จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,591

 


บราฮัมไตร่ตรองอดีตของตนอยู่เสมอ


จุดประสงค์เพื่อมิให้ก่อความผิดพลาดซ้ำเดิม เช่น การเชื่อใจแพ็กม่ามากเกินไปจนถูกทรยศ และการปล่อยให้ความอิจฉาครอบงำจิตใจจนขโมยผลงานศิษย์เอกมาเป็นของตัวเอง


มันต้องการดำรงตนให้สมฐานะดยุคแห่งปัญญา


บราฮัมเผชิญหน้ากับโลกด้วยเหตุผลและสติ หาใช่อารมณ์ความรู้สึก


ในบางครั้ง เลือดแวมไพร์ที่ไหลเวียนในร่างกายก็พยายามปลุกสัญญาณดิบให้ลืมตาตื่น แต่นั่นเป็นเพียงแรงกระตุ้นชั่วครั้งคราว


บราฮัมภูมิใจในความอดทนของตนมาก


หลักฐานพิสูจน์ก็คือ มันยังคงเลือกใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลพรสวรรค์


สิ่งนั้นไม่เคยแปรเปลี่ยนจวบจนปัจจุบัน


เวทมนตร์คืนชีพ ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์เพราะความหมกมุ่นที่จะมีชีวิตต่อไป


แม้จะได้เห็นชะตากรรมการเวียนว่ายตายเกิดบนโลกกึ่งกลางและรู้ดีว่าสักวันตนต้องถูกลากลงนรก แต่บราฮัมก็ทำเพียงเฝ้ามองทุกสิ่งอย่างสุขุมโดยปราศจากความกลัวและสิ้นหวัง


ทำใจให้สงบและเยือกเย็น


เป้าหมายสุดท้ายในชีวิตของมันคือการฝากรอยแผลไว้บนร่างครานเบลตลอดกาล


ชื่อของมหาจอมเวทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จักต้องกลายเป็นมหาตำนานชั่วนิรันดร์


แต่ทันใดนั้นเอง


“…”


ตึกตัก!


หัวใจบราฮัมที่เงียบสงบมาเนิ่นนาน เริ่มเต้นระรัวผิดไปจากความตั้งใจ


สายตาจดจ่ออยู่กับภาพกริดกำลังขี่คอมังกรยักษ์


ออร่าเทพของกริดถูกแต่งแต้มบนท้องฟ้าตามความเร็วของมังกร


ทุกครั้งที่มังกรหักเลี้ยว แสงสนธยาสีส้มที่ล้นเอ่อ ดูราวกับเป็นผ้าม่านคอยปกคลุมโลกทั้งใบ


ไม่ต่างอะไรกับภาพในความฝัน


แต่นี่คือความจริง


มันสัมผัสถึงเลือดอุ่นๆ ที่ไหลจากข้อมือ


“ขี่… มังกร?”


เป็นแนวคิดที่อยู่เหนือความรู้ของดยุคแห่งปัญญา ผู้ไม่เคยยึดติดกับกรอบสามัญสำนึก


บราฮัมทำได้เพียงขำแห้งกับตัวเอง ไม่ใช่การขำเพื่อเย้ยหยัน หากแต่เป็นความยินดี


ในทางกลับกัน


> …


ครานเบลขำไม่ออก


ในตอนที่เทพโอเวอร์เกียร์มาถึงครั้งแรก


มันเองก็ได้เห็นเรื่องราว ‘เทพบ้ามังกรบ้า’


เป็นภาพฉายที่เกิดจากเศษชิ้นส่วนของอิฟริตในตัวกริด


ฉากดังกล่าวดูไม่สมจริงจนเหล่ามังกรยากจะทำความเข้าใจ แต่ครานเบลกลับมิได้สั่นคลอน และพอจะคาดเดาเรื่องราวได้บางส่วน


ย้อนกลับในตอนนั้น อิฟริตคงกำลังจะตาย


เมื่อเห็นว่าอิฟริตเสนอตัวเองให้กริดขี่ ครานเบลรู้สึกเห็นใจ


ใช่แล้ว


ครานเบลมั่นใจ อิฟริตเพียงหวังใช้ประโยชน์จากกริด


แค่ให้รอดพ้นจากวิกฤติในเวลานั้น


คงไม่มีความหมายลึกซึ้งแอบแฝง


ใช่แล้ว


ครานเบลไม่ทราบเรื่องที่กริดเป็นผู้สร้างเขาให้อิฟริต


ย่อมคาดไม่ถึงว่า ‘เทพบ้ามังกรบ้า’ เกิดจากความไว้ใจซึ่งกันและกันอย่างแรงกล้าโดยไม่หวังผลตอบแทน


‘ระดับตัวตน… เพิ่มขึ้นมากี่ขั้น?’


