จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,284



กลุ่มคนยุคบุกเบิกที่เริ่มเล่นตั้งแต่ช่วงโคลสเบต้าต่างพากันคิดว่า ซาทิสฟายคงเป็นเพียงเกมออนไลน์เสมือนจริงธรรมดา ไม่แตกต่างจากเกมในอดีตมากนัก


พวกมันเชื่อว่า เป้าหมายสุดท้ายของเกมออนไลน์คือระบบต่อสู้ หากไม่ใช่สู้กับบอสก็ต้องเป็นการสู้กับผู้เล่นด้วยกันเอง ส่งผลให้กลุ่มคนในยุคดังกล่าวเลือกเล่นคลาสต่อสู้เป็นส่วนใหญ่


ประกอบการการที่โลกเสมือนจริงยังเป็นของใหม่มากในสมัยนั้น และความซับซ้อนเชิงสังคมภายในเกมยังเป็นปริศนา


ทั้งหมดข้างต้นคือปัจจัยที่ผลักดันให้ผู้เล่นกว่า 70% เลือกเล่นคลาสนักธนู เพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดที่ลิมชอลโฮเคยโอ้อวดว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงความจริง


และยังเป็นสาเหตุว่าทำไม กลุ่มผู้เล่นยุคบุกเบิกจึงถูกตราหน้าว่า ‘อ่อนแอที่สุด’ จากบรรดาทุกรุ่น แม้จะมีคนดังอย่างกริด ครอเกล และยูร่าเป็นตัวชูโรง


***


ซีบาล


ครั้งหนึ่งเคยเป็นหัวหน้ากิลด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก แต่ปัจจุบันกำลังมีวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง


หลังจากเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมาย ในที่สุดซีบาลก็กลายเป็นสาวก ‘แกรนมาสเตอร์’ ซิกเฟรคเตอร์ โดยพวกมันมีเป้าหมายเป็นการคืนชีพเหล่า ‘เจ็ดมาร’


“…ชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลว”


ทวีปตะวันออก อาณาจักรชิง


สภาพแวดล้อมคล้ายคลึงอารยธรรมจีนโบราณ ตึกรามบ้านช่องมีลักษณะเป็นหอคอยสูงเรียงรายชวนให้นึกถึงอาณาจักรต้าหลี่อันโด่งดัง ตรงข้ามกับอาณาจักรโชที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว


ในตอนแรก ซีบาลไม่คุ้นชินและรู้สึกแปลกแยกพอสมควร แต่ปัจจุบันเริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว


เสื้อคลุมของชาวตะวันออกที่เคยสร้างความอึดอัดและรำคาญใจเริ่มไม่เป็นปัญหา อาหารที่ทำจากตะขาบหรืองูก็มิได้ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้เหมือนเมื่อก่อน


แต่ซีบาลยังมีอยู่หนึ่งปัญหาที่ต้องกังวล


“พวกมันปฏิเสธเราอีกแล้ว น่ารำคาญฉิบ! ทำไมพวกเราถึงไม่ใช้กำลังจัดการให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!”


ชีวิตของมันไม่มีความก้าวหน้า


อยู่มาวันหนึ่ง ไฮดราถูกใครบางคนสังหาร


ส่งผลให้ซีบาลและพรรคพวกเดินทางมายังทวีปตะวันออกได้อย่างราบรื่นโดยมีเป้าหมายหลักเป็นอาณาจักรฮวาน


อย่างไรก็ตาม ทั้งราชวงศ์โชและชิงต่างไม่ให้ความร่วมมือกับกลุ่มของซีบาล ไม่เพียงจะไม่ยอมระบุตำแหน่งของอาณาจักรฮวาน ทั้งสองอาณาจักรยังแสดงความไม่เป็นมิตรทุกครั้งที่พวกมันเอ่ยชื่อ ‘ฮวาน’ ออกมา


เมื่อไม่มีความคืบหน้านานนับเดือน ความอดทนของซูซานจึงเริ่มหมดลง


“หากเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ว่าจะอีกกี่เดือนหรือกี่ปี พวกเราไม่มีวันหาอาณาจักรฮวานพบแน่!”


อาณาจักรที่ก่อตั้งโดยเทพตกสวรรค์


ก้าวแรกของแผนการอันยิ่งใหญ่ที่ซิกเฟรคเตอร์วางเอาไว้ คือการไปเยือนอาณาจักรฮวาน


แต่น่าเสียดาย ราชวงศ์ชิงและโชที่ทราบข้อมูลดังกล่าว กลับเอาแต่ปิดปากเงียบสนิท


โครม!


