จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,584



โนลล์


นอกเหนือจากแมรีโรสและบราฮัม มันคือแวมไพร์ทายาทตนเดียวที่ยังหลงเหลือ


กริดไม่ได้ลงมือฆ่า


อาจด้วยหลากหลายเหตุผล แต่หลักๆ แล้วมาจากการที่โนลล์แข็งแกร่งเกินไป เต็มไปด้วยทักษะและเวทมนตร์ในการเอาตัวรอด รวมถึงพลังในการสนับสนุนพวกพ้องที่ยอดเยี่ยม


โนลล์ไม่ได้อยู่ในหน่วยสำรวจนรก เพียงเพราะต้องทำหน้าที่เจ้าเมืองแวมไพร์ มิใช่ว่าคุณสมบัติบกพร่อง


“เร็วเข้า!!”


เกือบทั้งชีวิต โนลล์เอาแต่นอนในโลง


แต่สามัญสำนึกของมันยังคงเหมือนคนทั่วไป


หลังจากกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์โอเวอร์เกียร์ โนลล์ได้สั่งสมความรู้และประสบการณ์มากมาย


มังกร


โนลล์ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ตรงหน้าได้เป็นอย่างดี และเกิดความกลัวจากขั้วหัวใจเมื่อรู้ว่าตนไม่มีทางเอาชนะได้


แต่อย่างไรก็ดี มันไม่ได้หนี


ยังคงปักหลักในฐานะผู้นำ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนมีเวลาหลบหนี


คุณสมบัติ ‘เมตตา’ ที่สืบสอดจากมารดา เบริอาเช่ ทำให้โนลล์มองเห็นความอยู่รอดของผู้อื่นเป็นอันดับแรก


ยิ่งสถานการณ์วิกฤติเพียงใด โนลล์ยิ่งเยือกเย็นและเมตตา


ทำไมกัน


ทำไมท่านแม่ถึงต้องสร้างให้เรารักผู้อื่น?


ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและพวกพ้องที่มันเคยเห็นในช่วงชีวิตอันยากลำบาก ไม่เคยมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น


ริษยา เคียดแค้น เดือดดาล


สายเลือดที่อยู่ภายใต้คำสาปเกียจคร้าน มีแต่พวกเสียสติ


ต่างคนต่างเมินเฉยกัน หรือไม่ก็ทำร้ายกันเองได้ง่ายดาย


ชีวิตของโนลล์ซึ่งเป็นคนเดียวที่มีความรู้สึก ‘รัก’ ย่อมเจ็บปวดเป็นพิเศษ


มันรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด


ด้วยความสัตย์จริง โนลล์โกรธมารดาของตนมาก


แต่ในวินาทีนี้


‘ถึงเวลาตอบแทนบุญคุณแล้ว’


โนลล์รู้สึกขอบคุณมารดาจากก้นบึ้งหัวใจ


ต้องขอบคุณ ‘หัวใจ’ เช่นนี้ที่ทำให้ตนได้พบกริด เป็นที่ชื่นชอบของกริด และได้พบผู้คนใหม่ๆ อย่างไร้สิ้นสุด


มันตระหนักแล้วว่า ตนไม่ใช่ตัวประหลาด


ประสบการณ์ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยน ‘ความรู้สึกด้านบวก’ ไม่ใช่ ‘ความรู้สึกด้านลบ’ มีค่ายิ่งกว่าเลือด


หัวใจของมันเปี่ยมไปด้วยความสุขและปีติ


ในที่สุดโนลล์ก็สัมผัสถึงความรักจากมารดา


มันพบว่า มารดาของตนมอบหัวใจเช่นนี้ให้ด้วยความรัก


ถูกต้อง บัดนี้ถึงเวลาตอบแทนบุญคุณแล้ว


ตอบแทนกริดที่ให้โอกาสตน และมารดาที่มอบหัวใจแสนเมตตา


ถึงคราวที่มันต้องช่วยเหลือผู้ที่มอบความสุขให้


ซู่ว—


สิ่งที่มังกรซึ่งบุกรุกเรย์ดันโดยไม่บอกกล่าวกระทำ มีเพียงการปลดปล่อยพลังเวท


แต่ร่างกายของโนลล์และแวมไพร์ล้วนแหลกสลาย


เสียงแหกปากดังระงม


ผู้คนต่างพากันกรีดร้อง


ไม่มีใครไม่สะทกสะท้าน กับความสูญเสียของผู้ที่เสียสละเปิดทางให้ตนหนี


“น…โนลล์!!”