หลังจากยืนยันว่ากริดไม่ถูกดึงดูดเข้าหาตน เกล็ดของครานเบลเริ่มตั้งชันประหนึ่งคมมีด มองผิวเผินอาจดูน่ากลัว แต่นั่นคือสัญญาณของความกังวล


ซู่ว—!


ออร่าเทพของกริดแผ่ปกคลุมร่างกายบาสก์ทุกส่วน


แม้แต่ลมหายใจของบาสก์ก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม


ฟ้าว!


เมื่อเห็นลมหายใจสีส้มปกคลุมทัศนวิสัยกะทันหัน ครานเบลละทิ้งความเย่อหยิ่งและพ่นลมหายใจตอบโต้


อาจตอบสนองได้ล่าช้า แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา


ครานเบลคือมังกรในลำดับชั้นสูงสุด


แม้จะตอบสนองได้ช้ากว่าอีกฝ่าย แต่ผลลัพธ์ก็คงไม่แตกต่าง


วงจรเวทมนตร์ เวทจิต สมรรถภาพร่างกาย และอีกมาก


ทุกสิ่งล้วนเหนือกว่าอีกฝ่าย


บึ้ม—!!


ลมหายใจครานเบลที่พ่นช้าไปหนึ่งจังหวะ ปะทะเข้ากับลมหายใจของบาสก์


ครานเบลวางแผนขั้นถัดไปทันที


มันสยายปีกทั้งสองข้างพร้อมกับสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็พุ่งตัวตามหลังลมหายใจเมื่อครู่ไป เพื่อเตรียมพ่นลมหายใจระลอกใหม่ใส่ทิศทางที่บาสก์จะหลบหนี


ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วมาก


สามารถกล่าวได้ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นทันทีที่ลมหายใจปะทะกัน


> …!


ทว่า หน้าอกครานเบลที่ดูแข็งแกร่งประหนึ่งกำแพง กลับถูกบดขยี้อย่างจัง


เป็นผลจากการไล่ตามลมหายใจตัวเองด้วยความเร็วสูง


มันย่อมคาดไม่ถึงว่า


ลมหายใจของตนจะพ่ายแพ้บาสก์โดยสิ้นเชิง


ซู่ววว—!


ลมหายใจบาสก์ที่ป่นเกล็ดบนหน้าอกครานเบลจนแหลก ยังคงไม่สูญเสียพลังและดันร่างครานเบลไปด้านหลังเป็นระยะทางไกล


‘…เหลือเชื่อ’


แทนที่จะเป็นครานเบล ฝ่ายที่กำลังตกตะลึงคือบาสก์


ลมหายใจถือเป็นสัญลักษณ์แทนมังกรแต่ละตัว เป็นพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด


ดังนั้นความจริงที่ว่า ลมหายใจของบาสก์เหนือกว่าครานเบล แทบไม่มีทางเป็นไปได้ต่อให้ท้องฟ้าพลิกกลับด้าน


แต่กริดกลับทำให้สิ่งนั้นเป็นจริง


<ดยุคแห่งการขยาย>

เมื่อเปิดใช้งาน พลังของเวทมนตร์และทักษะจะเพิ่มขึ้นจากเดิมสองเท่า

แต่ทรัพยากรและระยะหน่วงจะเพิ่มขึ้นสองเท่าเช่นกัน

★ทักษะและไอเท็มลดระยะหน่วงจะแสดงผลเพียง 65%


กฎเกณฑ์ใหม่ถูกกำหนดขึ้นในวินาทีที่ลมหายใจของบาสก์ ถูกเปิดใช้งานในหน้าต่างทักษะของกริด


กฎเกณฑ์ที่ว่าก็คือ บาสก์จะมีศักยภาพเหนือกว่าลำดับชั้นของตัวเอง


กฎเกณฑ์ที่ทำให้ครานเบลต้องตกอยู่ในวิกฤติ


‘เร็วขึ้นอีก!’


