จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,572



คนยักษ์ถูกทำลายไปเมื่อพันกว่าปีก่อน


อารยธรรมของพวกมันจมลงใต้ทะเลลึกและสาบสูญไปจากโลกโดยสิ้นเชิง จนไม่มีมนุษย์ไม่มีโอกาสได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของคนยักษ์


สตรอมบริงเกอร์, อาร์โก, วงแหวนเทพ และอีกมาก


เป็นเหตุผลที่ชื่อของเหล่ามหาสมบัติ ซึ่งเคยทำลายล้างอสูรและต่อกรกับมังกร หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์


“วงแหวนเทพมีโครงสร้างซับซ้อนมาก มันได้ชื่อว่าเป็นของวิเศษที่ครอบจักรวาลที่สุดของคนยักษ์ การซ่อมแซมไม่ใช่เรื่องง่าย”


“…”


“แต่ข้าซ่อมได้ เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบวงแหวนเทพขึ้นมา”


“อ…โอ้ส…!”


สองพี่น้องฟรอนซาลล์มิอาจเก็บซ่อนความตื่นเต้นไว้ได้ พวกมันกำลังยืนสนทนาอยู่กับประวัติศาสตร์ที่สาบสูญของคนยักษ์ ความตื้นตันและกระตือรือร้นจึงถาโถมเข้าใส่อย่างไม่หยุดหย่อน


พฤติกรรมการลูบหน้าอกโลหะและหายใจกระเส่าของไฟโวล์ฟ ไม่ใช่ส่งที่น่ารังเกียจอีกต่อไป


ไม่สำคัญอีกแล้วว่าจะอยู่ในรูปลักษณ์ใด มีหน้าตาเป็นเช่นไร


แม้จะมีกลิ่นตัวเหม็นเหมือนขี้สัตว์ แต่คุณค่าก็ยังคงอยู่อย่างเต็มเปี่ยม


“อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย วงแหวนเทพเป็นของวิเศษที่สร้างจากการถักทอโลหะสามสิบสองชนิดเข้าด้วยกัน ผนวกกับเทคโนโลยีชั้นสูงจากประสบการณ์ตลอดช่วงชีวิตของยอดนักวิทยาศาสตร์หลายสิบคน อีกทั้งยังบรรจุพลังของภูตธาตุที่ต้นไม้โลกโปรดปรานลงไป และเนื่องจากคำนวณด้วยสูตรอันยาวเหยียดแทบจะไร้สิ้นสุด แม้จะเป็นการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย แต่กระบวนการทั้งหมดก็ใกล้เคียงกับการสร้างใหม่”


หรือก็คือ


“ถึงจะเรียกว่าซ่อมแซม แต่มันใกล้เคียงกับการสร้างใหม่มากกว่า จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากต้นไม้โลกอีกครั้ง แต่ต้นไม้เก่าแก่นั่นจะยอมช่วยจริงหรือ? แค่ยอมให้เข้าไปในป่าก็บุญแล้วกระมัง”


“ต้นไม้โลกรักสงบเป็นชีวิตจิตใจมิใช่หรือ? ถ้าอธิบายหน้าที่ของสภาหอคอยให้ฟังล่ะก็ ทางนั้นน่าจะยอมร่วมมือ”


ไฟโวล์ฟคืนชีพอีกครั้งจากการสิงสู่จักรกลเวทมนตร์ที่สร้างจากละโมบ


ในแง่นิยามการดำรงอยู่ ไฟโวล์ฟย่อมถูกจำแนกให้เป็นหนึ่งในบริวารของกริด เหมือนกับโนเอะ แรนดี้ โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์


สองพี่น้องฟรอนซาลล์จึงสามารถเล่าการดำรงอยู่ของหอแห่งปัญญาให้ฟังได้


หลังจากอธิบายประวัติศาสตร์และบทบาทของหอแห่งปัญญาโดยละเอียด


ไฟโวล์ฟส่ายหน้า


“ต้นไม้โลกทั้งชราและผุพัง เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยที่ข้ายังมีชีวิต… หากต้องการเสริมพลังให้วงแหวนเทพ ต้นไม้โลกจะสูญเสียอายุขัยไปครึ่งหนึ่ง”


“นั่นมัน…”


สำหรับโลกกึ่งกลาง ต้นไม้โลกมีบทบาทหน้าที่สำคัญมาก


แค่การดำรงอยู่ก็เป็นพระคุณมหาศาล


หากต้นไม้โลกหายไป อากาศของโลกจะขุ่นมัว และธรรมชาติจะสูญเสียชีวิตชีวา


คุ้มแล้วหรือที่จะซ่อมแซมวงแหวนเทพด้วยอายุขัยของต้นไม้โลก?


