่มักมีตัวอักษร ‘MISS’ ลอยเต็มอากาศ การโจมตีใส่มอนสเตอร์แทบไม่เคยพลาดเป้า เป็นความสะใจในแบบที่หาคำอธิบายไม่ได้


“ “อะ…อ๊ากกกก!!” ”


ซาลอสซึ่งถูกผู้เล่นหลายร้อยรุมล้อมโจมตี เป็นการยากจะป้องกันทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน


ถึงจะใช้เวทมนตร์ระเบิดผู้เล่นให้กระเด็นไปได้หลายสิบ แต่ก็ยังมีอีกหลายสิบกรูเข้าไปทดแทน


เริ่มจากครอเกล ตามด้วยกริด หลังจากพลังชีวิตของมันใกล้เหือดแห้ง ซาลอสตระหนักถึงช่วงเวลาที่ตนอาจต้องบอกลาสังขารปัจจุบัน


“ “จบสิ้นแล้วสินะ… แค่ก! แค่ก!” ”


สำหรับจอมอสูร ความตายมิใช่จุดสิ้นสุด ดวงวิญญาณพวกมันสามารถคืนชีพได้ในภายหลัง สังขารที่สวมอยู่เป็นเพียงอาภรณ์ชั่วคราว ถึงจะสูญเสียไป ก็ยังสามารถคืนชีพใหม่ได้ทุกเมื่อ


และ…


“ “วันใดที่ข้าคืนชีพ… วันนั้นข้าจะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม” ”


การคืนชีพของจอมอสูรหมายถึงการเติบโต


เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?


ขณะพวกมันกำลังมองหาร่างกายใหม่ สมองจะวิเคราะห์จุดอ่อนและสิ่งที่ตนทำพลาดพลั้ง ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง


“…อึก”


ผู้เล่นที่กำลังเสียบอาวุธเข้าไปในตัวซาลอสพลันกลืนน้ำลายเหนียวเสียงดังระงม


นอกจากจะไม่หดหู่สิ้นหวัง ดวงตาซาลอสที่ใกล้ตายกลับยิ่งทวีความน่ากลัวจนทุกคนต้องหวาดหวั่น เป็นเช่นนี้เพราะเหล่าผู้เล่นล้วนทราบกันดีว่า คำขู่นั่นมิใช่ของปลอม


ชิ้ง!


ลวดลายบางอย่างถูกสลักที่ปลายแขนทุกคน


บรรดาผู้เล่นซึ่งเกิดความเจ็บปวดขึ้นมาอย่างกะทันหัน รีบจ้องไปยังปลายแขนของตน และพบว่ามีสัญลักษณ์ดวงตาแดงก่ำจนคล้ายสีเลือดถูกสลักไว้


<ตราประทับแห่งซาลอส>


เป็นคำสาปที่จะได้รับหลังจากไล่ต้อนจอมอสูรลำดับท็อป 20 จนถึงแก่ความตาย


ในวันที่มันคืนชีพ ผู้เล่นทุกคนจะถูกไล่ล่าโดยซาลอสทีละคนสองคนอย่างน่าสังเวช


ขณะผู้เล่นเริ่มหวาดกลัวและก้าวถอยหลังอย่างประหม่าตามสัญชาตญาณ


“จอมอสูรพล่ามเก่งกันทุกตัว…”


ฟ้าว!


ยูนิคอร์นสีขาวโพลนสุดสง่างาม


กริดกำลังขี่หนึ่งในสัตว์พาหนะหายาก ร่อนลงจากฟากฟ้า น่าเสียดายที่มันชื่อว่าโอเวอร์เกียร์คอร์น ไม่อย่างนั้นคงถูกผู้คนสรรเสริญในความสง่างามมากกว่านี้


ชายหนุ่มเปล่งเสียงกล่าวกับซาลอส ผู้กำลังจ้องกลับมาด้วยสายตาอาฆาต


“ชีวิตของแกจะจบลงที่นี่ และไม่มีโอกาสโผล่หน้าออกมาอีกเป็นหนที่สอง”


“ “คึฮ่าฮ่าฮ่า!! เป็นถึงราชาวีรบุรุษ แต่กลับไม่รู้จักความยิ่งใหญ่ของพวกเราจอมอสู—…?” ”


ซาลอสที่กำลังหัวเราะอร่อยพลันหน้าเสีย


ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยว สายตาเจือความสิ้นหวังและอาฆาตแค้น


ซู่ว!