ลำตัวกริดแบนราบไปบนต้นคอบาสก์ เมื่อเทียบกับฉากการนั่งเชิดไหล่หลังตรงอย่างสง่าผ่าเผยเมื่อครู่ สภาพปัจจุบันค่อนข้างน่าอดสู แต่เป็นเรื่องช่วยไม่ได้เพราะยิ่งความเร็วสูงขึ้น แรงปะทะจากลมก็ยิ่งมาก


> จับให้แน่น!


เตรียมรับมือแรงปะทะที่มากกว่าเดิม


กริดเปลี่ยนท่าทางเป็นนัยว่าได้ยินคำเตือนของบาสก์ ผู้กำลังขบฟันอันแหลมคมนับร้อยซี่แนบแน่น พลางไล่ตามครานเบลอย่างสุดชีวิต


ครานเบลถูกไล่ทันอย่างรวดเร็ว


ต้องไม่ลืมว่า มันถูกลมหายใจกระแทกจนมิอาจทรงตัวได้ชั่วคราว


ลมหายใจของบาสก์ที่ถูกเสริมพลังเป็นสองเท่ารุนแรงถึงเพียงนั้น


กร้วม!!


บาสก์กัดคอครานเบลเต็มแรง


เปรี้ยง!!


หางของบาสก์และครานเบลปะทะกันกลางอากาศ


เกิดเสียงดังกังวานไปทั่วทิศ ออร่าเทพของกริดและผืนนภาสั่นสะเทือนหนักหน่วง


สายตาครานเบลมองมาทางกริด


มันโล่งใจเล็กน้อยที่เห็นอีกฝ่ายเหลือแขนเพียงข้างเดียว


เพราะนั่นจะทำให้วิชาดาบคู่อันแข็งแกร่งถูกผนึก


ชิ้งชิ้งชิ้ง!


ขณะกริดขยับเข้าใกล้ครานเบล ไอเท็มหลายสิบชิ้นพรั่งพรูออกจากช่องสัมภาระพร้อมกับก่อตัวเป็นรูปร่างท่อนแขน


แขนเทียมที่ส่วนมือดูคล้ายกับหัตถ์เทวะ


หนึ่งในสองพลังอำนาจที่กริดได้รับหลังจากป่าวประกาศข้อเท็จจริงของนรก


แขนเทียมซึ่งสร้างจากหลักการที่ว่า เทพโอเวอร์เกียร์คือ ‘ผู้ปกครองทุกสิ่ง’


[<พลังปกครอง> ทำการฟื้นฟูแขนที่หายไป]


<พลังปกครอง>

ผสานไอเท็มตั้งแต่สองชิ้นขึ้นไปเพื่อสร้างวัตถุหรือปรากฏการณ์

พลังของวัตถุหรือปรากฏการณ์จะแปรผันตามค่าความคงทนรวมของไอเท็มที่นำมาผสาน

★ ไม่สามารถใช้ไอเท็มที่มีค่าความคงทนอนันต์เป็นเป้าหมาย

ระยะหน่วง: หนึ่งชั่วโมง

ระยะเวลาการคงสภาพ: สามนาที


ทักษะที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากร


แต่ก็ไม่ง่ายที่จะใช้งาน


หลังจากเปิดใช้ ‘พลังปกครอง’ ส่วนที่เหลือต้องถูกเติมเต็มด้วย ‘จินตนาการ’ เพื่อสร้างวัตถุหรือปรากฏการณ์ที่ปรารถนา


อย่างไรก็ดี เว้นเสียแต่จะมี ‘ต้นแบบ’ ที่ชัดเจนเหมือนกับหัตถ์เทวะเช่นในปัจจุบัน การจินตนาการวัตถุหรือปรากฏการณ์ให้เสร็จภายในเวลาอันสั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย


ชิ้ง!


