จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,551



เลือดของราชวงศ์จักรวรรดินั้นไม่มีวันสูญสลาย


ปราณสีชาดจะยังคงอยู่แม้ถูกแบ่งให้ลูกหลานจำนวนมากในตระกูลจนเจือจางลง


เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไม ปฐมซาฮารันผู้ก่อตั้งจักรวรรดิถึงได้รับการเชิดชูเยี่ยงเทพ


มันสามารถสร้างจักรวรรดิที่มีอายุยืนนับพันปีได้โดยที่สายเลือดไม่เกิดการกลายพันธุ์


จักรวรรดิมิใช่บันทึกประวัติศาสตร์ หากแต่เป็นเทวตำนาน


เทวตำนานแห่งผู้ก่อตั้ง


“ซาฮารัน… ไฮเซ็น·ซาฮารัน?”


ลอเอลไม่เชื่อสายตา


ชายตัวสูงในชุดพื้นเมืองโบราณ


ลอเอลคุ้นเคยชื่อและใบหน้าเป็นอย่างดี


เพราะเป็นใบหน้าที่ได้เห็นและชื่อที่ได้ยินหลายครั้งผ่านภาพวาด รูปปั้น และตำนานพื้นเมือง


ถ้อยคำ ‘วงแหวนเวทอัญเชิญราชวงศ์’ แล่นเข้ามาในความคิดลอเอลที่กำลังตื่นตะลึง


เป็นเวทมนตร์ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นภายในราชวงศ์ และมีเพียงมหาจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถเปิดใช้งานได้


บาซาร่าให้เหตุผลว่า นี่คือไพ่ตายสุดท้ายที่จะช่วยให้จักรวรรดิรอดพ้นจากวิกฤติ


“เจ้ากล้าเอ่ยนามข้าออกจากปาก? ดูเหมือนว่ากฎหมายดั้งเดิมในอดีตจะถูกทำลายไปแล้วสินะ”


ความคาใจสุดท้ายถูกปัดเป่า


ก่อนที่ดยุคจะส่งสัญญาณบอกใบ้ ลอเอลรีบคุกเข่าลงและก้มศีรษะ


“ขอคารวะบิดาแห่งจักรวรรดิผู้ยิ่งใหญ่”


“มันควรจะเป็นบิดาผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดินะ”


ผมสีแดงยาวสลวยของซาฮารันเริ่มปลิวไสว


ราวกับเปลวไฟกำลังโหมกระหน่ำ


สีสันอันเข้มข้นชวนให้นึกถึงกระแสแห่งเวลา


นั่นเพราะผมสีแดงเช่นนี้คือสิ่งที่ขาดหายไปในราชวงศ์รุ่นปัจจุบัน


“ท่าน… คืนชีพ?”


ลอเอลเกิดคำถามมากมายในหัว


จากบรรดาคำถามหลายข้อ ลอเอลเลือกข้อที่สำคัญที่สุด


ซาฮารันเดินไปทางหน้าต่างพลางยิ้ม


“เพียงตั้งคำถามกับข้า เจ้าได้ก่อความผิดไปแล้วสามประการ… โชคดีที่ตาเฒ่าวิปริตไม่ได้มาด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงฆ่าเจ้าและสร้างความวุ่นวายใหญ่หลวง เจ้าควรดีใจที่สถานที่แห่งนี้แตกต่างจากโลกที่ข้าเคยอาศัย”


“…”


หางตาลอเอลกระตุกแผ่วเบา


มันจับสังเกตจากคำพูดของซาฮารัน


ลมหายใจที่อีกฝ่ายพ่นออกมาไม่ใช่ภาพมายา


“ไหวพริบใช้ได้… อา… ข้าไม่ได้คืนชีพ ข้าอาจเป็นบุคคลที่ตายไปแล้วในประวัติศาสตร์ของเจ้า แต่สำหรับข้า ประวัติศาสตร์นั้นยังมาไม่ถึง”


แก่นแท้ของวงแหวนเวทอัญเชิญถูกเปิดเผย


“หากจะให้นิยามในมุมมองของเจ้า ข้าคือตัวตนจากอดีต”


สายตาซาฮารันจดจ้องออกไปด้านนอกหน้าต่าง


“แตกต่างจากจักรวรรดิอันเสื่อมโทรม ที่นี่สามารถเข้าถึงอารยธรรมอันงดงาม”


“องค์จักรพรรดิ…! ที่ไททันเป็นเช่นนั้นก็เพราะสงคราม…!”


