จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,552
ไฮเซ็น·ซาฮารัน
สายเลือดจากอาณาจักรล่มสลาย ร่างอวตารแห่งการแก้แค้น
รุ่นแล้วรุ่นเล่า มันอุทิศชีวิตเพื่อลงทัณฑ์อาณาจักรที่ข่มเหงและทำลายอาณาจักรของตน
นี่คือเบื้องหลังการถือกำเนิดจักรวรรดิแรกในประวัติศาสตร์
จักรวรรดิคือสัญลักษณ์ซึ่งพิสูจน์ว่า การแก้แค้นของไฮเซ็น·ซาฮารันประสบความสำเร็จ
“แต่ถ้าลูกหลานคนใดของข้าผิดสัญญากับท่าน… ท่านจงพิสูจน์ศักดิ์และสิทธิ์ด้วยดาบเล่มนี้ ขึ้นครองบัลลังก์ด้วยตัวท่านเอง นำพาจักรวรรดิไปยังทิศทางที่ช่วยเติมเต็มความปรารถนาของท่าน… ไม่ต้องกังวล… ท่านจะได้คืนร่างเดิมแน่นอน”
ซิกหวนนึกถึงวาระสุดท้ายของซาฮารัน
นับตั้งแต่ได้เป็นมหาจักรพรรดิ ซาฮารันก็สูญเสียแรงจูงใจในการใช้ชีวิตมาตลอด จนกระทั่งถึงวันที่มันเลือกจบชีวิตตัวเอง
มันถ่าย ‘ปราณต้นกำเนิด’ ลงในดาบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตนเพื่อมอบจุดจบให้ตัวเอง
แม้แต่เจตจำนงสุดท้ายก็ยังเพื่อซิก
ราวกับมันไม่เสียดายจักรวรรดิซึ่งตนอุทิศทั้งชีวิตเพื่อสร้างขึ้นมา ซาฮารันส่งต่อให้กับซิกอย่างง่ายดาย
ซิกคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเข้าใจซาฮารันผิด
มันตีความว่าซาฮารันบรรลุจุดประสงค์ของตัวเองแล้ว จึงตัดสินใจละทิ้งจักรวรรดิโดยไม่สนใจจะรักษาคำสัญญา
นั่นคือเหตุผลที่มันวางตัวเพิกเฉยตลอดหลายร้อยปี ทั้งที่เห็นลูกหลานของซาฮารันเดินไปบนเส้นทางผิดและไม่ยอมรักษาสัญญากับตน
ซิกเข้าใจหัวอกลูกหลานของซาฮารัน
อย่างไรก็ดี ด้วยผลจากคำสาปเกียจคร้าน มันกลายเป็นคนเย็นชาจนมิอาจแสดงออกทางอารมณ์
ใช่แล้ว เป็นเพราะซิกไร้อารมณ์
จึงไม่ทันได้ตระหนักว่า
ดวงตาของซาฮารันในตอนนั้น แฝงความอบอุ่นไว้มากมายเพียงใด
“…”
ซิกรีบร้อนกลับจากเกาะคอร์กเนื่องจากสัมผัสถึงปราณของซาฮารัน
เป็นธรรมดาที่จะสัมผัสได้ เพราะต้นกำเนิดของปราณในดาบซาฮารัน สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่มีแหล่งกำเนิดเดียวกัน
ซิกโมโหมาก
มันยังไม่ลืมข้อตกลงระหว่างตนกับซาฮารัน
“ช่วยทำให้ข้าเป็นจักรพรรดิ แล้วข้าจะช่วยท่านฟืนคืนร่าง”
ซิกรักษาสัญญา
แต่ในทางกลับกัน ซาฮารันทิ้งให้ลูกหลานเติมเต็มคำสัญญาแทน
เป็นเพราะในยุคสมัยดังกล่าว สภาพแวดล้อมยังไม่เอื้ออำนวยให้ซาฮารันบรรลุคำสัญญา
ซิกไม่มีทางเลือกนอกจากจำยอม มันปล่อยให้ซาฮารันจากไปอย่างสงบ
แล้วนี่มันอะไร?
ซาฮารันคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
หมายความว่า มันเตรียมตัววางแผนคืนชีพให้ตัวเองมาตลอด แต่ไม่เคยคิดจะรักษาสัญญา
“…ข้าเพิ่งได้ร่างคืนเมื่อไม่นานมานี้ แม้กระทั่งคำสาปก็ถูกขจัด”
ระดับสายตาของซิกค่อยๆ ลดลงจนมาอยู่ในระนาบเดียวกับซาฮารัน
เฉกเช่นที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่ในหลายสมรภูมิ
ความโกรธของซิกละลายหายไปราวกับหิมะ
เมื่อได้เห็นซาฮารันในวัยหนุ่ม ความเข้าใจผิดก็ถูกแก้ไข
‘นี่ไม่ใช่การคืนชีพ… เข้าใจแล้วว่าทำไมกระแสของปราณสีชาดถึงไม่ปรกติ’
ซาฮารันตรงหน้ามิใช่คนตายที่กลับมาคืนชีพ แต่เป็นตัวตนจากอดีต
คาดว่าเป็นช่วงที่เพิ่งครองบัลลังก์ได้ไม่นาน
‘ในเวลานั้น ซาฮารันแข็งแกร่งพอที่จะไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากเรา’
แต่มันก็ยังให้ซิกคอยอยู่เคียงข้าง
นั่นสินะ… ซาฮารันพยายามรักษาสัญญาอย่างสุดความสามารถแล้ว…
ซิกได้เห็นในสิ่งที่ตนไม่เคยเห็นในอดีต
“อารมณ์เย็นชาของข้าได้รับการรักษาแล้ว”
เสียงของซิกสั่นเครือแผ่วเบาขณะอธิบาย
เมื่อสัมผัสถึงอารมณ์ ซาฮารันฉีกยิ้มกว้าง
มันถึงกับหลั่งน้ำตา ประหนึ่งว่าเป็นผู้ฟื้นคืนร่างกายให้ซิกด้วยตัวเอง
ซิกนึกขึ้นได้
ซาฮารันไม่ได้จบชีวิตตัวเองเพียงเพราะขาดแรงจูงใจ
เพื่อจะรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับซิก มันหาวิธีถนอมพลังของตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุด จะได้คอยเป็นพลังให้ซิกตลอดเวลา
“…เจ้าเป็นสหายของข้าเสมอ”
นั่นคือคำกล่าวของซิก
“ฮึก…”
ซาฮารันปิดปากเงียบ
ภาพที่มันพยายามใช้ฝ่ามือใหญ่ๆ ปกปิดน้ำตาซึ่งกำลังพรั่งพรู ดูไม่สอดคล้องกับรูปลักษณ์อันร้อนแรงประหนึ่งเปลวเพลิงเลยสักนิด
“ขอบใจมาก”
ซิกขอบคุณจากก้นบึ้งหัวใจ
ลูกหลานของเจ้าผิดสัญญา…
ความจริงเหล่านั้นคือสิ่งที่พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์
ซิกไม่ได้ทำเพื่อซาฮารัน
แต่มันไม่ต้องการให้อดีตเปลี่ยน
หากพูดความจริงออกไป
ซาฮารันจะไม่จบชีวิตตัวเองโดยการถ่ายปราณต้นกำเนิดใส่ดาบ
และคงฝืนทำตามคำมั่นสัญญาไปอีกร้อยปีโดยไม่ยกหน้าที่ให้ลูกหลาน
นั่นจะทำให้อดีตเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ไม่มีใครทราบว่าจะส่งผลกระทบต่อปัจจุบันหรือไม่
ซิกจึงเลือกเก็บงำเอาไว้
ซู่ว—
ปราณสีชาดของซาฮารันซึ่งปกคลุมไปทั่วไรน์ฮาร์ท เริ่มสลายตัวทีละนิด
ดูคล้ายกลีบดอกไม้สีแดงที่ปลิวไสว
