จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,269
ยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญามากเพียงใด ก็ยิ่งไม่พอใจกรงเหล็กที่กักขังอิสระมากเท่านั้น
กริดพอจะเดาได้ว่า เหตุใด ‘ขาดน้ำ’ ถึงตัดสินใจสถาปนาตัวเองเป็น ‘ราชาแห่งมาร’ ของหอหมื่นมาร
‘มันคงปรารถนาอิสระ…’
ชุดเกราะทำลายล้าง เกาะกางเกงผู้เย่อหยิ่ง ถุงมือควอโทร รองเท้ายมทูต แหวนโพรงเนตร สร้อยคอจันทรา ต่างหูซีเปีย ลูกแก้วกระดูกกัลกุนอส และความอัปยศแห่งทาลิม่า
กริดนำไอเท็มติดตัวออกมมาจากหอหมื่นมารทั้งสิ้น 9 ชิ้น
นอกเหนือจาก ‘ขาดน้ำ’ ที่มีเกรดมิธ ไอเท็มชิ้นอื่นล้วนอยู่ในเกรดเลเจนดารี (ประเภทเติบโตที่มีเกรดเริ่มต้นต่ำ แต่ถูกพัฒนาจนกลายเป็นเลเจนดารี) หรือไม่ก็เกรด ‘ลับ’ แต่ทุกชิ้นล้วนมาพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังเสมอ
ชุดเกราะทำลายล้างจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นโลงศพของผู้สวม ด้วยการก็ค่อย ๆ ทำลายร่างกายไปทีละนิดโดยมิอาจถอดออก
ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ผลงานชิ้นนี้เกิดจากความเคียดแค้นของคนแคระช่างฝีมือซึ่งบุตรสาวของเขาถูกองค์ชายแห่งจักรวรรดิซาฮารันพาตัวไปทำเป็นของเล่น ผู้เป็นบิดาจึงวางแผนส่งชุดเกราะตัวนี้ไปเป็นของขวัญ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความฉิบหายแก่องค์ชาย แต่น่าเสียดายที่แผนการต้องล้มเหลวกลางคัน
ชุดเกราะอันเกิดจากความเคียดแค้นเข้มข้นและจิตสังหารอันแรงกล้าที่ต้องการฆ่าให้ตาย
คิดว่าจักรวรรดิซาฮารันโง่พอจะรับของแบบนี้เป็นบรรณาการให้องค์ชายจริงหรือ?
เมื่อคนแคระช่างฝีมือมิอาจส่งชุดเกราะไปยังจักรวรรดิได้ตามความตั้งใจ จึงทำได้เพียงผนึกมันไว้ในหอหมื่นมารทั้งน้ำตา
สร้อยคอจันทรา ไอเท็มที่จะดูดซับแสงจันทร์จนผู้สวมเย็นยะเยือกไปถึงเลือดและกระดูก
เป็นผลงานของช่างฝีมือคนแคระสตรีผู้สูญเสียสามีและต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยวนานนับร้อยปี เนื่องจากเป็นโรคนอนไม่หลับเพราะความโหยหา เธอมักตื่นขึ้นกลางดึกเพื่อสร้างสร้อยคอเส้นนี้ แต่ขณะเดียวกัน ส่วนลึกของจิตใจกลับแอบปรารถนาให้ผู้สวมใส่ต้องโดดเดี่ยวเหมือนกับตน ส่งผลให้อีโก้มารถือกำเนิดโดยไม่ได้ตั้งใจ
สร้อยคอจันทรามีรูปลักษณ์ภายนอกงดงามเหนือคำบรรยาย งามเลิศจนใครต่อใครหลงใหลอย่างมิอาจหักห้าม
ย้อนกลับไปในช่วงก่อนที่มังกรเพลิงทราวก้าจะย้ายมาทำรังข้างทาลิม่า