โผละ! โผละ! โผละ!


ถ้อยคำที่แปลกอย่างยากลำบากด้วยปากที่ฉีกขาด เสร็จสมบูรณ์และกลายเป็นเวทมนตร์


เวทที่ใช้เลือดเป็นสื่อกลาง


เลือดเนื้อที่กระจัดกระจาย เริ่มดึงดูดเข้าหากันและก่อตัวขึ้นใหม่ด้วยความเร็วสูง


กองทัพแวมไพร์ที่เคยถูกทำลาย คืนชีพกลับมาในพริบตา


“อย่าหันมา!! รีบวิ่งสุดชีวิต!!”


โนลล์เร่งเร้าให้ผู้อื่นหนีรอดจากความตาย


วงแหวนที่เรียงรายอยู่สองฝั่งซ้ายขวาของปราสาทเรย์ดัน


เมื่อถ่ายพลังเวทเข้าไปในสิ่งก่อสร้างยักษ์ที่ดูเหมือนอาคารหรือสัญลักษณ์ชนิดนี้ มันจะทำตามเจตจำนงของเจ้าเมืองเรย์ดัน


“โนลล์… บ้าจริง! ทุกคนมาทางนี้!!”


หลังจากคริสและเซ็ดนอส การิสซ่ากลายเป็นเจ้าเมืองเรย์ดันคนถัดมา


ขณะกำลังนำผู้คนอพยพเข้าไปในปราสาท เธอหันไปมองยังทิศทางหนึ่ง


วาร์ปเกต


ปลายทางของสายตาคือวงแหวนที่โนลล์ถ่ายพลังเวทเข้าไปขับเคลื่อน


[ท่านใช้งานทักษะ <เคลื่อนพล>]


[ท่านใช้งานทักษะ <ฮึกเหิม>]


การิสซ่าสังกัดกิลด์โอเวอร์เกียร์หนึ่ง


เธอคือหนึ่งในอัจฉริยะมาตั้งแต่กิลด์เซดากาห์ยุคบุกเบิก ลงทุนย้ายคลาสมาเป็น ‘ผู้บัญชาการ’ ตามความต้องการของกิลด์โอเวอร์เกียร์


การบัญชาการสงครามของเธอทั้งเร็วและมีประสิทธิภาพ


ชาวเมืองที่สั่นกลัวจนก้าวไม่ออก ถูกคลายสถานะดังกล่าวอย่างทันท่วงที


‘การเสียสละของโนลล์ต้องไม่สูญเปล่า’


วาร์เกตมีเงื่อนไขการเปิดใช้งานยุ่งยาก เพื่อแลกมากับพลังที่สะดวกสบาย


จำเป็นต้องใช้มานาปริมาณมหาศาล


จอมเวทนับร้อยต้องเค้นมานาจนแห้งเหือดเพียงเพื่อเปิดใช้งานวาร์ปเกต


แทบไม่มีทางที่โนลล์ซึ่งเพิ่งเปิดวาร์ปเกตสี่ตัวพร้อมกัน จะยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์


ต่อให้เป็นถึงแวมไพร์ทายาทและเจ้าเมืองแวมไพร์ก็ไม่มีทาง


มานาของโนลล์ไม่ได้ไร้ขีดจำกัด


ในเวลาเดียวกัน เซนอนเริ่มสนใจการดำเนินไปของสถานการณ์


‘โลกเปลี่ยนไปมากทีเดียว’