ซูซานทุบโต๊ะเสียงดังพลางกัดฟันกรอด


“พวกเราน่าจะใช้กำลังจัดการตั้งแต่แรก! ข้อมูลของอาณาจักรฮวานสำคัญมากจน… ถึงจะต้องทำทำลายทั้งสองอาณาจักรทิ้งก็คุ้มค่า!”


จากข้อมูลในมือ มีความเป็นไปได้มากที่ทั้งอาณาจักรโชและชิงจะเคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรฮวานมาก่อน


หลักฐานและร่องรอยสามารถพบเห็นได้ทั่วไป


แต่ดูเหมือนทั้งสองอาณาจักรจะได้เป็นอิสระเมื่อไม่นานมานี้  ปัจจุบันจึงกลายเป็นศัตรูกับอาณาจักรฮวานอย่างเปิดเผย


นั่นคือสาเหตุที่ซีบาลและพรรคพวก ถูกทั้งสองราชวงศ์ตัดขาดความสัมพันธ์


ซูซานตระหนักเป็นอย่างดีว่า สถานการณ์ในปัจจุบันของพวกตนค่อนข้างเลวร้าย


“…แต่แกรนมาสเตอร์บอกให้รอดูอีกนิด”


“รอดูอะไร!? เสียเวลาเปล่า! ซีบาล ทำไมนายถึงไม่ช่วยโน้มน้าวแกรนมาสเตอร์? เป็นคนโปรดของท่านไม่ใช่หรือ?”


‘นี่คือเหตุผลที่ฉันเป็นคนโปรด… ไม่ใช่เธอ’


ใบหน้าของซูซานมักแดงก่ำตลอดเวลา เนื่องจากเธอมีจุดเดือดทางอารมณ์ที่ต่ำกว่าคนปรกติ


แตกต่างจากอัศวินสีชาดรุ่นใหม่คนอื่นซึ่งเพียบพร้อมด้วยวินัยและการควบคุมอารมณ์


เทียบกับญาติอย่างเมอร์เซเดส ซูซานเป็นราวกับขั้วตรงข้าม นิสัยของเธอค่อนไปทางเด็ก


ซีบาลส่ายหน้าพลางอธิบาย


“แกรนมาสเตอร์บอกให้พวกเรารอดูสถานการณ์ไปก่อนก็เพราะว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเทพตกสวรรค์คิดอย่างไรกับอาณาจักรชิงและโช คงไม่ดีแน่หากการบุ่มบ่ามทำลายสองอาณาจักรดังกล่าวทิ้งส่งผลให้เทพตกสวรรค์โกรธเคืองพวกเรา”


“หา…? ในเมื่ออาณาจักรโชกับชิงหักหลังอาณาจักรฮวานของเทพตกสวรรค์ แล้วพวกท่านจะเอ็นดูอาณาจักรทรยศเหล่านั้นไปเพื่ออะไร? ฉันได้ยินมาว่า ตอนนี้พวกมันถูกปกครองโดยเหล่าสัตว์ประหลาด… ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นฟินิกซ์แดงและเต่าดำ”


“เพราะพวกเรายังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางดีพอ… ถ้าเธอหงุดหงิด ทำไมถึงไม่ลองไปถามแกรนมาสเตอร์เอาเอง… เคลือบแคลงในตัวท่านหรือ”


“หมายความว่ายังไง! ฉันไม่ได้หงุดหงิด! และไม่เคยสงสัยในตัวแกรนมาสเตอร์ด้วย!”


ปึง!


ด้วยใบหน้าแดงก่ำ ซูซานเดินออกจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง


ซีบาลที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ถอนหายใจแผ่วเบากับตัวเอง


‘…น่าหงุดหงิดชะมัด’


อันที่จริง ซีบาลก็คิดเหมือนกับซูซาน


มันมั่นใจว่า อาณาจักรฮวานต้องเป็นศัตรูกับอาณาจักรโชและชิงแน่


และในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่เป็นมิตรต่อกัน ก็ไม่มีเหตุผลที่เทพตกสวรรค์จะเป็นห่วงอาณาจักรโชและชิง


นอกจากนั้น ซีบาลยังประเมินสถานการณ์จากมหากาพย์ของกริด


หากซิกเฟรคเตอร์ลงมือทำลายอาณาจักรชิงและโชทิ้งในตอนนี้ ก็ไม่น่าจะสร้างความขุ่นเคืองใจให้เทพตกสวรรค์แต่อย่างใด


อย่างไรก็ตาม โลกใบนี้แสนอันตราย ก่อนจะข้ามแม่น้ำทุกครั้งต้องตรวจสอบสะพานให้มั่นใจเสียก่อน ถึงแม้จะเป็นสะพานหินก็ตาม