แสงสว่างจากฟากฟ้า


เป็นแสงเทียมอันเปี่ยมด้วยพลังเวทมนตร์


ทุกคนล้วนทราบกันดี แสงนี้คือเอกลักษณ์ของหนึ่งในเวทระดับสูง <เคลื่อนย้ายมิติกลุ่ม>


“ “ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม…” ”


ในสภาพร่างกายชุ่มเลือด ซาลอสพลันขนลุก


มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของใครบางคนจากกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เพิ่งเคลื่อนย้ายมิติมาถึง


จะให้ไม่ทราบได้อย่างไร…


ตัวตนอันโสโครกและน่ารังเกียจซึ่งมาพร้อมคำสาปและหายนะ คงไม่มีจอมอสูรตนใดกล้าเพิกเฉยอย่างแน่นอน


“ “…นักบุญหญิง?” ”


เป็นกลิ่นอายอันโดดเด่น แตกต่างจากพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดารีเบคก้าโดยสิ้นเชิง


‘ปาฏิหาริย์แห่งมวลมนุษย์’ ซึ่งสามารถยับยั้งการคืนชีพของจอมอสูร ด้วยพลังจากภายนอกที่ฝ่าฝืนข้อตกลงระหว่างรีเบคก้าและยาธาน


“ “อัญเชิญขุมนรก!!” ”


นรกนครแบ่งออกเป็นทั้งสิ้น 33 ขุม


เฉกเช่นอาณาจักรมนุษย์ที่แต่งต่างกันออกไป ขุมนรกเอกก็เช่นกัน จึงมีจอมอสูรหลายตนพึงพอใจกับนรกของตน แต่บางส่วนก็ไม่


ซาลอสคืออย่างหลัง


ในสายตาของมัน นรกขุมที่ 19 ทั้งทรุดโทรมและน่ารังเกียจ


เป็นดินแดนอันกว้างขวางซึ่งมีเพียงความงดงามอันชวนให้คลื่นไส้อาเจียน ปราศจากลาวานรกร้อนแรงไหลผ่านเหมือนกับขุมอื่น


ประหนึ่งเป็นบทลงโทษของบาเอลที่ต้องการให้ซาลอสได้รับความอับอาย เนื่องจากคุณสมบัติของมันไม่คู่ควรกับการเป็นผู้ปกครองขุมนรก


ข้าคนนี้ต้องเปิดเผยขุมนรกอันน่าอับอายต่อหน้าเหล่ามนุษย์…


ซาลอสสะอิดสะเอียนตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากสำแดงขุมนรกออกมา


เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า นักบุญหญิงเป็นภัยคุกคามสำหรับมันมากเพียงใด


ซาลอสยังไม่ปรารถนาการพักผ่อนอันเป็นนิรันดร


ครืนนนนนนนนน!!


ท้องฟ้าร้องคำราม ความดำทะมึนเริ่มแผ่ปกคลุมโลกมนุษย์


ผู้เล่นทุกคนภายในฉาก ยกเว้นเพียงกริดและครอเกล ล้วนถูกดีบัฟปริมาณมหาศาลเล่นงานจนต้องทรุดตัวลงไปนอนบนพื้นอย่างหมดสภาพ


ขณะดวงจันทร์ขุมนรกกำลังแทรกเข้ามาแทนที่ดวงอาทิตย์กึ่งกลางท้องฟ้า


“สยบขุมนรก”


แสงสว่างปรากฏขึ้นอีกหนึ่งจุด พร้อมกับการอวสานของขุมนรกแห่งซาลอสบนโลกมนุษย์


ไม่ใช่ใครนอกจากยูร่า ผู้ร่วมมือกับดาเมี่ยนและกองทัพรีเบคก้า จัดการ <มือของสตริโอ้> เสร็จเรียบร้อยและรีบมาสมทบ


“ “ไอ้พวกระยำ!” ”


ซาลอสที่ถูกต้อนให้จมมุม พยายามดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย แต่ทั้งหมดก็ไม่เป็นผล


มันกำลังจะตาย


ฉึก!


กริดแทงดาบทะลุหัวใจซาลอส


ท่ามกลางสายตาของมนุษย์จำนวนมาก จอมอสูรลำดับ 19 ผู้ยิ่งใหญ่ ซาลอส จบชีวิตลงโดยไม่มีที่ให้กลับ และดวงวิญญาณปนเปื้อนความพยาบาทได้ถูกชำระล้างโดยนักบุญหญิงอย่างสมบูรณ์


[ปราบจอมอสูรลำดับ 19 สำเร็จ!]


[วิญญาณของจอมอสูรลำดับ 19 ซาลอส ล้มเหลวในการคืนชีพและจากโลกนี้ไปตลอดกาล]


[ตำแหน่งจอมอสูรลำดับ 19 ว่างลงชั่วคราว]


[สมญานาม <ผู้ติดตามดวงประทีป…> ถูกมอบให้กับผู้เล่นทุกคนในเหตุการณ์ยกเว้น ‘กริด’]


[ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับรางวัลตามผลงาน]


[‘กริด’ ได้รับรางวัล MVP อันดับ 1]


[‘ครอเกล’ ได้รับรางวัล MVP อันดับ 1]


[‘คิรินัส’ ได้รับรางวัล MVP อันดับ 3]


[‘ยูร่า’ ได้รับรางวัล MVP อันดับ 4]


[‘ไนท์’ ได้รับรางวัล MVP อันดับ 5]




[★ นักบุญหญิง ‘รูบี้’ ได้รับรางวัลพิเศษเนื่องจากเป็นผู้ทำลายดวงวิญญาณจอมอสูร★]


[ผู้เล่นที่เหลือจะได้รับรางวัลแบบเดียวกัน]


“วู้ววว!!”