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อพ่อค้าชื่อดังคนหนึ่งเดินทางมาทำธรุกิจตามปรกติ มันหลงใหลสร้อยคอเส้นนี้ตั้งแต่แรกพบ จึงซื้อไปให้ภรรยาสวม แต่กลับต้องได้เห็นคนรักของตนแข็งตายไปต่อหน้าต่อตา
ความน่ากลัวของสร้อยคอจันทราก็คือ มันมิได้ทำให้ผิวกายรู้สึกหนาว แต่จะแช่แข็งไปถึงเลือดและกระดูก
ช่างฝีมือสตรีคนดังกล่าวทำเพียงยืนจ้องพ่อค้าที่สูญเสียคนรักด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงของเมือง หญิงสาวถูกทางการทาลิม่านำไปประหารชีวิตหลังจากนั้นทันที ส่วนสร้อยคอก็ถูกนำไปผนึกในหอหมื่นมาร
นอกจากนี้ยังมี เกราะกางเกงผู้เย่อหยิ่งที่พันธนาการผู้สวมในสถานการณ์คับขัน ส่งผลให้ต้องเสียชีวิตอย่างน่าสมเพช ถุงมือควอโทรที่ตัดนิ้วทั้งสิบของผู้สวมออกเป็นสี่ท่อนอย่างสยดสยอง รองเท้ายมทูตที่จะนำพาผู้สวมไปยังสถานที่แห่งความตายโดยมิอาจสิทธิ์ขัดขืน แหวนโพรงเนตรที่เหมือนกับเป็นช่องเก็บของลับ (ในมุมมองของกริด) ต่างหูซีเปียที่เอาแต่กระซิบซาบเล่าถึงโศกนาฎกรรมอันหดหู่
ทุกชิ้นล้วนอธิบายอย่างไว้ชัดเจนว่า อีโก้ภายในไอเท็มเกิดความชั่วร้ายได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของลูกแก้วกระดูกกัลกุนอสค่อนข้างแปลกประหลาดกว่าชิ้นอื่น คำอธิบายเขียนไว้เพียง ‘ไม่ปรากฏข้อมูล’ มันถูกสันนิษฐานว่าสิ่งนี้อาจมิได้สร้างขึ้นในทาลิม่า แต่เป็นไอเท็มที่บุคคลภายนอกนำเข้ามา
ถึงตรงนี้จะพบว่า ไอเท็มทั้งหมดข้างต้นจะมีจุดหนึ่งที่แตกต่างจากความอัปยศแห่งทาลิม่าโดยสิ้นเชิง
นั่นก็คือ คำอธิบายของ ‘ขาดน้ำ’ ทั้งเรียบง่ายและปราศจากความชั่วร้าย ไม่มีการเขียนถึงสาเหตุที่มันกลายเป็นอีโก้มาร
จากคำบอกเล่าของคนแคระ อยู่มาวันหนึ่ง ความอัปยศแห่งทาลิม่าได้อาละวาดอย่างบ้าคลั่งและไร้เหตุผล จากอีโก้ปรกติกลายเป็นอีโก้มาร จนต้องถูกผนึกในหอหมื่นมารและกลายเป็นราชาแห่งมารเฉกเช่นปัจจุบัน
<ความอัปยศแห่งทาลิม่า>
เกรด : มิธ
ความคงทน : 3,600/3,600 (ซ่อมแซมตัวเองได้)
* ความอัปยศแห่งทาลิม่าปฏิเสธการสัมผัสทุกรูปแบบจากมนุษย์ ระบบซ่อมแซมจึงไม่เปิดใช้งาน
พลังป้องกัน : 1 ~ 2,750
* ความอัปยศแห่งทาลิม่าสามารถปรับเปลี่ยนค่าพลังป้องกันได้ตามใจชอบ กรุณาใช้งานอย่างระมัดระวัง
★ ต้านทานธาตุไฟโดยสมบูรณ์
* ความอัปยศแห่งทาลิม่าถูกแช่ในลาวาร้อนที่สุดของโลกโดยไม่เป็นสึกกร่อนมานานหลายร้อยปี ความร้อนทุกชนิดมิอาจทำลายผิวของมันได้ แต่นั่นจะมีผลกับไอเท็มเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับผู้สวมใส่ กรุณาอย่างได้เข้าใจผิด