ท่อนแขนกริดซึ่งถูกแทนที่ด้วยโลหะเย็น ดูแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตก้าวข้ามชนิดอื่นที่สามารถงอกร่างกายใหม่หรือไม่ก็ต่ออวัยวะได้ในพริบตา


เมื่อชายหนุ่มถือดาบคู่ด้วยท่าทางติดขัดเล็กน้อย ระบบเริ่มตอบสนองทันที


[<ทิวทัศน์ขุนเขาและลำธาร> ถูกเปิดใช้งาน]


[ท่านใช้ดาบวาดทิวทัศน์ที่ใครบางคนพยายามปกป้องมาตลอดชีวิต]


“สยบมังกร…”


> คิดจริงหรือว่ามังกรจะถูกสยบง่ายดายเช่นนั้น!


ครานเบลคำรามลั่น


ปากของบาสก์ที่กำลังฝังเขี้ยวลงบนต้นคอ ถูกมันใช้สองมือกระชากออกอย่างโหดเหี้ยม


ทันใดนั้นเอง


ซ่า—!


เปลวไฟลุกโชนท่วมโลกทั้งใบ


เขตแดนพายุเพลิงเทพซึ่งเป็นโลกจินตภาพของเทพโอเวอร์เกียร์


พลังงานจากหัวใจฟีนิกซ์แดงถูกโคจรเต็มกำลัง


ราวกับกำลังตอบสนองต่อโทสะและความเกรี้ยวกราดของกริด


ซู่ว—


โลกจินตภาพถูกเสริมความแข็งแกร่งขึ้นหลายระดับ


จวบจนปัจจุบัน ศัตรูมากมายเคยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า


เหนือมนุษย์และตัวตนที่ก้าวข้ามส่วนใหญ่ สามารถทำลายโลกจินตภาพของกริดได้ง่ายดาย


แต่ในวินาทีนี้


> หือ…!?


ครานเบลมิอาจทำลายเขตแดนพายุเพลิงเทพ มิอาจหยุดการฟื้นตัวอันรวดเร็วของบาสก์และกริด


“…ทำลายล้างคลื่นร่ายรำสังหาร!!”


ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยพายุสีแดงและแสงสนธยา


เทพกำลังเต้นระบำ


บนศีรษะมังกร ด้วยดาบสองเล่ม


พลังที่ถูกเค้นจากอักขระแห่งความตะกละ ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับท่วงท่าการร่ายรำ


กริ๊ง~


เสียงกระดิ่งที่ใสกังวาน ทำเอาภาพของกริดซ้อนทับกับใครบางคน


เสียงคำรามอันกึกก้องของครานเบลถูกกลบด้วยเสียงระเบิดของเส้นปราณดาบ


[สุดยอดวิชาต่อสู้ แสดงผล!]


[คริติคอล!]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 5,378,922,746 หน่วย]


[…เทพสวรรค์ต่างพากันตื่นตะลึง!]


[เซราทุลจ้องมองท่านด้วยดวงตาแดงก่ำ…]


[ท่านถูกโจมตีอย่างหนัก!]


[เทพย่อมไม่ตายโดยง่าย]


[รีบหนีไปยังวิหารที่ใกล้ที่สุด!]


ความเพลิดเพลินแสนปีติ เกิดขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดแสนสาหัส


กริดที่กำลังร่วงหล่น มองเห็นละอองแสงสีเงินเจือจาง


เป็นร่องรอยของลมหายใจครานเบล ที่ทะลวงผ่านไขสันหลังบาสก์และปะทะเข้ากับร่างกริด


[ผลจากสมญานาม <ดรากอนไนท์> หยุดทำงาน]


ขณะครานเบลใช้ดวงตากลมโตมองดูกริดที่ร่วงหล่น หลอดพลังชีวิตของมันถูกเผยให้เห็น ‘เสียที’ หลังจากถูกกริดกระหน่ำการโจมตีอันหนักหน่วงมาหลายยก


> เทพโอเวอร์เกียร์… ขอบใจมากที่ทำให้รู้ว่าอิฟริตเหนือกว่าข้า


คำพูดครานเบลถูกส่งไปยังสมองกริดที่กำลังขาวโพลน


ชายหนุ่มถูกบีบให้ต้องเลือก


จะหนีกลับวิหาร หรือจะอยู่ต่อและสู้จนถึงหยดสุดท้าย?


ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย


แน่นอนว่ากริดเลือกข้อหลัง


เพราะบราฮัมยังอยู่ที่นี่


“บราฮัม…! รีบหนีเร็ว!!”


กริดแหกปากด้วยสีหน้าสิ้นหวัง


เมื่อได้ขี่บาสก์และยกระดับตัวตน ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ทันที


ครานเบลใช้วาจามังกรครอบงำสนามรบมาตั้งแต่ต้น


แต่อำนาจดังกล่าวกำลังเสื่อมลง


และนั่นคือโอกาสที่บราฮัมสามารถหลบหนี


จนกว่าจะถึงตอนนั้น เราต้องดึงความสนใจจากครานเบลเอาไว้…


ขณะกริดกำลังคิด


> จะไม่มีใครหนีไปจากที่นี่ได้


ครานเบลป่นความหวังจนแหลกละเอียด


ด้วยคำพูดง่ายๆ เพียงไม่กี่พยางค์


> ในวันนี้ ข้าจะก้าวข้ามอิฟริตด้วยการกินพวกเจ้าทุกตัวและ…


ครานเบลมีอันต้องชะงักกลางคัน


เฉกเช่นบาสก์ มีมังกรอีกใหม่บินมารับกริดก่อนจะตกถึงพื้น


ระดับตัวตนของกริดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้วาจามังกรของครานเบลเริ่มเสื่อมอำนาจ


“บราฮัม! หนีเร็ว!!”


กริดที่กำลังโชกเลือด


ชายหนุ่มสัมผัสถึงความตายของตนได้แจ่มชัด จึงโถมเข้าใส่ครานเบลด้วยพลังทั้งหมดที่มี


คราวนี้เป็นลมหายใจสีเขียว


‘เสมือนเทพ’ ถูกใช้งาน ทักษะผสานไอเท็มถูกรีเซตเพื่อสร้างอาวุธที่ทรงอานุภาพอีกครั้ง


น่าเสียดายที่หนนี้ปราศจากเสียงกระดิ่ง


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ครานเบลได้รับบาดแผลเพิ่มเติม


แต่มันกัดฟันทนไว้ได้


ครานเบลปล่อยให้ลมหายใจสีเขียวปะทะร่าง โดยเลือกจะใช้เวทมนตร์กับหางเพื่อรับมือท่ารำดาบของกริด


“คึ่ก…!”


การปะทะรอบที่สองทำให้กริดหล่นจากมังกรอีกครั้ง


มังกรเขียวร่วงลงไปบนผืนทะเลทรายด้านล่างในลักษณะเดียวกับบาสก์


โชคดีที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ตาย


ฟ้าว!


คราวนี้มังกรสีน้ำเงินมารับกริด


ชายหนุ่มทำแบบเดิมอีกครั้ง


เมื่อระดับตัวตนเพิ่มขึ้น มันโถมเข้าใส่ครานเบลพร้อมกับลมหายใจสีน้ำเงิน


แต่น่าเสียดาย ท่ารำดาบในคราวนี้ทั้งสั้นและไร้พลัง


เนื่องจากท่ารำดาบผสานส่วนใหญ่กำลังติดระยะหน่วง


“อั่ก…!”


แรงกระแทกในหนที่สาม หนักหน่วงเกินกว่ากริดจะทนไหว


แขนเทียมถูกทำลายทันที


กระทั่งมังกรสีน้ำเงินก็ร่วงหล่นสู่ผืนทราย


ครานเบลสามารถทนต่อลมหายใจของมังกรอื่น แต่มังกรอื่นมิอาจทนต่อลมหายใจครานเบล


เป็นความเหนือชั้นอันท่วมท้นจนชวนให้สิ้นหวัง


แต่เรื่องที่น่ายินดีก็คือ


“…ต้องอย่างนั้น”


บราฮัมหลบหนีไปได้สำเร็จ


คำสบถทิ้งท้ายของมันยังคงดังก้องไปทั่วสนามรบ


หน้าต่างแจ้งเตือนใหม่แสดงขึ้นจากมุมสายตากริดที่กำลังยิ้ม


[ท่านเหลือเวลาอีก 2 วินาทีก่อนที่ระบบ ‘กลับฉุกเฉิน’ จะปิดการใช้งาน]


[คำเตือน! ความตายของท่านจะได้รับผลข้างเคียงร้ายแรง!]