และต้องไม่ลืมว่า จวบจนปัจจุบัน อาณาจักรฮวานก็ยังยอมปล่อยให้โชและชิงสุขสบาย


ความรอบคอบของแกรนมาสเตอร์จึงยังอยู่ในขอบเขตสมเหตุสมผล


เหนือสิ่งอื่นใด ซีบาลที่รับใช้แกรนมาสเตอร์มานานกว่าสองปี ยังไม่เคยเห็นอีกฝ่ายตัดสินใจผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว


‘ภารกิจคราวนี้สำคัญมาก การรอให้มั่นใจก่อนลงมือคงไม่ใช่เรื่องเสียหาย… หือ?’


ขณะครุ่นคิดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาซีบาลพลันเบิกโพลง


กรุงหยางโจว เมืองหลวงของอาณาจักรชิง


แม้จะอยู่ใจกลางเมืองที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินเบียดเสียด แต่ความงดงามอันเป็นข้อยกเว้นของอีกฝ่ายทำให้ซีบาลตื่นจากภวังค์


‘จิสึกะ…?’


ซีบาลรีบลุกพรวดจากเก้าอี้


คลาสนักธนูในตำนานเพิ่งถือกำเนิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน


ตรงข้ามกับคนทั่วโลกที่ยังคลางแคลง ซีบาลมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า จิสึกะคือเจ้าของคลาสนักธนูในตำนานคนใหม่ซึ่งมีชื่อว่า ‘อริยศร’ แทนที่จะเป็น ‘ผู้สืบทอดโพเวีย’


‘…จะแข็งแกร่งแค่ไหนกันนะ’


ในยุครุ่งเรืองของมัน ซีบาลเคยเป็นรองแค่อันดับหนึ่งของโลก ‘ครอเกล’ เพียงผู้เดียว


ใช่แล้ว มันคืออดีตหมายเลขสอง


แม้จะเคยพ่ายแพ้ต่อกริด ผู้ที่เป็นราวกับดาวหางตกลงมาถล่มโลก อย่างน่าสมเพชอยู่หลายครั้งหลายหน แต่ซีบาลก็ไม่เคยสูญเสียเปลวไฟแห่งความทะเยอทะยาน


มันยังคงปรารถนาจะดวลกับเหล่าตำนานและพัฒนาฝีมือตัวเองให้แข็งแกร่ง


แต่มีหนึ่งสิ่งที่รบกวนจิตใจซีบาล


‘เธอคงโดนรีเซตเลเวลแล้ว…’


มันสร้างสมมติฐานจากกรณีของครอเกล


หลังจากฉุกคิดเรื่องสำคัญและเกิดความลังเลไปพักหนึ่ง ซีบาลตัดสินใจเดินออกไปที่ถนน


การหาตัวจิสึกะภายในฝูงชนไม่ใช่เรื่องยาก


เฉกเช่นหญิงงามทั่วไป จิสึกะสวมตาข่ายโปร่งสีดำปกปิดใบหน้าจนถึงลำคอ แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งสายตาลุ่มหลงของบรรดาชายหนุ่มกลัดมันรอบข้าง


เพียงซีบาลเดินตามทิศทางการมองของเหล่าบุรุษบนถนน ไม่นานก็ได้พบกับจิสึกะ


‘จริงอยู่ ในสายตาคนส่วนใหญ่ คลาสของเธอถูกประเมินไว้ต่ำกว่าตำนานคนอื่น’


บรรดาแรงเกอร์และผู้เชี่ยวชาญต่างพากันคาดเดาว่า คลาสอริยศรคงมีศักยภาพด้อยกว่าคลาสสายต่อสู้ด้านอื่นพอสมควร


ตำนานของโพเวียถูกบันทึกไว้เพียงน้อยนิด และลักษณะทางกายภาพของคลาสนักธนูคือขีดจำกัดใหญ่หลวงในตัวเองอยู่แล้ว


ต้องไม่ลืมว่า ในปัจจุบัน กว่า 43% ของคลาสสายต่อสู้คือประชากรนักธนู


ยิ่งมีจำนวนคนเล่นมากเท่าใด จุดแข็งและจุดอ่อนก็ยิ่งถูกเปิดเผยจนปรุโปร่ง


สามารถโจมตีได้ไกล ด้วยพลังโจมตีที่สูงมาก


แต่นอกเหนือจากสองจุดเด่นดังกล่าว คลาสนักธนูเต็มไปด้วยข้อเสียมากมาย ทั้งความอ่อนแอในระยะประชิด พลังป้องกันที่แทบจะต่ำที่สุด และมีความเร็วในการโจมตีน้อย