นั่นคือสิ่งที่ต้องให้ต้นไม้โลกเป็นผู้ตัดสินใจ


หอแห่งปัญหาไม่สามารถกะเกณฑ์ด้วยความประมาท


ดูเหมือนว่า การซ่อมแซมวงแหวนเทพอาจอยู่ไกลเกินเอื้อมพวกตน


ขณะสองพี่น้องฟรอนซาลล์เผยสีหน้าครุ่นคิด


“ฉันไม่เข้าใจ”


กริดที่เงียบมาตลอด พูดแทรกเป็นครั้งแรก


“เท่าที่นายเล่ามา สิ่งสำคัญในการสร้างวงแหวนเทพไม่ใช่พลังของต้นไม้โลก หากแต่เป็นพลังของภูตธาตุไม่ใช่หรือ? แล้วเหตุใดอายุขัยของต้นไม้โลกถึงสั้นลง?”


ถูกเผง


ไฟโวล์ฟอธิบายอย่างชัดเจนว่า วงแหวนเทพถูกบรรจุพลังของภูตธาตุที่ต้นไม้โลกโปรดปราน


ลาร์ดวูล์ฟลองคาดเดา


“คงเพราะต้องใช้พลังของราชาภูตธาตุหลายตน”


ไฟโวล์ฟพยักหน้า


“ถูกต้อง ข้าต้องอัญเชิญราชาภูตธาตุทั้งห้าออกมาเพื่อขอยืมพลังจากพวกเขา ซึ่งนั่นถือเป็นภาระใหญ่หลวงสำหรับต้นไม้โลก โดยเฉพาะราชาภูตแสงที่หัวรั้นกว่าใครทั้งหมด”


“ราชาภูตแสง…?”


“เจ้าคงเพิ่งเคยได้ยินสินะ เดิมทีภูตธาตุก็เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่หายากอยู่แล้ว แต่ธาตุแสงนั้นหายากที่สุด โดยเฉพาะราชาภูตแสง พวกมันเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการชำระล้างปราณอสูรให้บริสุทธิ์ ไม่แยแสชะตากรรมของมนุษยชาติแม้แต่น้อย…”


ดวงตาสีแดงของไฟโวล์ฟกลอกไปรอบๆ ขณะพูด


ทันใดนั้น จุดแสงสีขาวเผยการมีอยู่ของตัวเองออกมา


ภูตแสงที่ทำพันธสัญญากับกริด


“อา… เข้าใจแล้ว เจ้าคงเคยได้ยินเรื่องของราชาภูตแสงมาบ้าง แต่น่าจะยังไม่เคยเห็น…?”


ไฟโวล์ฟชะงักคำพูดกลางคัน


เพราะกริดกำลังเอียงคอด้วยใบหน้าฉงน


เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายต้องการกล่าวบางสิ่ง ไฟโวล์ฟเปิดช่องให้กริดพูด


และข้อมูลอันน่าตกตะลึงได้ถูกพ่นออกมา


“คนรักของฉันทำพันธสัญญากับราชาภูตแสง… เมื่อนานมาแล้ว”


“หา…!”


“…!”


สองพี่น้องฟรอนซาลล์ลุกพรวดจากที่นั่งทันที ดวงตาใต้เบ้าจมลึกกำลังพองตัว ราวกับพร้อมจะถลนออกมาทุกเมื่อ


ไฟโวล์ฟเองก็มีท่าทีตอบสนองที่รุนแรง


“จริงหรือ? คนรัก? หมายถึงแม่สาวอัศวินที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา?”


“เปล่า ไม่ใช่เมอร์”


“หืม… หมายถึงอริยศรที่ข้าเพิ่งได้พบสินะ? บุคลิกแข็งกร้าวและเกรี้ยวกราดของหล่อน คู่ควรที่จะสื่อสารกับราชาภูตธาตุอยู่”


“เปล่า ไม่ใช่จิสึกะ แต่เป็นยูร่า เธออยู่ในนรกเป็นส่วนใหญ่ นายจึงยังไม่เคยเห็นหน้า”


“ในนรก…?”