ท่ามกลางกลีบดอกไม้โปรยปราย ดวงตาซาฮารันจดจ้องดาบในมือซิก
เมื่อเห็นดาบซึ่งเปี่ยมไปด้วยปราณสีชาดของตน ซาฮารันก็ทราบชะตากรรมทันที
‘อย่างที่คิด… เราเลือกที่จะเสียสละตัวเอง’
มันมิได้กังวลหรือหวาดกลัว
มหาผู้พิชิต
ซาฮารันซึ่งเป็นเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ทำเรื่องนี้สำเร็จ ย่อมมีความทระนงตนสูงลิบ
มันภูมิใจกับตัวเองในอนาคตที่ยอมทำทุกวิถีทางแม้ว่าจะต้องจบชีวิตลง
“เจตจำนงของยุคสมัยกำลังผลักไสข้ากลับ เห็นทีคงต้องไปแล้ว”
“…ลาก่อน”
“อา”
ซาฮารันผงกศีรษะพลางกระซิบกระซาบกับซิก
“อาจเป็นคำขอที่ฟังดูไร้สาระ แต่ในเมื่อลูกหลานรักษาสัญญา ข้าอยากให้เจ้าช่วยปกป้องพวกเขาและจักรวรรดิต่อไป… เทพมนุษย์ที่แข็งแกร่งตนนั้นพยายามใช้กำลังฮุบกลืนจักรวรรดิ น่าเจ็บใจที่ข้ามิอาจเอาชนะเจ้านั่นได้”
“พระองค์มิได้ฮุบกลืนด้วยกำลัง”
“…?”
“ทุกอาณาจักรรวมถึงจักรวรรดิ ล้วนยอมจำนนต่อเทพโอเวอร์เกียร์ด้วยเจตจำนงของตัวเอง ไม่มีการบังคับขู่เข็ญ”
“หา…?”
ซาฮารันแทบไม่เชื่อหู
ซิกคือหนึ่งในเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ
กลุ่มคนที่เคยเปิดฉากทำสงครามกับสวรรค์
มันเกลียดชังและไม่เคยไว้ใจเทพ ซาฮารันค้นพบข้อเท็จจริงนี้หลังจากก่อตั้งจักรวรรดิและร้องขอการอวยพรจากเทพธิดา
ใช่แล้ว
ซิกเกลียดชังแม้กระทั่งเทพธิดารีเบคก้า มหาเทพต้นกำเนิดและพระผู้สร้าง
แต่เมื่อครู่ มันกลับพูดถึงเทพมนุษย์ในแง่บวก เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจเชื่อลง
“มีเทพที่เจ้ายอมรับและให้เกียรติด้วยหรือ…”
“อย่าเข้าใจผิด ข้าต่ำต้อยเกินกว่าจะให้เกียรติพระองค์”
“…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? เทพโอเวอร์เกียร์มันเป็นใคร เจ้าถึงเป็นเอามากขนาดนี้?”
“พระองค์คือเทพเพียงหนึ่งเดียวที่ข้าศรัทธา”
“…!”
ชิ้ง!
วงแหวนเวทปรากฏขึ้นด้านหลังซาฮารันซึ่งกำลังยืนมึนงง จากนั้นประตูมิติก็เปิดออก
เป็นประตูมิติอันบิดเบี้ยวซึ่งปลายทางคืออดีต
การดำรงอยู่ของซาฮารันขัดต่อเจตจำนงของยุคสมัยปัจจุบัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง โลกกำลังผลักซาฮารันกลับไปยังอดีต
ขณะซาฮารันถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ สายตาของมันชำเลืองไปทางกริด
ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
“ขอบใจมาก”
เมื่อได้เห็นทัศนคติของซิก
ใครคือผู้ฟื้นคืนร่างเนื้อให้ซิก?