แวมไพร์และมนุษย์มีความสัมพันธ์ฉันผู้ล่าและอาหาร


การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถือว่าผิดหลักของระบบนิเวศน์อย่างร้ายแรง


ทิศทางที่อารยธรรมมนุษย์พัฒนาไป ก็เป็นสิ่งที่มันคาดไม่ถึงเช่นกัน


พวกมันสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทำลายระบบนิเวศน์


เห็นได้ชัดว่ามนุษย์เลือกเส้นทางที่ยากลำบาก


เซนอนสัมผัสได้ถึงพลัง


มีโอกาสเป็นไปได้มาก ที่สติปัญญาของมนุษย์จะพัฒนาไปถึงระดับที่เกินกว่าความคาดหมายของตน


หรืออาจเดาได้ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเอลฟ์


‘บิดาของเราสมควรตายอย่างนั้นหรือ?’


ยุคสมัยที่มนุษย์ในปัจจุบันมองว่าเป็น ‘โบราณกาล’


วาร์ปเกตที่เซนอนเคยเห็นในยุคสมัยค่อนข้างเก่า ทำให้มันไม่กล้าลงมือส่งเดชอย่างประมาท


วาร์ปเกตคือสัญลักษณ์ของคนยักษ์


และเหตุผลที่เผ่าคนยักษ์ถูกทำลาย ก็เพราะพวกมันเป็นภัยคุกคามต่อบรรดา ‘สิ่งมีชีวิตก้าวข้าม’


ไม่ผิดจากที่คาด


ครืน! ครืน! ครืน!


พื้นบริเวณฐานของวาร์ปเกตถูกเปิดออก เผยให้เห็นอาวุธจำนวนมาก


ในทางสามัญสำนึก เซนอนกังวลว่าอาวุธที่โผล่ออกมาจะเหมือนกับเครื่องยิง ‘บีม’ ของคนยักษ์ แต่โชคดีที่เป็นเพียงปืนใหญ่พลังดินปืน


แต่ปากกระบอกปืนใหญ่ล้วนหันเหด้วยความเร็วที่เหนือความคาดหมาย


> …!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ปืนใหญ่หลายสิบกระบอกถูกยิงออกมาโดยพร้อมเพรียง ดวงตาเซนอนพลันเบิกกว้าง ดูราวกับพระจันทร์เสี้ยวสองดวงบนผืนนภาสีเทากลายเป็นพระจันทร์เต็มดวง


มันค่อนข้างทึ่งกับพลังทำลายของปืนใหญ่โอเวอร์เกียร์


ยากที่จะให้เชื่อว่า ด้วยโครงสร้างแสนธรรมดาของปืนใหญ่ จะสร้างพลังทำลายได้ถึงระดับนี้


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


แต่ผิดไปจากความทึ่งของเซนอน กระสุนปืนใหญ่หลายสิบนัดที่ยิงออกมา ไม่มีนัดใดปะทะเข้ากับร่างกายของมันเลย


เนื่องจากกระสุนปืนใหญ่ทั้งหมดถูกกีดขวางไว้โดยบาเรียเวทมนตร์โปร่งใสรอบตัว


ลักษณะคล้ายกับการพุ่งชนกระจกล่องหนจนระเบิด แม้คลื่นกระแทกจะรุนแรง แต่ก็ไม่ทำให้ร่างกายมหึมาของเซนอนสั่นสะเทือน


นี่ยังไม่ใช้แม้กระทั่ง ‘การป้องกันสัมบูรณ์’


การป้องกันสัมบูรณ์ของมังกรจะ ‘มองข้ามความเสียหายที่ได้รับ’


แต่เมื่อครู่เซนอนสลายความเสียหายทั้งหมดด้วยบาเรียคุ้มกายเพียงอย่างเดียว


‘นี่มัน…’


‘…มังกร!’