“สุดยอด!!”


เสียงโห่ร้องยินดีของเหล่าผู้เล่น กำลังคำรามสนั่นเสียดแทงขึ้นไปบนฟากฟ้า


ตราประทับของซาลอสที่ปลายแขนของทุกคนเริ่มเลือนหายไป


“ก็อดกริด!!”


“ก็อดครอเกล!!”


“ฮะฮ่าฮ่าฮ่า! พวกนายเจ๋งที่สุด!”


โดยไม่มีใครเป็นคนนำ ทุกคนต่างกรูเข้ามาสรรเสริญกริดและครอเกลโดยพร้อมเพรียง


ท่ามกลางวงล้อมแห่งความรื่นเริง ครอเกลและกริดชนกำปั้นทักทายกันตามมิตรภาพของลูกผู้ชาย


***


[มหากาพย์บทที่ 7 เสร็จสมบูรณ์]


[รางวัลตอบแทนจากมหากาพย์ ตัวตนของท่านถูกยกระดับอีกหนึ่งขั้น]


[ค่าความต้านทานต่อความเสียหายประเภททักษะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย]


[ค่าความต้านทานต่อความเสียหายประเภทอาวุธเพิ่มขึ้นเล็กน้อย]


[ทักษะแบบสุ่มมีโอกาสแสดงผลมากขึ้น แต่ไม่รวมถึงทักษะจากไอเท็ม]


[ได้รับฉายา <ดวงประทีปแห่งมวลมนุษย์>]


[บารมีเทพเพิ่มขึ้น 1 หน่วย]


<ดวงประทีปแห่งมวลมนุษย์>


* ค่าความอดทน +500 หน่วย


* จะเกิดเอฟเฟคพิเศษเมื่อท่านอยู่ในสนามรบเดียวกันกับเหล่า ‘ผู้ติดตามดวงประทีป’ ยิ่งมีจำนวนมาก เอฟเฟคก็ยิ่งมีระดับสูง


ในฐานะผู้มอบความสามัคคีและความกล้าหาญให้แก่เหล่ามนุษย์ ท่านคือความหวังของมนุษย์ทุกคน จึงไม่ควรล้มลงโดยง่าย


‘สุดยอด…’


สำหรับกริดซึ่งพำพันธสัญญากับออร์คลอร์ดเทรูชาน ค่าความอดทนของชายหนุ่มจะถูกคูณเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1.8 เท่า


ด้วยการตื่นของระบบค่าสถานะ ค่าความอดทน 1 หน่วยจะเท่ากับ พลังชีวิต 54 หน่วยและพลังป้องกัน 2.1 หน่วย


นอกจากนี้ สมญานาม <ดยุคแห่งคุณธรรม> ยังช่วยเพิ่มค่าความอดทนอีก 35% ส่งผลให้สมญานาม <ดวงประทีปแห่งมวลมนุษย์> คือก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ในการเอาตัวรอดของกริด


นอกจากนั้นยังมีค่าต้านทานทักษะและอาวุธ รวมไปถึงการเพิ่มโอกาสแสดงผลของทักษะประเภทสุ่มติด


อีกทั้งยังมีการยกระดับตัวตนเหนือมนุษย์ขึ้นจากเดิมอีกหนึ่งขั้น


ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดาเมจตายตัวของบีเลธจะถูกลดทอนศักยภาพลงจากเดิมมากเพียงใด


‘ตอนนี้คงเหลือประมาณ 55,000 หน่วย…’


ยังถือว่ามากอยู่ดี


อยู่ในระดับที่ดวลตามลำพังไม่ไหว


‘ไม่ทางเลือก ก่อนจะพบกับมันครั้งถัดไป เราต้องรีบสั่งสมระดับตัวตนเหนือมนุษย์ให้กลายเป็นค่าสูงสุดให้ได้’


แตกต่างจากความสิ้นหวังขณะเผชิญหน้ากับบีเลธหนแรก กริดในปัจจุบันเริ่มประเมินอีกฝ่ายให้อยู่ในขอบเขตที่มีโอกาสเอาชนะ


‘แต่เรายังต้องการเวลา’