มหาผู้พิชิตไม่ใช่คนโง่
“ทันทีที่ข้าถูกส่งกลับ ความทรงจำของข้าในยุคสมัยนี้จะหายไป… อย่างน้อยก็ยังได้มีความสุขชั่วขณะหนึ่ง… ได้โปรด…”
ได้โปรดดูแลสหายของข้าด้วย…
น่าเสียดายที่ซาฮารันไม่ได้พูดออกไป
เวลามีไม่มากพอ
แต่ถึงอย่างนั้น เจตจำนงของมันก็ถูกส่งต่อผ่านสายตา
เป็นความตั้งใจอันแรงกล้าจนเกิดเป็นตราประทับ
[ท่านได้รับสมญานาม <ผู้ถูกยอมรับจากผู้ก่อตั้ง>]
<ผู้ถูกยอมรับจากผู้ก่อตั้ง>
ไฮเซ็น·ซาฮารัน ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิ ยอมรับและสนับสนุนท่าน
★ สามารถค้นพบมรดกของจักรวรรดิซาฮารันซึ่งซ่อนอยู่ทั่วทั้งทวีปได้ง่ายขึ้น
★ เพิ่มโอกาสค้นพบทรัพยากรจำพวกเหมืองแร่ภายในจักรวรรดิซาฮารัน
★ ค่าความน่าเกรงขามจะแสดงผลเป็นสองเท่าเมื่อใช้กับราชวงศ์และขุนนางจักรวรรดิซาฮารัน
“…”
ผู้เล่นต้องออกผจญภัย จึงจะได้พัฒนาตัวเอง
เพราะเป็นเรื่องยากที่ความสำเร็จจะลอยมาหาคนที่อยู่เฉยๆ
แต่ในระยะหลัง เรื่องราวบทใหม่และความเชื่อมโยงมากมายกลับเป็นฝ่ายลอยมาหากริดด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นบีบัน ราชาดาร์กเอลฟ์ ดราโกเนี่ยนลอร์ด หรือไฮเซ็น·ซาฮารัน
นี่คือพลังแห่งอำนาจและชื่อเสียง
ปัจจุบัน เรื่องราวมากมายกำลังหมุนรอบตัวกริด
คล้ายกับความพยายามในอดีตกำลังทยอยตอบแทนให้ชายหนุ่มเมื่อเวลายิ่งผ่านไป
หยุดพักสักวันดีไหม?
“…ไปดื่มกัน”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
เทพเพียงหนึ่งเดียวที่ข้าศรัทธา
กริดยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าซิกมองตนเช่นไร มันรู้สึกขอบคุณซิก และไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง
ทางซิกเองก็เช่นกัน
ทั้งสองต่างดึงดูดเข้าหากันและกัน
‘ต…แต่ว่า ทีมล่าเฮลกาโอกำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่นาที…’
ลอเอลมิอาจพูดออกไป
ผู้คนส่วนใหญ่อาจเข้าใจผิด เพราะในความเป็นจริง ความสำคัญอันดับหนึ่งของลอเอลคือกริด มิใช่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ การสังเวยตัวเองให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์บ่อยครั้งก็เพียงเพื่อผลประโยชน์ของกริด
หรือกล่าวได้ว่า เป็นเรื่องยากที่จะให้ลอเอลขัดขวางความตื่นเต้นของกริด
***
ดันเจี้ยนเกาะคอร์กกำลังเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
สมาชิกเข้าร่วมเต็มความจุสูงสุด
ผู้คนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อเข้าร่วมทีมล่าเฮลกาโอซึ่งกำลังจะปรากฏตัวในอีกไม่ช้า
มากมายเสียจน ต่อให้ไอเท็มเกรดมิธดรอป การนำไปขายและหารเงินก็คงได้ต่อหัวไม่มากนัก