ไม่มีใครพูดถึงจำนวนคนรักของกริดที่ดูจะมากผิดปรกติ


เนื่องจากชายหนุ่มเป็นทั้งเทพและมหาจักรพรรดิ จะมีสนมในตำหนักสักสามพันคนก็เป็นเรื่องธรรมดา


เหล่าคนยักษ์ให้ความสนใจกับวลี ‘นรก’ มากกว่า


“หรือว่า… นักล่าอสูร?”


“ใช่”


“นั่นแหละ…! ใช่แล้ว! ราชาภูตแสงต้องชื่นชอบเธอแน่!”


สองพี่น้องฟรอนซาลล์มองกริดด้วยสายที่แปลกไปทันที


เมอร์เซเดส จิสึกะ ยูร่า


ผู้หญิงของกริดล้วนเป็นตำนาน


สามารถมัดใจสามตำนานของยุคสมัยไว้ได้พร้อมกัน


อย่างที่คิด กริดไม่ใช่คนหนุ่มธรรมดา


พวกมันไม่มีคำอธิบายอื่นนอกเหนือจาก ‘ชายผู้ยิ่งใหญ่’


แต่ในทางกลับกัน ไฟโวล์ฟเห็นต่าง


“เหตุใดเจ้าถึงทิ้งให้ละโมบต้องอยู่อย่างเดียวดายและไปหาความสุขกับมนุษย์สตรี? ทั้งที่สร้างโลหะที่ดีที่สุดของโลกได้แล้ว ทำไมเจ้าถึง…”


“…”


กริดเลือกที่จะปล่อยผ่าน


***


มังกรบาดเจ็บคือสิ่งมีชีวิตที่พบได้ไม่บ่อย


หากมังกรได้รับบาดเจ็บ สาเหตุส่วนใหญ่คือการถูกโจมตีโดยมังกรโบราณ และถ้าตกเป็นเหยื่อของมังกรโบราณ มีเพียงไม่กี่ตัวที่จะรอดมาได้


กล่าวอีกนัยหนึ่ง อิฟริตคือสุดยอดโอสถที่ไม่เป็นสองรองใครในโลก


ทว่า การล่าจบลงด้วยความล้มเหลว


สาเหตุสำคัญคือกริด และมีร์ที่ปล่อยให้กริดอาละวาดตามอำเภอใจ คือคนที่ต้องรับผิดชอบ


“ข้าจะลงโทษด้วยการโบยตี”


ราชาซอบยอลผู้รับหน้าที่ไต่สวน ประกาศคำตัดสินของตน


แต่นั่นยังไม่สาแก่ใจสามซา


เป็นเพราะความผิดพลาดของมีร์ สามซาจึงต้องเผชิญหน้ากับ ‘เทพบ้ามังกรบ้า’ และต้องหลบหนีกลับมาด้วยความอับอาย ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกายต้องพักฟื้นอีกไม่ต่ำกว่าครึ่งปี


แต่มีร์ซึ่งเป็นสาเหตุของความอัปยศ กลับถูกลงโทษแค่โบยตี?


“ข้ายอมรับไม่ได้”


“คิดจะให้เด็กที่ทรยศฮานึลมีชีวิตอยู่ต่อไปหรืออย่างไร?”


ตึง ตึง ตึง! เสียงเคาะบัลลังก์ดังสามครั้งก่อนจะหยุดลง


“โทษประหาร? สามซากำลังจะบอกว่า ตัวเองสามารถให้กำเนิดเด็กแบบนี้ขึ้นมาได้อีก?”


ราชาซอบยอลยังคงเผยรอยยิ้มอ่อนโยน


แต่ดวงตาทั้งหกบนใบหน้าซอบยอล กำลังสร้างความน่าพรั่นพรึงเหนือพรรณนาให้สามซา


“เป็นผู้ถูกขับออกจากแอสการ์ดแท้ๆ แต่กลับไม่เข้าใจเรื่องแค่นี้? เนื่องจากพวกเขาขาดแคลนเทวทูต ข้าถึงต้องสร้างและบ่มเพาะขึ้นมาเองกับมือ กล่าวคือทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าต่อฮานึลในอนาคต เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าลองตอบข้ามา ถ้าประหารมีร์แล้วจะหาใครมาแทน?”