ดยุคมอริสอดไม่ได้ที่จะตะโกน


ก่อนมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรจะเริ่มขึ้น ไททันยังคงเป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งของทวีป


ลูกหลานของท่านสร้างความรุ่งโรจน์ให้จักรวรรดิโดยไม่ขาดตกบกพร่อง…


นั่นคือสิ่งที่มันต้องการจะพูด


แต่คำพูดของมอริสถูกขัดจังหวะกลางคัน


โดยฝีมือดยุคเกล็นฮาล


“พวกเราก่อความผิดที่สมควรได้รับโทษตาย”


เกล็นฮาลไม่แก้ตัว


ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่จักรวรรดิก็ตกต่ำจนถึงขั้นต้องปรึกษาหาหรือเกี่ยวกับการผนวกรวมกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


การนิยามสิ่งนี้ว่า ‘ความเสื่อมโทรม’ ก็นับว่าถูกต้องแล้ว


“เมื่อได้เห็นสภาพอันน่าสมเพชของเมืองหลวง ข้าได้เกิดความคิดที่ว่า แม้ตัวข้าจะรวมแผ่นดินไว้ได้เป็นปึกแผ่น แต่จักรวรรดิก็คงมิอาจดำรงอยู่ไปตลอดกาล สิ่งที่ยิ่งใหญ่คือตัวข้าผู้นี้ มิใช่จักรวรรดิ… แต่นั่นเป็นเพียงความคิด ไม่ใช่การยอมรับ”


ซาฮารันเดินไปนั่งในตำแหน่งที่สูงที่สุด


ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่มีการขออนุญาต


แม้แต่ลอเอลก็มิได้โกรธเคือง


ไฮเซ็น·ซาฮารันคือหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประวัติศาสตร์ของทวีป ลอเอลจำต้องเคารพเหมือนกับที่เหล่าดยุคทำ


ซาฮารันกวักมือให้ลอเอลที่กำลังยืนทำความเคารพอย่างนอบน้อม


“นั่งลง”


“ขอบคุณสำหรับความกรุณา”


“เด็กที่เรียกตัวเองว่าจักรพรรดินีกล่าวกับข้าว่า อาณาจักรเล็กๆ นามว่าโอเวอร์เกียร์ช่วยให้จักรวรรดิรอดพ้นจากวิกฤติ”


“ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้เพราะพันธมิตรทั้งหมด รวมถึงจักรวรรดิ สามัคคีร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรค”


“อ่อนน้อมถ่อมตนดี… ข้าเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดของสงครามก่อนจะมาที่นี่แล้ว แค่อยากจะเห็นด้วยตาตัวเองว่า อาณาจักรใดกันที่ถูกยกย่องให้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าจักรวรรดิ? ทว่า… ข้าค่อนข้างผิดหวัง”


ดวงตาซาฮารันเปี่ยมไปด้วยท่าทียั่วยุ


“อาณาจักรแห่งนี้ไม่มีศูนย์รวม”


“…”


“ทหารและอัศวินของพวกเจ้าแข็งแกร่งมาก และตัวเจ้าก็มีสายตาเฉียบแหลมจนสามารถมองทะลุฟ้า อีกทั้งยังมีสติปัญญาดีเยี่ยม… แต่ก็เท่านั้น ระหว่างทางที่มาที่นี่ ข้าลองสำรวจในหลายพื้นที่ แต่ก็ไม่พบใครเลยที่โดดเด่นพอจะเป็นเสาหลักค้ำจุนอาณาจักร ไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าเจ้าคนทรยศทั้งสอง เช่นนั้นแล้วเหตุใดจักรวรรดิถึงต้องเป็นฝ่ายผนวกรวมเข้ากับโอเวอร์เกียร์? เพราะเงินหรือ?”


ดวงตาอันดุดันของซาฮารันจ้องไปทางสองดยุคขณะกล่าวคำว่าคนทรยศ


“จักรวรรดิอาจมิได้คงอยู่ไปตลอดกาล แต่ข้าก็ไม่ต้องการเห็นสิ่งที่ตนเองสร้าง ถูกคนทรยศขายชาติเพื่อแลกเงินจำนวนน้อยนิด… ข้าสัมผัสได้ถึงชะตากรรมบางอย่าง บางที การที่ข้าถูกอัญเชิญมาในเวลานี้ อาจเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ข้าช่วยสั่งสอนลูกหลานที่กำลังหลงทาง”


ลอเอลจ้องไปทางดยุค


พวกนายไม่รู้หรือไงว่าจะเกิดขึ้นเช่นนี้? ลอเอลส่งสายตาไม่สบอารมณ์


ทำไมถึงไม่แจ้งข่าวล่วงหน้า?