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะแจกจ่ายไอเท็มดรอปจากเฮลกาโอให้ผู้เข้าร่วมทุกคนอย่างเท่าเทียม
“ด้วยคนจำนวนมากขนาดนี้ แค่โจมตีคนละครั้ง เฮลกาโอก็ละลายแล้วไม่ใช่หรือ”
บทสนทนาปราศจากความตึงเครียดโดยสิ้นเชิง
ทุกคนเติบโตขึ้นมากหลังจากผ่านมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร และนั่นหมายถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น
ทว่า เหล่าไฮแรงเกอร์ต่างกำลังประหม่า
หลังจากอ่านกลยุทธ์ในการล่าเฮลกาโอซึ่งกิลด์โอเวอร์เกียร์เปิดเผย พวกมันตระหนักถึงความยากของบอสตัวนี้เป็นอย่างดี
‘รูปแบบการต่อสู้เข้าขั้นโกง จนยากจะเชื่อว่ามีใครสามารถผนึกมันในร่างเนื้อสำเร็จ แม้จะเป็นมุลเลอร์ก็ตาม… หรือว่าผนึกอ่อนแอลง? จนพวกเรามองว่ามันแข็งแกร่งกว่าข่าวลือในช่วงแรกหลายเท่า’
กลุ่มไฮแรงเกอร์สูดลมหายใจยาวเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
พวกมันยังมีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
กล่าวกันว่า วีรบุรุษของสงครามอย่างปิอาโร่ บราฮัม ซิก และคนอื่นๆ จากกิลด์โอเวอร์เกียร์จะคอยสนับสนุนทีมล่า
ถ้าทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อย่างน้อยก็คงไม่เสียชีวิต
‘ใช่แล้ว ขอเพียงพวกเราไม่ตาย’
จุดประสงค์หลักของผู้เข้าร่วมทีมล่าเฮลกาโอก็คือ ได้รับสมญานามที่ช่วยขจัดผลข้างเคียงในนรก
หากเสียชีวิตระหว่างการล่า โอกาสได้รับสมญานามจะถูกยืดออกไป และนั่นคือความเสียหายใหญ่หลวง
พวกมันต้องการลงไปเก็บเลเวลในนรกโดยเร็ว
ใช่แล้ว
ผู้เล่นต่างใจจดใจจ่ออยู่กับการลงไปเก็บเลเวลในนรก
นั่นก็เพื่ออนาคตของมนุษยชาติ และยังเป็นการแก้แค้นในมหาสงคราม
มีปัจจัยหลายข้อที่ผลักดันพวกมัน
“อีกหนึ่งนาที!!”
แวนเนอร์ตะโกนกึกก้อง
ภาพที่มันกำลังกางบาเรียวงกว้างเพื่อเตรียมรับมือการโจมตีทางอากาศซึ่งเฮลกาโอจะใช้เปิดศึก ดูน่าทึ่งจนเหนือคำบรรยาย
แวนเนอร์ผู้สร้างบาเรียคุ้มกายนับพันด้วยตัวคนเดียว เป็นราวกับจุดสูงสุดของอัศวินผู้พิทักษ์
เมื่อก่อนเคยมีข่าวลือด้านลบเกี่ยวกับแวนเนอร์มากมาย เช่นการนำแต้มสถานะไปอัปแต่ค่าพละกำลัง แต่ทุกคนในที่นี้เชื่อว่าคงเป็นข่าวเท็จ
“อะไรนะ? ซิกหายตัวไป?”
ความฮึกเหิมของผู้คนซึ่งก่อตัวขึ้นหลังจากได้ยินแวนเนอร์ประกาศว่าเหลืออีกหนึ่งนาที พลันฝ่อลงเมื่อได้ยินคำพูดล่าสุด
มันตะโกนด้วยเสียงที่ดังมาก
ดังไปถึงทุกซอกมุมของดันเจี้ยน
เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนในทีมเสียขวัญ
“ทีมล่าครั้งนี้ไม่มีซิก?”
“ซิกคือตัวตนที่แข็งแกร่งเป็นรองเพียงกริดและบราฮัมไม่ใช่หรือ”
“เขาดูเจ๋งกว่าบราฮัมอีกนะ…”
“หมายความว่ายังไง? เกิดอะไรขึ้น?”