★ อีโก้ไอเท็ม
มันมิได้เคลือบแคลงเลยว่า ตนคือราชาแห่งยุทธภัณฑ์ ดำรงอยู่เหนือไอเท็มทุกชนิดบนโลก
* ได้รับทักษะ <ราชาลบล้าง> Lv.1
สามารถสะกดไอเท็มทุกชนิดที่ปราศจากอีโก้
อุปกรณ์สวมใส่ทุกชิ้นที่ปราศจากอีโก้ภายในรัศมี 10 เมตรจะถูกบังคับปลดออก สามารถปลดอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 30 ชิ้น
ทรัพยากร : ไม่มี
ระยะเวลาแสดงผล : 3 วินาที
ระยะหน่วง : 7 นาที
* ได้รับทักษะ <ประกาศิตแห่งราชา> Lv.1
ใช้เพื่อควบคุมไอเท็มอีโก้
ค้นหาอีโก้ภายในระยะ 100 เมตรและออกคำสั่งที่ต้องทำตามโดยมิอาจขัดขืน แต่ผู้ออกคำสั่งคือความผิดพลาดแห่งทาลิม่า มิใช่ผู้สวม
ทรัพยากร : ไม่มี
ระยะเวลาแสดงผล : ขึ้นอยู่กับเกรดและอุปนิสัยของอีโก้เป้าหมาย
ระยะหน่วง : ไม่มี
* ได้รับทักษะ <ราชาปกครอง> LV. MAX
ครอบงำจิตใจผู้สวมและยึดครองร่าง
ขณะอยู่ในผลของบัฟ ‘ราชาปกครอง’ พลังโจมตีและความเร็วทุกชนิดของผู้สวมจะเพิ่มขึ้น 20% ต้านทานการโจมตีประเภทคริติคอลและจุดอ่อนทุกรูปแบบ แต่ผู้สวมจะต้องตายเมื่อผลของบัฟหมดลง
ทรัพยากร : ไม่มี
ผลของทักษะ : จนกว่าผู้สวมจะตาย
ระยะหน่วง : 24 ชั่วโมง
เป็นหมวกเหล็กที่ถือกำเนิดจากการสั่งสมประสบการณ์และเทคนิคของราชวงศ์คนแคระตลอด 5 ชั่วอายุคน ไม่เกินจริงไปนักหากจะกล่าวว่า มันคือสิ่งที่รวบรวมสุดยอดเทคนิคของช่างตีเหล็กทาลิม่าไว้อย่างเต็มเปี่ยม
เมื่อรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สิ่งนี้จะมีเกรดเลเจนดารีนับตั้งแต่ถือกำเนิด และพัฒนากลายเป็นเกรดมิธหลังจากเข้าไปอยู่ในหอหมื่นมาร
บุคคลชั่วร้ายบางกลุ่มเทิดทูนความอัปยศแห่งทาลิม่าดุจดังทวยเทพ
เงื่อนไขการสวมใส่ : ไม่มี
น้ำหนัก : 230
‘คงอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองสินะ’
อีโก้ซึ่งมีสติปัญญาสูงอย่าง ‘ขาดน้ำ’ ย่อมไม่ต้องการอยู่ใต้อาณัติใคร และสาเหตุที่ถูกผนึกในหอหมื่นมารก็คงเพราะพยายามอาละวาดเพื่อให้ตัวเองได้รับอิสระ
อย่างไรก็ตาม กริดผู้กำลังคาดเดาสาเหตุ มิได้แสดงความเห็นอกเห็นใจ ‘ขาดน้ำ’ สักเท่าไร
เพราะ ‘สิ่งของ’ เกิดมาเพื่อ ‘ถูกใช้งาน’
กริดหมายมั่นจะทำให้ ‘ขาดน้ำ’ ได้ตระหนักอย่างถ่องแท้ว่า การที่สิ่งของถูกนำไปใช้งาน คือเกียรติยศสูงสุดเท่าที่ไอเท็มชิ้นหนึ่งจะได้รับแล้ว
‘ฉันจะสั่งสอนแกเอง’