ผ่านไปแล้วห้าวินาทีหลังจากประกันชีวิตทำงาน


กริดตอบสนองโดยแทบไม่คิด รีบเปิดใช้งานระบบกลับฉุกเฉินพร้อมกับส่งหัตถ์เทวะไปจับมังกรทุกตัวไว้


ทว่า


> เจ้าไม่สามารถหนีไปจากที่นี่


กริดถูกฉุดรั้งโดยกฎเกณฑ์ที่ครานเบลสร้างขึ้นใหม่


> พลังวาจาของมังกร ยิ่งเจาะจงเท่าไรก็ยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น… เทพโอเวอร์เกียร์ผู้อยู่เหนือกาลเวลาเอ๋ย วันนี้ข้าขอปลิดชีพเจ้า แม้ภายในใจจะรู้สึกเคารพและชื่นชอบเจ้าอยู่ไม่น้อย


เวทมนตร์นับร้อยผุดขึ้นจากความว่างเปล่า


เป็นฉากที่ช่วยให้กริดมั่นใจว่า บราฮัมไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว


‘…เป็นการต่อสู้ที่ดี’


[ระบบ <กลับฉุกเฉิน> ถูกปิดใช้งาน]


ขณะหัวใจกริดห่อเหี่ยวหลังจากอ่านข้อความระบบ


> ขึ้นมา


มังกรตัวสุดท้ายพุ่งมาทางกริดพร้อมกับก้มศีรษะ


เซนอน


มังกรดูอ่อนแอที่สุดเมื่อเทียบกับตัวอื่น ไม่เพียงจะตัวเล็ก แต่ยังเต็มไปด้วยบาดแผล และไม่มีแม้กระทั่งปีก


อย่างไรก็ดี นี่คือความหวังสุดท้ายของกริด จึงไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ


กริดซึ่งขึ้นขี่เซนอน ไม่คิดจะพุ่งเข้าใส่ครานเบลแบบครั้งก่อน


มังกรระดับต่ำกับเทพหน้าใหม่ที่ปางตายด้วยกันทั้งคู่ อายุขัยคงไม่ยืนยาวสักเท่าไร


แค่สองคนจะไปทำอะไรได้?


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


เวทมนตร์นับร้อยชนิดถูกยิงใส่กริดโดยพร้อมเพรียง


พิจารณาจากวิถีและรูปแบบ ราวกับผู้โจมตีต้องการลบกริดให้หายไปจากโลก


ลมหายใจเซนอนอ่อนแอจนแทบไม่สลักสำคัญ


ไม่สามารถต้านทานกลุ่มก้อนพลังเวทที่กระหน่ำเข้าใส่อย่างไม่ขาดสาย


ทว่า ใบหน้าครานเบลกลับแข็งทื่อ มันตกตะลึงเสียจนสติที่ถูกแบ่งออกเป็นร้อยส่วน ผสานกลับเป็นหนึ่งเดียวในทันที


แต่ก็ช้าเกินไป


แสงจันทร์อันเย็นเยียบผ่าร่างกายของมันออกเป็นสองซีกไปพร้อมกับทะเลทราย


ครืนนนน—!!


ท่ามกลางเสียงธรณีร้องคำราม ทุกสิ่งร่วงหล่นไปยังใต้ดิน


ทุกฝ่ายเหน็ดเหนื่อยจนมิอาจต้านทานขัดขืน


จนกระทั่งทั้งหมดตกถึงก้นเหว


เรื่องบังเอิญก็คือ ไม่ห่างออกไปมีปราสาทของแมรีโรสตั้งเด่นตระหง่าน


“ฝ…ฝ่าบาท!!”


“…?”


ในแวบแรก กริดเข้าใจว่าที่นี่คือนรก


เพราะชาวเมืองเรย์ดันที่น่าจะตายไปแล้ว กลับยืนห้อมล้อมต้อนรับตนอย่างอบอุ่น

______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00