ขณะความโกลาหลกำลังก่อตัว
“ไม่ต้องกังวล แค่พวกเราก็เพียงพอแล้วที่จะปกป้องทุกคน”
จิสึกะก้าวเท้าออกมา
ด้านหลังเธอมีภาพมายาของฟีนิกซ์แดง
หนึ่งในไฮแรงเกอร์ซึ่งเติบโตมากที่สุดในมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร
ทันใดนั้นเอง การโจมตีเป็นวงกว้างของเฮลกาโอปรากฏขึ้น บางส่วนซึ่งทะลวงผ่านบาเรียของแวนเนอร์ล้วนถูกศรของจิสึกะยิงสกัด
กองอัศวินม้าห้าสิบนายที่นำโดยป็อน บุกฝ่ากำแพงไฟเข้าไปดึงดูดความสนใจจากเฮลกาโอ ส่งผลให้สมาชิกทีมล่าทุกคนมองเห็นช่องว่างและประเคนการโจมตีทุกชนิดเข้าใส่เฮลกาโอ
บราฮัมและปิอาโร่มิได้ออกหน้ามากนัก
ส่วนใหญ่คอยดูแลคนที่มีแนวโน้มว่าจะถูกโจมตี ด้วยการสร้างบาเรียหรือต้นไม้เพื่อป้องกันความเสียหาย
สถานการณ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นกว่าที่ทีมล่าคาดคิด
เฮลกาโอมิได้อ่อนแอลง แต่เป็นผลมาจากมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร
เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสงคราม เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่ผ่านสงครามล้วนแข็งแกร่งขึ้นมาก
> ที่นี่กลายเป็นตลาดสดไปแล้วหรืออย่างไร!!
เสียงคำรามเจือความโกรธของเฮลกาโอส่งผลให้ดันเจี้ยนสั่นสะเทือนหนักหน่วง
มีแต่คนจ้องจะพุ่งเข้ามาโจมตี…
มันรู้สึกราวกับตนเป็นเพียงกระสอบทราย
ภาพจำของมุลเลอร์ค่อยๆ เลือนหาย
แทนที่จะเคียดแค้นมุลเลอร์ซึ่งทำลายร่างเนื้อ เฮลกาโอกลับเกลียดชังกริดที่ทำให้เกิดสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่า
[เฮลกาโอถูกโค่น]
“สุดยอด!”
หลังจากต่อสู้อยู่นานหลายสิบนาที สมาชิกทีมล่าทุกคนต่างหันมาสวมกอดและส่งเสียงเชียร์
ยอดผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์
ความสำเร็จอันน่าทึ่งถูกแพร่แบบปากต่อปากไปยังหลายเว็บไซต์ทั่วโลก
มีการคาดเดาว่า ผู้เล่นจะลงไปเก็บเลเวลในนรกได้เร็วกว่ากำหนดเดิม
ในเวลาเดียวกัน
บาซาร่าได้รับรายงานว่า ก่อนจะถูกส่งกลับอดีต ผู้ก่อตั้งได้ให้การยอมรับกริด
เธอมีความสุขเป็นล้นพ้นและเร่งหารือกับขุนนาง เกี่ยวกับการผนวกรวมดินแดนอีกครั้ง คราวนี้มีเสียงคัดค้านเพียงเล็กน้อย
ไม่สิ ในความเป็นจริงคือไม่มีการคัดค้าน
ขุนนางส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการผนวกรวมดินแดนกับโอเวอร์เกียร์ และส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยก็ถูกไคล์ข่มขู่จนขวัญผวา
ไคล์มีพฤติกรรมเช่นนี้เพราะมันต้องการดูดีในสายตากริด เป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดมากกว่าการประจบประแจง
ขณะเดียวกัน
“ฉันคงนิ่งดูดายไม่ได้แล้ว”
ดาเมี่ยน ประมุขแห่งศาสนาโอเวอร์เกียร์ เตรียมเคลื่อนไหว
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังพัดผ่านไปทั่วโลก
______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059 ★ ★ จบบริบูรณ์ ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ
Comments
Post a Comment