ท้ายทอยและหน้าอกของโนลล์กับแวมไพร์เริ่มเย็นยะเยือก


ใช้คำว่า ‘แข็งทื่อ’ อาจเหมาะสมกว่า พวกมันเริ่มทำงานผิดไปจากหน้าที่เดิม


พลังอำนาจของ ‘สิ่งมีชีวิตก้าวข้าม’ น่าสะพรึงถึงเพียงนั้น


แม้พวกมันจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของมังกรมานับไม่ถ้วน แต่การได้เผชิญกับของจริงคือสิ่งที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง


มังกรข่มขวัญ, เวทมนตร์, วาจามังกร, ลมหายใจ, ห้วงมิติเวทมนตร์, การป้องกันสัมบูรณ์ และอีกมากมาย


สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็คือ มังกรสีเทาตรงหน้ายังไม่ได้แสดงพลังพวกนั้นออกมาเลย


เซนอนกำลังทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของเรย์ดัน


‘ไม่ใช่เรื่องแปลกหากกำลังเสริมจะมาถึง’


พิจารณาจากขนาดและรูปร่าง เมืองแห่งนี้น่าจะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญอย่างมากของมนุษย์


ทว่า กองกำลังที่คอยปกป้องกลับไม่ได้ใกล้เคียงกับกองทัพที่ดีที่สุด


และไม่น่าจะหวังพึ่งพาแค่กลุ่มแวมไพร์หัวกะทิ


บางที มนุษย์คงหวังพึ่งพาการคุ้มครองจากวาร์ปเกต


เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้กองกำลังที่แข็งแกร่งเคลื่อนไหวได้ทันท่วงที


ซู่ว—


พลังเวททรงกลมหลายสิบลูก เริ่มหมุนวนรอบตัวเซนอน


ดูเหมือนว่าพลังทำลายยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


เกรงว่าเพียงก้อนพลังเวทหนึ่งลูกตกใส่เมือง ส่วนใดส่วนหนึ่งของเมืองอาจถูกลบหายไป


รูม่านตาโนลล์สั่นระริกอย่างบ้าคลั่ง


“การิสซ่า!!”


โนลล์ตะโกนอย่างเร่งร้อน


แต่พลังเวททรงกลมเร็วกว่าเสียงตะโกนของโนลล์หลายเท่า


บึ้มมมมมมมมมมมม!!


เสียงระเบิดที่สามารถฉีกทำลายแก้วหู กลบเสียงตะโกนของโนลล์จนมิด


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


เสียงคำรามยังคงดำเนินต่อไป


เป็นเสียงของซากวาร์ปเกตที่พังถล่มและตกใส่การิสซ่ากับชาวเมือง


โนลล์ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ขยับมือ


ในวินาทีที่วงกลมเวทมนตร์ปะทะเข้ากับวาร์ปเกต การิสซ่าและชาวเมืองส่วนใหญ่เสียชีวิตทันที


ทุกสิ่งกลายเป็นเถ้าถ่านไปพร้อมกับปราสาทเรย์ดันที่ตั้งเด่นตระหง่านใจกลางมวลหมู่วาร์ปเกต


คนที่โชคดีไม่ตายคาที่ ก็ถูกซากวาร์ปเกตถล่มใส่อยู่ดี


เป็นมหันตภัยที่ยากจะให้เชื่อว่า เกิดจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย


> ข้าไม่คิดประมาท


บิดาของเซนอน กูเซล ไม่ใช่มังกรโบราณ


คงไม่เรียกว่าสิ่งมีชีวิตสัมบูรณ์ได้ไม่เต็มปากนัก


ดังนั้น บิดาของมันอาจ ‘ถูกมนุษย์ฆ่า’ เพราะประมาทและมั่นใจในพลังของตนมากเกินไป


แผนของเซนอนก็คือ ค่อยๆ ตระเวนไปทั่วทวีปอย่างใจเย็น เพื่อสังเกตและทำความเข้าใจมนุษย์โดยละเอียด