ขณะชายหนุ่มกำลังมีสมาธิอยู่กับความอัปยศแห่งทาลิม่าในช่องสัมภาระ อันทริโน่ยังคงอธิบายต่อไปตลอดทาง
“ถนนตรงหน้าเกิดจากฝีมือภูติเทียม”
ถนนสำหรับเดินทางขึ้นไปยังภูเขาไฟซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 5,000 เมตร
พื้นถนนราบเรียบ มีกำแพงหินรายล้อมสองฝั่งซ้ายขวา โดยแนวถนนจะค่อย ๆ ลาดขึ้นไปยังด้านบนทีละนิดในลักษณะวนเป็นเกลียวรอบฐานภูเขาไฟ
ปลายถนนทอดยาวไปถึงจุดสูงสุดของภูเขาไฟซึ่งสูงถึง 5 กิโลเมตร
สิ่งนี้ถูกเรียกว่าถนนได้อย่างเต็มปาก เพราะรถม้าสามารถแล่นผ่านไปได้โดยปราศจากอุปสรรค
“ภูติเทียม… สินะ”
งานทางด้านวิศวกรรมโยธาต้องใช้แรงงานที่มีเทคนิคและฝีมือสูงมาก โดยเฉพาะจุดที่ภูมิประเทศซับซ้อน กริดตระหนักถึงความยากในการก่อสร้างถนนหนทางเป็นอย่างดี
หลังจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก่อตั้งมาหลายปี ลอเอลได้วางโปรเจกต์สร้างถนนหลายเส้น และเป็นหน้าที่กริดต้องคอยอนุมัติโครงการด้วยตัวเองทุกครั้ง ส่งผลให้มันค่อย ๆ ซึบซับความรู้มาทีละนิด
“ถ้าคุณไม่บอก ผมคงคิดว่าทาลิม่าใช้แรงงานทาสจำนวนมากในการก่อสร้าง”
ด้วยเป้าหมายสูงสุดเป็นการสร้างถนนหลวงเชื่อมติดกับหัวเมืองใหญ่ทุกแห่ง โปรเจกต์ของลอเอลจึงมีการใช้แรงงานชาวบ้านอย่างหนัก แม้จะจ่ายค่าตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อทุกครั้ง แต่ก็หลีกเลี่ยงเสียงวิพากวิจารณ์จากคนงานไม่ได้
หรือก็คือ การสร้างถนนเรียบวนเป็นเกลียวรอบภูเขาไฟโดยมีกำแพงหินล้อมรอบ ไม่มีทางสำเร็จได้ด้วยแรงงานฝีมือดาษดื่นแน่นอน
หากไม่ทราบมาก่อน กริดคงเชื่อว่ามีแรงงานเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเนื่องจากต้องขึ้นไปเสี่ยงชีวิตในพื้นที่สูง
แต่ปัญหาทั้งหมดกลับถูกแก้ไขอย่างง่ายดายด้วยภูติเทียม…
ชายหนุ่มเริ่มตื่นเต้นกับความยอดเยี่ยมของภูติเทียม พลางคิดคำนวณบางสิ่งในหัว
‘แผนกวิจัยทาลิม่าสามารถผลิตภูติเทียมได้ปีละ 50 ตน รวมกับภูติเทียมอีก 52 ตนที่เราแลกมาด้วยหัตถ์เทวะ 10 ข้าง… แค่ตีเหล็กอีกสักสองสามเดือนก็น่าจะได้ปริมาณที่ต้องการแล้ว’
ด้วยองค์ประกอบหลายด้าน ชาวทาลิม่าจึงให้ความสำคัญกับหัตถ์เทวะมากกว่าฟืนฟอสฟอรัสขาวเล็กน้อย
นอกจากเหตุผลที่ว่า หัตถ์เทวะสร้างเลียนแบบฝ่ามือของช่างตีเหล็กที่เทพเฮ็กเซเทียให้การยอมรับแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งสำคัญก็ที่ทำให้ชาวทาลิม่าปรารถนาหัตถ์เทวะก็คือ มันถูกสร้างจากสุดยอดโลหะนามว่าละโมบ
ถูกต้อง