ดยุคเกล็นฮาลด้านข้างแอบส่งกระดาษ


อันที่จริง เราเข้าใจว่าพิธีกรรมวงแหวนเวทอัญเชิญของมหาจักรพรรดินีประสบความล้มเหลว


แต่ดูเหมือนว่า ผลลัพธ์ของพิธีกรรมจะเพิ่งเกิดขึ้นหลังจากผ่านไปแล้วสักระยะหนึ่ง


โดยไม่รู้ตัว องค์ปฐมจักรพรรดิเดินเข้ามาหาพวกเราขณะกำลังประชุมในประเด็นเกี่ยวกับการผนวกรวมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์พอดี


นับตั้งแต่นั้น พระองค์ก็ตราหน้าว่าเราเป็นพวกขายชาติและไม่สนใจฟังในสิ่งที่พูด


ความเป็นมาถูกเขียนไว้อย่างกระชับ


“เจ้าคิดจะฮุบกลืนจักรวรรดิใช่ไหม? เช่นนั้นก็จงต้านรับการโจมตีของข้า หากทำไม่ได้ เมืองนี้คงถึงคราวพินาศย่อยยับ”


ซาฮารันกล่าวขณะลูบดาบในมือ สีหน้าท่าทีเผยความคุกคามชัดเจน


ลอเอลถอนหายใจลึก


พิจารณาจากกระแสของเหตุการณ์ คงยากแล้วที่จะหลีกเลี่ยงการนองเลือด


‘ก็อยากจะเคารพอยู่หรอกนะ…’


แต่คนแบบนี้ต้องถูกสั่งสอนเสียบ้าง…


ลอเอลเผยสีหน้าสงสารขณะจ้องไปทางซาฮารัน


***


กองกำลังหลักของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังกระจายตัวไปตามวิหารกัลกุนอส เทือกเขาเคอัส นรก และเกาะคอร์ก


ขุนพลส่วนใหญ่กำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนาตัวเอง ส่วนเหนือมนุษย์อย่างบราฮัมและซิกรับหน้าที่คอยสนับสนุนทีมล่าเฮลกาโอ


“ซาฮารัน?”


ณ โรงตีเหล็กของกริด


คำอธิบายอย่างร้อนรนของลอเอลทำให้กริดเริ่มตื่นเต้น


“นายหมายความว่า ผู้ก่อตั้งอาณาจักรซาฮารันมาที่นี่ด้วยเครื่องไทม์แมชชีน?”


“ก็ประมาณนั้น…”


“เขาไม่ประสงค์ให้จักรวรรดิถูกอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ฮุบกลืน?”


“ใช่ เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี”


“ฉันเข้าใจ ถ้าต้องเป็นเขา ฉันก็คงทำแบบเดียวกัน”


หากในอนาคต เราได้คืนชีพและเห็นอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังจะถูกฮุบกลืนโดยอาณาจักรนิรนาม…


กริดย่อมต้องโกรธ และต้องการยับยั้งอย่างแน่นอน


‘ชักอยากเจอเร็วๆ แล้วสิ’


เกิดเปิดช่องสัมภาระ


ซาฮารันคือหนึ่งในบุคคลที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ทวีปตะวันตก


เป็นชายผู้ก่อตั้งจักรวรรดิแรก


อย่างน้อยก็ต้องคุยกันด้วยมารยาท


กริดจึงอยากสวมชุดที่เป็นทางการและดูดี


ทว่า


“เจ้าน่ะหรือ คนที่จะมาสู้แทน?”


ก่อนที่กริดจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ซาฮารันเดินเข้ามาทัก


แน่นอน มันไม่มีทางเดาได้ว่ากริดคือราชา


เพราะนั่นจะเท่ากับว่า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีช่างตีเหล็กเป็นกษัตริย์


ใช่แล้ว


ซาฮารันไม่เชื่อใจคำพูดของสองดยุคที่คอยติดตาม


มันปักใจเชื่อว่าลอเอลติดสินบนคนทั้งสองเรียบร้อยแล้ว นี่คือแผนการสมคบคิดขายชาติ


จักรพรรดิองค์นี้จะลงโทษพวกเจ้าเอง


“บารมีเทพ…? หืม พวกขายชาติก็ไม่ได้โกหกไปทุกเรื่องสินะ”