“ขออภัยด้วย… พวกเราใช้อารมณ์มากเกินไป…”


สามซาก้มหน้าพลางส่ายศีรษะ


แม้แต่เทพสามตนแรกที่ฮานึลสร้างขึ้นในยุคโบราณกาล ก็ยังทำตัวลีบเล็กต่อหน้าผู้สืบสายเลือดโดยตรงจากฮานึล


“ไม่ต้องกังวล มีร์จะได้รับการตักเตือนที่เพียงพอ”


สี่ตายซ้ายและสองตาขวา


ดวงตาของราชาซอบยอลซึ่งทุกดวงถูกแบ่งครึ่งคล้ายหยินหยาง กลับคืนสู่ภาวะปรกติพร้อมกับเปล่งแสงแวววาวยิ่งกว่าหินออบซิเดียน เป็นภาพลักษณ์ที่มอบความรู้สึกเดียวกันกับ ‘พระเจ้า’ ที่ชาวบ้านแห่กราบไว้บูชา


***


“…”


อารมณ์บนใบหน้ามีร์ซึ่งเพิ่งถูกโบยในสภาพผูกติดกับเสา ค่อยๆ จางหายไป


เป็นผลมาจากการถักทอเส้นใยแห่งการลืมเลือนลงบนร่าง


ความทรงจำอันล้ำค่าและเปี่ยมไปด้วยความหมายซึ่งถูกสั่งสมมานานหลายปี ทยอยถูกลบออกจากจิตใจของมีร์โดยสมบูรณ์


***


ในยามปรกติ ยูร่ามักหลงลืมการดำรงอยู่ของราชาภูตแสง เพราะเธอได้รับความช่วยเหลือเพียงนับครั้งได้


เพราะไม่เคยมีการสื่อสารระหว่างกัน


หวังพึ่งพาได้ยาก เพราะไม่รู้วิธีขอความช่วยเหลือ


ทักษะหลายชนิดที่ได้รับจากการทำพันธสัญญากับราชาภูตแสง ล้วนถูกใช้งานตามความตั้งใจของอีกฝ่าย


ยากจะที่ปลดปล่อยออกมาได้ตามใจนึก เพราะระยะหน่วงของทักษะถูกระบุไว้ว่า: ใช้งานเมื่อต้องการ


ยิ่งเวลาผ่านไป สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลง


“ตกลง”


อย่างไรก็ดี ยูร่าตอบรับคำขอของกริดโดยไม่ลังเล


คำขอดังกล่าวก็คือ อัญเชิญราชาภูตแสงต่อหน้าต้นไม้โลก


แม้จะโอกาสสำเร็จจะต่ำ แต่เธอก็ไม่คิดปฏิเสธ


หายากมากที่กริดจะขอร้องเธอ และเธอยังเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่สามารถอัญเชิญราชาภูตแสง


‘เราจะทำ’


กริด ไฟโวล์ฟ ยูร่า


มิตรภาพอันแสนกระอักกระอ่วนเริ่มต้นขึ้น


ยูร่ารู้สึกถูกกวนใจทุกครั้งที่หุ่นยนต์โลหะเอาแต่ลูบไล้ร่างกายตัวเองพลางหายใจกระเส่า แม้เธอจะเคยพานพบอสูรที่น่ารังเกียจในนรกมาไม่น้อย แต่ก็ยังเป็นการยากที่จะทำใจยอมรับพฤติกรรมของไฟโวล์ฟ


ไฟโวล์ฟเป็นฝ่ายเปิดศึก


“เหล่าบุรุษล้วนหลงใหลการลูบไล้เรือนร่างคนรัก… สตรีแบบเจ้าคงเป็นที่รักของใครได้ไม่นาน”


“…!?”


ตามปรกติแล้ว พวกวิตถารก็มักหาเหตุผลดีๆ มาเข้าข้างตัวเองได้เสมอ


แต่ยูร่ากลับคิดเป็นจริงเป็นจริง


นั่นเพราะสถานะของไฟโวล์ฟใกล้เคียงกับการเป็นสัตว์เลี้ยงกริด


สัตว์เลี้ยงสามารถบ่งบอกถึงตัวตนของเจ้านายได้ในระดับหนึ่ง


เมื่อตระหนักถึงวิกฤติ ยูร่าขยับเข้ามาควงแขนกริด


“???”