มหากาพย์คือพลังที่ยิ่งใหญ่


สังเกตได้ว่า ทุกมหากายพ์จะยกระดับตัวตนเหนือมนุษย์ขึ้นไปอีกหนึ่งขั้นเสมอ เรื่องเร่งด่วนในปัจจุบันของกริดจึงเป็นการสร้างมหากาพย์และยกระดับตัวตนเหนือมนุษย์ให้ถึงขีดจำกัด


ชายหนุ่มมั่นใจ เหนือมนุษย์ต้องมีจุดสิ้นสุด


การมีอยู่ของระบบ ‘ตัวตนสัมบูรณ์’ คือเครื่องพิสูจน์ในเรื่องนั้น


และเนื่องจากเหนือมนุษย์มิได้มอบทักษะใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกยกระดับตัวตน กริดประเมินว่าการยกระดับไม่ใช่น่าจะเป็นเรื่องยากเกินไปนัก และตนคงไปถึงจุดสูงสุดได้ภายในปีหน้า


“พี่!”


รูบี้วิ่งเข้ามากอดกริดที่กำลังยืนใคร่ครวญ


เธอเป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับพี่ชายผู้รับหน้าที่ถ่วงเวลาจอมอสูรลำดับ 13 ตามลำพัง เมื่อได้เห็นอีกฝ่ายยังคงสบายดี ดวงตาของหญิงสาวเริ่มแดงก่ำโดยไม่รู้ตัว


“หนูเป็นห่วง…”


กริดลูบศีรษะน้องสาวอย่างอ่อนโยน พลางหันหน้าไปหาครอเกล


ประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์ยังคงจำแนกครอเกลให้เป็น <บุคคลแข็งแกร่งแห่งยุคสมัย>


เลเวลน่าจะยังแค่ 350… แต่กลับแข็งแกร่งอย่างเหนือความคาดหมาย…


‘ในอนาคตอันใกล้ เขาต้องกลายเป็นเหนือมนุษย์ทรงพลังแห่งยุคสมัยได้แน่’


ขณะมาถึงสนามรบและมองเห็นฉากการต่อสู้ระหว่างครอเกลกับซาลอส กริดรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก


หากตนมีเลเวลเท่าครอเกล จะสามารถดวลกับจอมอสูรลำดับ 19 อย่างสูสีได้แบบนั้นไหม?


คำตอบคือไม่


“พวกเราชนะได้เพราะนาย”


“…เพราะนายต่างหาก”


ครอเกลแย้งกริดพลางยิ้มขื่นขม


ความจริงแล้ว เพื่อจะรีดเร้นประสิทธิภาพของพลัง <บทกวีสรรเสริญดาบ> ออกมาให้มากที่สุด ทักษะช่างตีเหล็กของกริดคือสิ่งจำเป็น แต่ในท้ายที่สุด ครอเกลก็ไม่เคยเอ่ยปากขอร้อง


เพราะมันมิใช่สมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์


ในฐานะคู่แข่ง ตนมิอาจปฏิบัติต่ออีกฝ่ายราวกับเป็นเพื่อนสนิทไปได้ทุกเรื่อง และในใจลึก ๆ ก็มิได้ต้องการเช่นนั้น


ลำพังดาบเสือขาวเล่มเดียว ก็ถือเป็นบุญคุณที่อาจชดใช้ไม่หมดไปชั่วชีวิต


“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อน โชคดี”


ครอเกลกล่าวอำลาด้วยคำห้วน หันหลังกลับ


กริดตะโกนเรียก


“จะไม่ถามสารทุกข์สุกดิบกันหน่อยหรือ”


“ฉันอ่านข่าวของนายจนเบื่อแล้ว”


“…แม่ยังสบายดีไหม”


“สบายดี ขอบคุณมาก”


ใกล้ถึงมื้ออาหารแล้ว


ต้องรีบล็อกเอาต์ก่อนที่แม่จะเดินเข้าครัว…


ขณะครอเกลเตรียมตัดขาดการเชื่อมต่อ มันชะงักความตั้งใจเนื่องจากฉุกคิดถึงบางสิ่ง


“นายควรระวังแอ็กนัสเอาไว้ ผู้สร้างแหวนตกไปอยู่ในมือของมันแล้ว”


“…?”


ครอเกลชี้ไปยัง ‘แหวนแห่งความไร้เหตุผล’ ท่ามกลางแหวนอีกหลายวงบนนิ้วมือกริด


ข่าวดังกล่าวทำให้กริดสับสนไม่น้อย เนื่องจากมันเข้าใจมาตลอดว่า พอลด์ ผู้สร้างแหวน เสียชีวิตไปตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อน


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,651

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ได้อ่านแล้วมันชุ่มฉ่ำหัวใจ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณสำหรับงานแปลนะครับ
    ยังคิดถึงและรออ่านเสมอนะครับ

    ReplyDelete
  3. สงสารเฮลล่าที่สุด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00