แต่สำหรับมนุษย์ เรื่องนั้นอาจเกิดขึ้นในพริบตาประหนึ่งลมพายุ


“ไอ้…”


โนลล์ขบกรามแน่น


มันไม่ได้ถามออกไปว่า เหตุใดอีกฝ่ายถึงบุกรุก


มังกรคือสิ่งมีชีวิตก้าวข้าม ตัวตนระดับต่ำกว่าย่อมไม่มีทางทำความเข้าใจ การถามถึงเหตุผลและขอคำอธิบายคงไม่มีความหมาย สู้เอาพลังงานที่จะสูญเสียไปในบทสนทนา มาเปลี่ยนเป็นพลังเวทเสียยังดีกว่า


‘ท่านแม่ ข้าจะไปหาท่านเดี๋ยวนี้’


โนลล์ยิ้มพลางหวนนึกถึงรูปลักษณ์ของเบริอาเช่สมัยยังมีชีวิต


เส้นเลือดสีน้ำเงินเริ่มปูดขึ้นตามผิวหนังสีซีด


เป็นผลจากการที่พลังเวท เคลื่อนที่ผ่านหลอดเลือดทั่วร่างกายด้วยความเร่ง


โนลล์เตรียมใจที่จะตาย


มันคิดจะระเบิดเลือดทุกหยดในร่างกายตัวเองเพื่อแลกกับลูกตามังกรหนึ่งข้าง


แต่แน่นอน โนลล์ทราบดี โอกาสสำเร็จอาจมีไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์


อย่างไรก็ดี แทนที่จะตายเยี่ยงสุนัข มันขอเดิมพันกับความหวังอันริบหรี่


เซนอนจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ่อนโยน


คล้ายกับสายตามนุษย์ที่จ้องมองสิ่งมีชีวิตกระจ้อยร่อยด้วยความสงสาร


ในวินาทีที่สัมผัสถึงการดูแคลนจากอีกฝ่าย เส้นเลือดตามร่างกายโนลล์ทวีความปูดโปน


—!


หนึ่งในก้อนพลังเวททรงกลมที่หมุนวนรอบเซนอน ถูกยิงเข้าใส่โนลล์


ไม่มีสุ้มเสียงใดดังขึ้น


ก้อนพลังเวทฝังเข้าไปในหัวใจโนลล์อย่างเงียบเชียบ


จากนั้น เมื่อมันระเบิดออก เสียงคำรามจึงค่อยดังสนั่นหวั่นไหว


“อ๊ากกก!!”


ขณะที่ร่างโนลล์แหลกละเอียดโดยที่ไม่มีโอกาสกรีดร้อง เหล่าแวมไพร์ต่างพากันหนีตาย บ้างบาดเจ็บสาหัส บ้างถูกแรงระเบิดกลืนกิน


เซนอนเลิกสนใจพวกมันโดยสมบูรณ์


โดยไม่กล่าวคำใด มันยิ่งก้อนพลังเวทต่อทันที


ทันใดนั้นเอง หมียักษ์ได้ปรากฏตัวขึ้นและใช้ร่างกายขวางเอาไว้


แต่ก็เปล่าประโยชน์


ก้อนพลังเวทเจาะทะลวงหมีนิรนามอย่างง่ายดาย


แต่ปัญหาคือ หมีเหล่านี้มีจำนวนหลายสิบ


กว่าจะถึงเป้าหมาย ก้อนพลังเวทที่พุ่งผ่านอุปสรรคหลายชั้นโดยไม่หยุดหรือระเบิด เริ่มสูญเสียความเร็วไปเล็กน้อย


แม้กระทั่งลูกศร ดาบ หอก ขวาน และโล่ที่พุ่งเข้ามาขวางอย่างต่อเนื่อง ต่างก็ระเบิดทันทีโดยที่มิอาจคืบหน้าได้แม้แต่เซนติเมตรเดียว