ละโมบคือโลหะที่แม้แต่เฮ็กเซเทียก็ยังชื่นชม ถือเป็นพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดจากโลหะพาเฟรเนี่ยม
ยอดเยี่ยมจนถูกประเมินว่าเป็นโลหะที่ดีที่สุดของโลกในปัจจุบัน
ถึงจะมีเพียงกริดที่ถลุงมันได้ แต่คนแคระก็หาได้แยแส เพราะจุดประสงค์ของทุกคนคือการซื้อไปเก็บเป็นสมบัติ
กริด ผู้กำลังพิจารณาว่าตนควรหมกตัวอยู่ในทาลิม่าสักพักเพื่อผลิตหัตถ์เทวะจนได้อีโก้ครบตามจำนวนต้องการดีหรือไม่ หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียด มันส่ายหน้าพลางสลัดความคิดดังกล่าวทิ้ง เนื่องจากตระหนักว่าลำพังหัตถ์เทวะอีโก้หนึ่งข้างก็เพียงพอแล้วในปัจจุบัน
‘ไม่ดีกว่า… คนแคระมิได้ร่ำรวยขนาดนั้น’
การสร้างภูติเทียมมิใช่เรื่องง่าย
ตลอดอายุขัยของคนแคระหนึ่งคน พวกเขาสามารถสร้าภูติเทียมได้ราว 4 ถึง 6 ตน ดังนั้น ถึงจะต้องการซื้อหัตถ์เทวะสักเทียงใด แต่ก็คงมีภูติเทียมมาแลกในจำนวนจำกัด
ความสัมพันธ์กับคนแคระควรเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่รีบร้อน
‘อีกทั้ง ไม่ว่าจะเคยมีมูลค่าสูงแค่ไหน แต่ถ้าปล่อยลงตลาดรวดเดียวจำนวนมาก คุณค่าของสินค้าก็จะลดลงทันที’
เราไม่ควรรีบกอบโกยด้วยวิธีขาดศีลธรรมอย่างการผลิตฝ่ามือไร้ประโยชน์ขาย…
ขณะกริดกำลังถอดใจ โดยยอมแลกเปลี่ยนภูติเทียมกับแผนกวิจัยทาลิม่าเพียงช่องทางเดียว
มันชะงักฝีเท้ากะทันหัน
ณ ถนนกึ่งกลางภูเขา
ทางเข้าเหมืองแร่ที่ปกคลุมด้วยความมืดสนิท กำลังรอให้ชายหนุ่มเข้าไปสำรวจ
“พวกเรามาถึงแล้ว นี่คือเหมืองเอลีต”
เพชรอีเธอร์
แร่ที่สามารถดูดซับแสงและเวทมนตร์
แว่นตาที่สร้างจากเพชรอีเธอร์มีสรรพคุณกักกันพลังเนตรมาร ช่วยให้ราชาเนตรมารไม่ต้องตาบอดไปตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม ความทนทานของแว่นมิได้อนันต์ ย่อมต้องมีวันหมด
พลังเนตรของราชาเนตรมารรุนแรงจนค่าความคงทนลดลงเร็วกว่าที่กริดคาดไว้
ชายหนุ่มต้องการเพชรอีเธอร์เพื่อผลิตแว่นตาให้ราชาเนตรมารอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังต้องการเพื่อผลิตชุดเกราะเซ็ตใหม่ให้ตัวเอง เป็นเซ็ตสำหรับต่อต้านเวทมนตร์โดยเฉพาะ
แผนดังกล่าวเคยถูกนำมาพิจารณาเมื่อราวสองปีก่อน
แต่ก็ต้องพับเก็บไปเนื่องจากติดปัญหาด้านมังกรเพลิงทราวก้าและฝ่ามือของจอมอสูรลำดับ 12
“ก้าวระวังด้วย ข้างในมืดมาก”
กริดมิได้ถามโง่ ๆ ออกไปว่า เหตุใดเหมืองแห่งนี้ถึงไม่มีการติดตั้งโคมไฟด้านใน
เพชรอีเธอร์คือแร่ที่ดูดซับแสง