หากเป็นสนามรบแบบทีม นักธนูคือกำลังสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้าเป็นลานประลอง 1 ต่อ 1  นักธนูก็ยากจะเอาคลาสระยะประชิดทั่วไป


ถึงจิสึกะจะเก่งกาจจนทุกคนต้องมองคลาสนักธนูใหม่ แต่อัตราการชนะในศึกดวลระหว่างแรงเกอร์แถวหน้าด้วยกันก็ยังค่อนข้างต่ำ


‘เธอมาทำอะไรที่นี่…’


จิสึกะมุ่งหน้าไปยังเขตปลอดคน


ปลายทางเป็นป่าไผ่นอกกำแพงเมือง


หญิงสาวหยุดยืนหน้าศาลเจ้าสภาพทรุดโทรม


‘กำลังทำภารกิจ…?’


ป้ายหน้าศาลเจ้าสลักอักษร ‘กัง’ (弓) ซึ่งหมายถึงคันศร


จึงเดาได้ไม่ยากว่า ศาลเจ้าแห่งนี้กราบไหว้บูชาเทพแห่งธนูหรืออะไรทำนองนั้น


ซีบาลไม่มีเจตนารบกวน เพียงกลั้นหายใจและแอบมองจากระยะไกล


มันมิได้คิดร้าย


แค่ต้องการ ‘แอบส่อง’ ความยอดเยี่ยมของอริยศรด้วยตาตัวเอง


ได้ต้องการเป็นศัตรูเลยสักนิด


แก๊ง~


หลังจากจิสึกะเดินเข้าไปในศาลเจ้าราวห้านาที เสียงระฆังใสกังวานได้ดังขึ้นจากจุดห่างไกลออกไป


ต้นเสียงมาจากทางทิศใต้ของศาลเจ้า


ห่างออกไปราว 350 เมตร


เคร้ง!


“…!”


ดวงตาซีบาลพลันเบิกโพลง


เป็นเพราะว่า ศรปริศนาดอกหนึ่ง พุ่งกระทบระฆังที่เพิ่งส่งเสียงดังไปเมื่อครู่อย่างแม่นยำ


‘เล็งยิงได้รวดเร็วขนาดนี้เชียว…?’


ที่นี่คือป่าไผ่


ต้นไผ่หลายร้อยหลายพัน เรียงรายกีดขวางเส้นทางระหว่างศาลเจ้าและระฆังทิศใต้


แต่ศรปริศนากลับพุ่งแหวกผ่านทุกสิ่ง กระทบเข้ากับระฆังที่ห่างออกไป 350 เมตรอย่างแม่นยำ


…เหนือสิ่งอื่นใด เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากระฆังดังเพียงสามวินาที


ในวินาทีที่ระฆังตี กว่าจะค้นหาต้นเสียงให้พบและง้างธนูเล็งไปยังทิศดังกล่าว ก็คงเสียเวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งวินาทีเข้าไปแล้ว


นั่นจึงเป็นผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อมาก


‘ถ้าจิสึกะเป็นคนยิงศรดอกนั้นด้วยตัวเอง…’


มีความเป็นไปได้ว่า พลังต่อสู้ในระยะประชิดของเธอจะเพิ่มขึ้นจากคลาสนักธนูหลายเท่า


สาเหตุสำคัญที่นักธนูเสียเปรียบในการต่อสู้ระยะใกล้ก็คือ ก่อนปล่อยศรออกจากคัน จะต้องผ่านขั้นตอนอันซับซ้อนและยุ่งยากมากมาย


เป็นเรื่องสิ้นเปลืองสมาธิอย่างมากหากต้องคอยหลบหลีกการโจมตีจากศัตรู และคิดคำนวณหาทางยิงตอบโต้กลับไปในเสี้ยววินาที


ยิ่งไปกว่านั้น นักธนูในซาทิสฟายไม่เหมือนกับคลาสนักธนูในเกม 2 มิติ และ 3 มิติชนิดอื่น การเคลื่อนไหวภายในซาทิสฟายต้องสมจริงและสัมพันธ์กันทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะแขน ขา สะโพก หรือหัวไหล่


จิสึกะที่ได้ชื่อว่ามีเชิงธนูเก่งกาจที่สุดในโลก อาศัยการอ่านเกมล่วงหน้าและฝีมือการบังคับตัวละครอันเป็นเลิศ หลบหลีกการโจมตีที่เข้ามาหาและได้เร็วกว่านักธนูคนอื่น และยิงโต้ตอบกลับด้วยอัตราความเร็วที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย


แต่ถึงอย่างนั้น กว่าเธอจะยิงศรออกไปได้สักดอก ก็ต้องขยับร่างกายไม่ต่ำกว่าสองก้าว


สรุปโดยสั้น จิสึกะต้องคอยหลบการโจมตีอย่างน้อยสองครั้งจากศัตรูสายประชิด เพื่อแลกกับการโจมตีสวนกลับแค่ครั้งเดียว


แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว


ด้วยความเร็วในการลั่นศรดอกเมื่อครู่ เธอสามารถยิงตอบโต้ได้ในทุกการตัวขยับครึ่งก้าว มิใช่หนึ่งถึงสองก้าวเหมือนในอดีต


แก๊ง~


เสียงระฆังดังขึ้นจากจุดใหม่


คราวนี้เป็นทางทิศเหนือของศาลเจ้า


ระยะห่างราว 400 เมตร


เคร้ง!


ถัดไปเป็นฝั่งตะวันออก


ระยะทาง 500 เมตร


เคร้ง!


‘…ทำได้ยังไง’


40 วินาที


เพียง 40 วินาทีหลังจากเสียงระฆังแรก ระฆังอีก 7 ใบส่งเสียงใสกังวานไล่เรียงตามลำดับ


ผลลัพธ์ก็คือ จิสึกะส่งศรพุ่งกระทบระฆังทั้งแปดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยระฆังใบสุดท้ายอยู่ห่างออกไปไกลถึง 900 เมตร


‘พลังทำลายของศรก็ยังเพิ่มขึ้นมาก’


ซีบาลที่กลืนน้ำลายเหนียวโดยไม่รู้ตัว ชำเลืองสายตาไปยังทางเข้าศาลเจ้า


กึก


เสียงฝีเท้าดังแผ่วเบาในความมืด


เป็นสัญญาณว่า จิสึกะกำลังจะปรากฏตัวในอีกไม่ช้า


นั่นคือสิ่งที่ซีบาลคิด


แต่ในความเป็นจริง เสียงฝีเท้าเป็นเพียงกลอุบายอันแยบยล เพื่อให้ศรสามดอกพุ่งปักหัวไหล่กับหน้าอกของซีบาลอย่างเงียบงัน


“อะ…?”


ในฐานะอดีตอันดับสองของโลก ซีบาลมีความขยันในการทำภารกิจมาก มันไล่สะสางงานที่แกรนมาสเตอร์มอบหมายอย่างหมดจด ส่งผลให้ปัจจุบันมีเลเวลสูงกว่า 380


ด้วยเลเวลที่แตกต่าง การโจมตีของจิสึกะจึงไม่สามารถเอาชีวิตได้


สุ้มเสียงของหญิงสาวดังแว่วเข้ามาในหูซีบาล


ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจิสึกะที่กำลังย่างกรายออกจากศาลเจ้าด้วยรอยยิ้มแฝงเลศนัย


“ฉันเกลียดพวกสโตกเกอร์”


“ข…ขอโทษที่แอบตามมา… ฉันก็แค่”


“อยากดวล? ก็ดี ฉันก็เหมือนกัน”


‘ตั้งแต่ตอนไหน…!’


ซีบาลพลันเผยสีหน้าประหลาดใจ


เนื่องจากมันแหงนหน้าขึ้นไปเห็นฝนธนูที่กำลังโปรยปรายจากท้องฟ้า


ประหนึ่งสาดถังสีลงบนผืนผ้าใบ จิสึกะทำการย้อมสนามรบด้วยฝนธนูนับหมื่นดอกในพริบตา


***


วอลนัทสีทองคือไอเท็มที่ประเมินค่ามิได้


แม้แต่ราชวงศ์ของทวีปตะวันออกก็ยังมีไว้ในครอบครองด้วยจำนวนที่ไม่มากมายนัก


จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า แหล่งปลูกวอลนัทสีทองคือหนึ่งในข้อมูลลับที่มีราคามหาศาล


ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางเข้าถึงได้แน่


แต่กริดมีเครือข่ายข้อมูล แถมยังเป็นแหล่งข้อมูลสุดพิเศษ


“ที่อาณาจักรชิง เราขออวยพรให้ท่านโชคดี”


กริดได้ทราบข้อมูลสำคัญหลังจากกษัตริย์โชเชิญไปดื่มน้ำชาเป็นการส่วนตัว


ชายหนุ่มเตรียมออกเดินทางไปยังอาณาจักรชิงโดยไม่รีรอ


และเมื่อได้ยินว่ากษัตริย์ชิงเองก็ชื่นชอบตนเช่นกัน มันรู้สึกเบาใจลงหลายส่วน


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,703
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00