โนลล์และเหล่าแวมไพร์ที่เพิ่งฟื้นฟูร่างกายเสร็จ หันไปมองยังทิศทางของกำลังเสริมด้วยสีหน้าอึมครึม


อีกฝ่ายเป็นตัวตนที่คาดไม่ถึง


“ถือเป็นโอกาสเหมาะเหม็ง... ในมหาสงครามระหว่างอสูร พวกเราแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่มีผลงานไปแสดงให้พวกเขาเห็น”


อันดับหนึ่งของโลกในคลาสนักรบคลั่ง


อาสึกะ สาวผมทองเจ้าของฉายาเจ้าศาสตรา หรืออีกชื่อหนึ่งคือนักสะสมอาวุธ


“ไม่ใช่โอกาสสักหน่อย นี่มันหายนะ”


อันดับหนึ่งของโลกในคลาสนักอัญเชิญ


หมีเท็ดดี้สีดำตัวใหญ่ บนไหล่มีตุ๊กตาหมีน่ารัก


“ฉันรู้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเราก็ต้องตาย แต่นั่นไม่เห็นจะสำคัญตรงไหน”


คู่หูคนดังที่โนลล์รู้จักเป็นอย่างดี กำลังเผชิญหน้ากับเซนอนอย่างไม่กลัวเกรง


ใบหน้าของพวกมันขณะจ้องมองมังกรตัวใหญ่ประหนึ่งขุนเขาไท่ซาน ไม่เผยความตื่นตระหนกแม้แต่น้อย


“ระหว่างที่ฉันตรึงมันเอาไว้ นายต้องพาพวกแวมไพร์หลบหนีให้สำเร็จ เข้าใจไหม?”


“ครับ คุณหนู”


“นี่พวกเจ้า…!”


ไม่มีใครแยแสเสียงตะโกนของโนลล์


โนลล์ที่ฟื้นคืนจากความตายมาแล้วสองครั้ง ย่อมอยู่ในสภาพอ่อนแอสุดขีด หมีของแบล็กเท็ดดี้จึงปิดปากและยกอุ้มอย่างง่ายดาย


อาสึกะหยิบอาวุธใหม่ออกมาถือ


เงินตราและเครือข่ายข้อมูล


การทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อกว้านซื้ออาวุธที่ผลิตโดยกริด ช่วยให้เธอสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ


นอกจากนั้น นักรบคลั่งยังไม่ตายโดยง่าย


ยิ่งใกล้ตายมากเพียงใด ความตายก็ยิ่งถูกขยายออกไป


คุณสมบัติดังกล่าวยิ่งเด่นชัดเมื่อพัฒนาเลเวลถึง 460


เธอสามารถยื้อเวลาการต่อสู้ออกไปได้เล็กน้อย ต่อให้อีกฝ่ายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าอย่างท่วมท้นก็ตาม


“อุตส่าห์จะได้เข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์หนึ่งทั้งที”


ไอเท็มชิ้นใหม่ของกริดที่เงินมหาศาลเพียงใดก็ซื้อไม่ได้ สมาชิกของกิลด์หนึ่งได้รับสิทธิ์ในการซื้อสิ่งเหล่านั้น


เป็นความปรารถนาอันสูงสุดของอาสึกะผู้ครอบครองทักษะ ‘ความชำนาญอาวุธทุกชนิด’


แบล็กเท็ดดี้เองก็ต้องการให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง


จึงให้ความร่วมมืออย่างแข็งขัน


มันพาโนลล์และเหล่าแวมไพร์หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ โดยการลงทุนใช้อุปกรณ์ทำลายห้วงมิติเวทมนตร์แบบพกพาที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง


เมื่อพิจารณาว่า คลื่นพลังเวทแปลกปลอมปริมาณมหาศาลจะปลุกให้ราชินีผู้หลับใหลอยู่ใต้ดินให้ลืมตาตื่น ระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีที่อาสึกะช่วยยื้อไว้ อาจเป็นไม่กี่วินาทีที่มีค่ามากที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00