เมื่อต้นขาและเอวของตนถูกปลายนิ้วลูบไล้อย่างเก้ๆ กังๆ กริดเผยสีหน้าฉงน


***


“ที่นี่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก”


“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ต้นไม้โลกคือเทพผู้คอยค้ำจุนฟ้าดิน เป็นใจกลางของโลกกึ่งกลาง และใจกลางย่อมไม่ถูกทำลายโดยง่าย”


ป่าต้นไม้โลกมิได้แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อย


ขณะกริดกำลังโล่งใจ เหล่าเอลฟ์วิ่งเข้ามาทักทาย


“ยินดีต้อนรับ ท่านเทพโอเวอร์เกียร์”


กริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์คือผู้มีพระคุณของเอลฟ์และต้นไม้โลก


นั่นคือเหตุผลที่ชาวโอเวอร์เกียร์ได้สิทธิ์ทำพันธสัญญากับภูตธาตุฟรี


เมื่อไม่นานมานี้ ความเคารพนับถือที่เอลฟ์มอบให้จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์ เพิ่มสูงขึ้นจนถึงจุดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นผลมาจากทั้งเหตุการณ์กองทัพดาร์คเอลฟ์จู่โจมและมหาสงครามระหว่างมนุษย์กับอสูร


“ข้าไม่เคยเห็นพวกหูยาวนอบน้อมแบบนี้มาก่อน…”


ไฟโวล์ฟชื่นชมกริดเมื่อเห็นเอลฟ์ทุกคนวิ่งเข้ามาทักทายด้วยความสุภาพ


เป็นทัศนคติที่ไม่เข้ากับเอลฟ์จองหองเลยสักนิด


“ข้าอยากขอความช่วยเหลือจากท่านเพื่อสร้างวงแหวนเทพขึ้นมาใหม่ ด้วยการอัญเชิญราชาภูตธาตุทั้งห้าออกมา”


เมื่ออยู่ต่อหน้าต้นไม้โลก ไฟโวล์ฟก็ทำตัวนอบน้อมไม่ต่างจากกริด


แต่ก็เปล่าประโยชน์


> ข้ารักษาสัญญากับคนยักษ์ไปตั้งแต่โบราณกาลแล้ว ไฟโวล์ฟ เจ้าไม่มีสิทธิ์ร้องขอสิ่งใดอีก


“ได้โปรด”


ไฟโวล์ฟที่มักจิกกัดเอลฟ์และยูร่า เล่าทุกสิ่งอย่างตรงไปตรงมาด้วยความสำรวม


มันกล่าวถึงการดำรงอยู่ของหอแห่งปัญญา และความเสียสละของเหล่าสภาหอคอย แน่นอน มันไม่ลืมเล่าเรื่องที่ยูร่าจะช่วยอัญเชิญราชาภูตแสงเพื่อลดภาระให้ต้นไม้โลก


อย่างไรก็ดี ต้นไม้โลกไม่เปลี่ยนท่าที


“จบสิ้นแล้ว…”


ไฟโวล์ฟหดหู่เมื่อผลลัพธ์ออกหน้าเลวร้ายที่สุด


มันจ้องกำไลข้อมือวงเก่าที่สองพี่น้องฟรอนซาลล์เก็บไว้เป็นของดูต่างหน้าด้วยความขมขื่น


ไฟโวล์ฟยังคงหลงเหลือสามัญสำนึก


สองพี่น้องที่ได้เห็นความพินาศของบ้านเกิดต่อหน้าต่อตา


ทั้งที่ถูกทิ้งไว้ตามลำพังอย่างโดดเดี่ยว แต่พวกเขากลับต่อสู้เพื่อมนุษยชาติอย่างอาจหาญ


ด้วยความสัตย์จริง ไฟโวล์ฟอยากช่วยฟรอนซาลล์


“ต้นไม้โลกเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ อาจแสดงความเห็นอกเห็นใจมนุษย์ได้ไม่มากนัก คงยากที่จะโน้มน้าวสำเร็จ”


อยู่ต่อไปก็รังแต่จะเสียเวลาเปล่า


ขณะไฟโวล์ฟกัดฟันสลัดความเสียใจและหันหลังกลับ


“ท่านต้นไม้โลก”


กริดก้าวออกมา


มันกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ค้ำจุนฟ้าดิน ต้นไม้ซึ่งมองไม่เห็นยอดไม่ว่าจะแหงนหน้าสักเพียงใด


“ช่วยทบทวนดูอีกครั้งได้ไหม… พลังของสภาหอคอยจำเป็นต่อโลกใบนี้ และฉันอยากให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น”


> ตกลง


“…?”


กริดผู้กำลังอ้อนวอน และไฟโวล์ฟผู้ถอดใจไปแล้ว ต่างเผยสีหน้าตกตะลึงพร้อมกัน


ต้นไม้โลกกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและอ่อนโยน


> ข้าจะอัญเชิญห้าราชาภูตตามที่เจ้าต้องการ โดยไม่สนใจว่าชีวิตนี้จะเหี่ยวเฉาลงสักเพียงใด


______________

ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00