ซาฮารันสำรวจกริดและค้นพบ


“อาณาจักรที่รับใช้เทพมนุษย์ในฐานะเทพผู้พิทักษ์สินะ เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงแข็งแกร่งทัดเทียมจักรวรรดิ”


ซาฮารันมาจากโบราณกาล


ในเวลานั้นมีอาณาจักรและชนเผ่าจำนวนมากที่รับใช้เทพมนุษย์


มันเป็นเรื่องของความสะดวก


แตกต่างจากเทพแอสการ์ด ชาวเมืองใกล้ชิดกับเทพมนุษย์มากกว่า จึงได้รับความช่วยเหลือได้ง่ายกว่า


เฉกเช่นอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในปัจจุบัน


“แต่อาณาจักรนี้ไม่มีอนาคต”


ซาฮารันประเมินอย่างถี่ถ้วน


ประหนึ่งกำลังพูดกับเกล็นฮาลและมอริส


“เทพมนุษย์แตกต่างจากเทพสวรรค์ แม้จะเป็นตัวตนที่อยู่เหนือมนุษย์ แต่ก็มิได้ทรงอำนาจขนาดนั้น ยังอ่อนแอพอที่จะถูกคุกคามโดยมนุษย์ด้วยกันเอง หรือต่อให้รอดพ้นจากฝีมือมนุษย์ แต่ท้ายที่สุดก็จะได้รับทัณฑ์สวรรค์จนถึงคราวร่วงหล่น หากจักรวรรดิถูกอาณาจักรเช่นนี้ฮุบกลืน อนาคตก็คงหลีกเลี่ยงทัณฑ์สวรรค์ไม่พ้นเช่นกัน”


ซาฮารันก่อตั้งจักรวรรดิได้โดยการพิชิตอาณาจักรเล็กและชนพื้นเมืองจำนวนมาก


กล่าวคือ มันมีประสบการณ์ในการโค่นเทพผู้พิทักษ์


มันอาจเอาแต่พึ่งพาพลังของสหายนามว่าซิกเฟรคเตอร์ในช่วงแรกของสงคราม แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเติบโตขึ้น ลำพังตัวซาฮารันก็แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับเทพมนุษย์


“เข้ามา… ข้าจะกำจัดเจ้าที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด และนำพาลูกหลานที่โง่เขลาไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง”


ซาฮารันประกาศกร้าวพร้อมกับเดินนำไปยังลานกว้าง


มันหันหลังให้เตาหลอมขนาดมหึมาอย่างไม่แยแส จากนั้นก็ชักดาบ


‘ดาบแห่งซาฮารัน’


อาวุธเดียวกับที่ซิกใช้


ทว่า ดาบเล่มนี้จะไม่มีปราณชนิดพิเศษ ซึ่งนั่นก็สมเหตุสมผล


เพราะไฮเซ็น·ซาฮารันเพิ่งเริ่มถ่ายปราณสีชาดลงไปในดาบช่วงบั้นปลายชีวิต และนั่นคือการเร่งอายุขัย


‘เป็นตัวตนจากอดีตจริงๆ’


เทวภัณฑ์จำนวนมากโผล่ขึ้นมาปกคลุมร่างกายกริดขณะเดินตามหลังซาฮารันไป


พวกมันคือเหล่าชุดเกราะที่กริดทุ่มเทสร้างและดัดแปลงอย่างพิถีพิถัน


มีเพียงเสื้อเกราะตัวเดียวที่เป็นผลงานของข่าน


“อึก…”


ซาฮารันเริ่มกลืนน้ำลายหลังจากสังเกตเห็นชุดเกราะเหนือธรรมดาของกริด


ด้วยความสัตย์จริง มันเริ่มประหม่า


แต่ถึงอย่างนั้นไม่แสดงออกมา และไม่คิดจะถอยหลังกลับ


ที่มันประเมินอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไว้สูงกว่าปรกติ สาเหตุหลักเพียงข้อเดียวคือระดับตัวตนของเทพมนุษย์ตรงหน้า


กล่าวคือ หากกำจัดชายคนนี้สำเร็จ จุดยืนของสิ่งต่างๆ ในเหตุการณ์จะกลับไปเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง


“เข้ามา”


ซู่ว! คลื่นสีแดงพุ่งออกจากร่างกายซาฮารันขณะมันผ่อนลมหายใจ


ปราณสีชาด


เป็นพลังที่จะแสดงคุณสมบัติแตกต่างกันตามแต่ฝีมือและพรสวรรค์ของบุคคล แต่หลักการใช้งานยังคงเดิม