การติดตั้งโคมไฟย่อมไร้ความหมาย
และเป็นเหตุผลว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงถูกความมืดมิดปกคลุมจนมีเพียงสีดำสนิท
‘ไม่เลว… สภาพดีกว่าที่คิดไว้’
มุมปากของกริด ผู้กำลังเดินตามหลังอันทริโน่พลางใช้มือข้างหนึ่งจับกำแพง ค่อย ๆ ยกขึ้นทีละนิดอย่างพึงพอใจ
เหมืองเพชรอีเธอร์แห่งเดียวในโลก
มันเคยคิดว่า คนแคระคงขุดเพชรอีเธอร์ไปใช้งานจนร่อยหรอเกือบหมดแล้ว แต่กลับต้องผิดคาดเมื่อพบว่ายังมีเพชรอีเธอร์เหลืออยู่อีกมาก
คล้ายกับอ่านความคิดกริดออก อันทริโน่เริ่มอธิบายสถานการณ์
“เจ้าคงทราบดีอยู่แล้ว การถลุงเพชรอีเธอร์ถือเป็นงานที่ยุ่งยาก หลังจากเตาหลอมหลวงสูญเสียความร้อน พวกเราตัดสินใจยกเลิกการนำเพชรอีเธอร์มาใช้ประโยชน์”
“อย่างนี้นี่เอง”
แม้แต่กริดก็มิอาจถลุงได้หากปราศจากฟืนฟอสฟอรัสขาวช่วยเร่งอุณหภูมิ
ตรงตามที่อันทริโน่พูด เพชรอีเธอร์คือแร่ที่จัดการได้ยุ่งยากมาก
“แต่ในไม่ช้าก็เร็ว เตาหลอมจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งเพราะฟืนของผม และเหมืองแห่งนี้ก็จะกลับมาเปิดเช่นกัน”
“ก็จริงอยู่ที่เจ้าสัญญาว่าจะส่งมอบฟืนฟอสฟอรัสขาวให้อย่างต่อเนื่อง แต่พูดตามตรง ข้าไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าการแลกเปลี่ยนจะราบรื่น มังกรทราวก้าอาจกลับมาที่รังในวันพรุ่งนี้ และเหนือสิ่งอื่นใด กำลังการผลิตเพชรอีเธอร์ของพวกเราก็ไม่สูงนัก”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องการแลกเปลี่ยน ขอเพียงทาลิม่าปลดข่ายเวทมนตร์ห้ามเทเลพอร์ต ทางเราสามารถเคลื่อนย้ายมิติมาหาได้ทันที”
“เจ้าคิดว่าทราวก้าโง่เขลานักหรือ ทันทีที่พวกเจ้าพยายามเทเลพอร์ต มังกรเพลิงจะกางข่ายเวทมนตร์ดักและจับทุกคนกินเป็นอาหาร”
‘ไม่ใช่ว่าบราฮัมใช้เทเลพอร์ตหนีออกมาสำเร็จหรอกหรือ… อึ่ก!’
คงเป็นเรื่องยากที่จะประเมินความต่างชั้นระหว่างอดีตตำนานสุดแกร่งกับมังกรที่บาดเจ็บ
กริด ผู้กำลังครุ่นคิดในหัว พลันทรุดลงกับพื้นเหมืองโดยมิอาจควบคุมร่างกาย
ณ สุดปลายทางของเหมือง
ท่ามกลางความมืดสนิท ดวงตาสีแดงสดกำลังจ้องมองชายหนุ่มผ่านรอยแยก
ขนาดของดวงตาใหญ่โตราวกับกระทิง
กริดเกิดความหวาดผวาจากก้นบึ้ง มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากอาการผิดปรกติของระบบ
______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,674
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ขอบคุณครับ มันส์มากๆ
ReplyDelete