เมื่อ ‘แหล่งกำเนิด’ พลังอำนาจสัมบูรณ์เริ่มตอบสนอง ตัวตนที่มาจากอดีตทำการย้อมไรน์ฮาร์ทในอนาคตให้กลายเป็นสีแดงฉาน


‘บางที ตอนนี้ซาฮารันอาจไม่ได้อยู่บนแอสการ์ด’


กริดครุ่นคิด


ซาฮารัน


ตัวตนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์และเสียชีวิตลงในฐานะตำนาน


อย่างน้อย พลเมืองจักรวรรดิบางส่วนก็ต้องนับถือชายคนนี้เยี่ยงเทพเป็นเวลานาน


กริดมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด หากชายคนนี้จะกลายเป็นหนึ่งในเทพแอสการ์ด ณ ปัจจุบัน


‘แต่แน่นอน โอกาสที่จะเป็นเทวทูตนั้นมีมากกว่า’


ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่า เทพแอสการ์ดจะเคารพนับถือซาฮารัน


จึงมีแนวโน้มสูงที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นเทวดารับใช้


ฟังดูช่างน่าเศร้า


โลกที่มนุษย์ไม่ได้รับการเคารพ… นั่นสินะ นี่คือโลกที่ต้องถูกแก้ไข…


“ฉันเข้าใจ มันเป็นธรรมเนียมที่ต้องประลองกันก่อนพูดคุย… ทางนี้ไม่ปฏิเสธ”


กริดชักดาบหนักกูเซล


มันไม่คิดออมมือแม้แต่น้อย


ชายหนุ่มเปิดใช้งาน ‘มายา’ และกระหน่ำยิง ‘ร่ายรำ’ ทันที


“…!”


ซาฮารันเลิกคิ้วหนาๆ พร้อมกับตอบสนอง


มันกวัดแกว่งดาบด้วยความเร็วสูงเพื่อสลายการโหมกระหน่ำของเส้นดาบ


จากนั้นก็รีบพุ่งตัวไปข้างหน้าและยอมปล่อยให้การโจมตีบางส่วนปะทะร่างกาย


นั่นเพราะมันสัมผัสถึงคลื่นพลังไร้ตัวตนที่ลอยขึ้นมาจากฝ่าเท้า


นี่คืออำนาจของ ‘ดาบแห่งความมืด’


มีโอกาส 30% ที่จะสร้างการโจมตีเพิ่มเติมขณะกริดโจมตี


ทักษะสุดโกงที่ยิงเข้าใส่จากจุดบอด บีบบังคับให้ซาฮารันต้องตอบสนอง


“…!?”


ซาฮารันเข้าประชิดตัวกริดสำเร็จและบิดเอวเพื่อเตรียมตอบโต้


ทว่า บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้มันต้องหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง


ภาพที่ปรากฏในการมองเห็นซาฮารันก็คือ กริดมือเปล่ากำลังทำท่าฟันดาบใส่ตน


วืด!


ดาบหนักกูเซลที่อำพรางตัวเองจนถึงเมื่อครู่ ปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากตวัดผ่านลำคอซาฮารัน


กริดชื่นชมจากก้นบึ้ง


“แข็งแกร่งมาก”


แม้แต่กริดเองก็ไม่มั่นใจว่าดาบกูเซลล่องหนไปตอนไหน


ดังนั้นจากมุมมองศัตรู ดาบคงหายไปอย่างกะทันหัน แต่กระนั้นซาฮารันกลับยังตอบสนองได้ทัน


เมื่อผนวกเข้ากับการหลบดาบแห่งความมืดในจังหวะก่อนหน้า คงต้องยอมรับว่า ซาฮารันแข็งแกร่งในระดับเหนือมนุษย์


เป็นพรสวรรค์ที่น่าทึ่งมาก


“…รวมแผ่นดินกันเถอะ”


ซาฮารันจ้องกริดด้วยสายตายกย่องพร้อมกับเก็บดาบ


เป็นท่าทีของผู้ที่ยอมรับความพ่ายแพ้


จากนั้น น้ำตาก็ไหลรินออกมา


‘เขาเจ็บใจที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้…?’


ขณะลอเอลและสองดยุคกำลังฉงนในท่าทีของปฐมจักรพรรดิ


“ข้าดีใจ… ดีใจที่ลูกหลานยังรักษาสัญญา”


ซาฮารันกล่าวพลางแหงนมองท้องฟ้า


ร่างของซิกที่ฟืนคืนสภาพเดิม กำลังสะท้อนอยู่บนกระจกดวงตา


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00